หลังจากนี้ไปจนถึงสิ้นปี คือเวลาของการช่วงชิงโอกาสของผู้ผลิตรถกระบะทุกราย เพราะก่อนหน้านี้ได้มีการประกาศเปิดตัวรถกระบะรุ่นใหม่อย่างน้อย 2 รายในช่วงปลายปี
เป็นการบอกกล่าวกันล่วงหน้าของค่ายเชฟโรเลต และฟอร์ด ที่ดูจริงจังและเข้มแข็ง ที่ต้องการพลิกกลับมาเพิ่มส่วนแบ่ง และลูกค้า จากเจ้าตลาดรายเดิมอย่างโตโยต้า หรืออีซูซุบ้าง
ตลาดรถกระบะของบ้านเรามีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกมียอดขายปีละเกือบ 800,000 คัน และไม่มีผู้ผลิตรถรายไหนที่จะยอมถอยออกไป
Brand รองกำลังหาทุกช่องทางในการเขย่าผู้นำในกลุ่มหัวแถว
Champ ชื่อรุ่นสะกดคู่แข่ง
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เจ้าตลาดรถกระบะอย่างโตโยต้าจะรู้สึกเฉยๆ กับกลยุทธ์โหมโรงของรถกระบะค่ายอื่นที่ออกข่าวถึงรถรุ่นใหม่ตั้งแต่ต้นปี เพื่อรอขายปลายปี จนถึงต้นปีหน้าเพราะยอดขายของคู่แข่งรายอื่นๆ ไม่ได้กระเทือนกับโยโยต้ามากเท่าไร
โตโยต้า มองแค่อีซูซุเท่านั้นที่จะมาต่อกร หรือแข่งกันในตลาดนี้
กระบะโตโยต้า วีโก้ จึงยังสามารถทำตลาดได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยการปรับเปลี่ยนรูปร่างหน้าตา และอุปกรณ์เสริมบางส่วนเป็นการ Minor Change ก็สามารถเรียกลูกค้า และหยุดความลังเลใจของผู้ซื้อรถกระบะได้ไม่ยากเย็นเท่าไหร่
เคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด บอกว่า กระบะวีโก้ที่ปรับเปลี่ยนโฉมใหม่ ใช้ชื่อว่า “Champ” ซึ่งในความหมายที่ต้องการสื่อสารออกไปคือ รถรุ่นนี้มียอดจำหน่ายกว่า 2,300,000 คัน ครองแชมป์ยอดขาย อันดับ 1 ในประเทศ และแชมป์ส่งออก 5 ปีติดต่อกัน
คำว่า Champ มีความหมายกับโตโยต้าไม่น้อยทีเดียว โตโยต้าเองกว่าจะขึ้นมามียอดขายอันดับหนึ่งได้นั้นต้องใช้เวลาหลายสิบปีกว่าที่จะโค่นแชมป์เก่าอย่างอีซูซุลงได้ โดยอีซูซุมียอดขายอันดับหนึ่งมายาวนานกว่า 15 ปี และมีโตโยต้าไล่หลังมาตลอด
จนเมื่อรถรุ่นวีโก้ออกสู่ตลาดในปี 2548 ก็ค่อยๆ ไล่ตามหลังอีซูซุเข้ามาเรื่อยๆ จนสามารถแซงหน้าได้ในที่สุด
Champ จึงมีความหมายบอกไปถึงคู่แข่งโดยตรงอย่างอีซูซุ ที่เคยอยู่ข้างหน้าโตโยต้ามาก่อน แต่ต้องเสียตำแหน่งให้กับโตโยต้าว่า ไม่ยอมถอยไปง่ายๆ ยังต้องแข่งกันอีกยาวไกล
ในขณะเดียวกันก็บอกถึงคู่แข่งค่ายรถยุโรปอย่างน้อย 2 รายก็คือ เชฟโรเลต และฟอร์ด ที่กำลังจะออกกระบะรุ่นใหม่ว่า โตโยต้ายังคงแข็งแกร่งจนยากที่จะโค่นให้ล้มลงได้ ไม่ว่าจะออกรถรุ่นใหม่มาช่วงไหนก็ตาม
เขาบอกด้วยว่า การสื่อสารถึงคำว่า Champ ยังต่อเนื่องถึง Presenter ของรถรุ่นนี้ที่เลือก คริสเตียโน โรนัลโด นักเตะยอดเยี่ยมที่ได้รับรางวัลในวงการฟุตบอลมากมาย เช่น ดาวซัลโวสูงสุดรองเท้าทองคำ จากสมาพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ ปี 2008, ดาวซัลโวสูงสุดใน La Liga Spain 2010-2011
ซึ่งมีความหมายถึงการเป็นที่หนึ่งของนักเตะระดับโลกของโรนัลโด เปรียบเหมือนการเป็นที่หนึ่งของโตโยต้าด้วยเช่นกัน
การปรับโฉมของโตโยต้า วีโก้ ยังคงยึดตามแนวทางของโตโยต้าคือ การปรับราคาเพิ่มขึ้น ซึ่งครั้งนี้โตโยต้าปรับราคาขายขึ้นประมาณ 4% จากรุ่นเดิม ทำให้ราคารถกระบะของโตโยต้าในรุ่น Top ราคาเกือบ 1 ล้านบาทเข้าไปแล้ว
แน่นอนว่า โยโยต้าก็ได้ Champ ราคารถกระบะที่แพงที่สุดในขณะนี้ไปครองด้วย
ในขณะที่คู่แข่งอย่งอีซูซุ ยังรอเวลาการเปิดตัวรุ่นใหม่ประมาณปลายปี รวมถึงรายอื่นๆ ด้วย โยโยต้าก็ตัดสินใจเร่งการขาย และเร่งการส่งมอบให้เร็วที่สุด โตโยต้าตัดสินใจ ปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพ การผลิตของโรงงานสำโรง และขยายกำลังการผลิตของโรงงานบ้านโพธิ์ ตั้งแต่เดือนกันยายน 2554 เป็นต้นไป เพื่อส่งมอบรถให้กับผู้ซื้อในเวลาที่รวดเร็วขึ้น
โตโยต้า ปล่อยให้คู่แข่งมองยอดขายของโตโยต้าอย่างเจ็บปวดใจ พร้อมกับคิดในใจว่า เมื่อรถใหม่ออกมาแล้ว จะเหลือลูกค้าที่รอรถพวกเขากี่มากน้อย
Chevrolet รถใหม่ราคาเดิมชน Champ
รถกระบะของค่าย เจนเนอรัล มอเตอร์ส ที่มีเชฟโรเลตเป็นสินค้าหลัก ก็มีรถกระบะ โคโลราโด้ ที่โหมโรงมาตั้งแต่ต้นปีถึงรถรุ่นใหม่ ระหว่างนี้ก็ยังเตรียมการอย่างบต่อเนื่อง
มาร์ติน แอพเฟล ประธานกรรมการ ประจำประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด บอกถึงการรับมือกระบะโตโยต้าว่า ต้องการให้ผู้บริโภคมาดูรถของเชฟโรเลตที่โชว์รูมมากกว่า เพื่อจะตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และจะเห็นว่าเราไม่ได้ขึ้นราคา
“อยากให้ผู้บริโภคเป็นคนตัดสินว่าจะเลือกรถอะไร” เขาบอกอย่างหนักแน่น
ความคืบหน้าของรถกระบะ โคโลราโด้ใหม่ ขณะนี้ได้เตรียมความพร้อมในการผลิต โดยในไตรมาสสองที่ผ่านมา โรงงานขึ้นรูปชิ้นส่วน ผลิตโครงรถกระบะไปแล้ว 3,000 ชิ้น ในไตรมาสที่ 3 จะผลิตโครงรถได้ราว 10,000 ชิ้น ขณะที่ในไตรมาสที่ 4 จะผลิตได้ 300,000 ชิ้น ทั้งหมดนี้เพื่อการผลิตรถกระบะรุ่นใหม่โดยเฉพาะ
สำหรับเครื่องยนต์ดีเซลของเชฟโรเลตรุ่นนี้ เขายืนยันอีกครั้งว่า จะใช้เครื่องยนต์ที่เชฟโรเลตพัฒนาขึ้นมาเอง ไม่ใช้เครื่องยนต์จากอีซูซุเหมือนที่ผ่านมา เพราะขณะนี้ได้ขยายศูนย์การผลิตเครื่องยนต์ดีเซล ที่ยังไม่ได้เปิดอย่างเป็นทางการ แค่คาดว่าภายในปี 2556 จะเพิ่มการผลิตจากเดิม 108,000 เครื่องยนต์ต่อปี เป็น 120,000 เครื่องยนต์ต่อปี
ทั้งชิ้นส่วนและเครื่องยนต์ต่างพร้อมรอการขึ้นไลน์ผลิตรถกระบะ โคโลราโด้ โดยลดการพึ่งพาอีซูซุ ซึ่งเป็นรถคู่แฝดได้แล้ว
การขยับตัวของเชฟโรเลต มีผลเกี่ยวเนื่องถึงอีซูซุด้วย เพราะทั้ง 2 แบรนด์นี้ใช้รถกระบะร่วมกันอยู่ อีซูซุป้อนเครื่องยนต์ ชิ้นส่วนต่างๆ ให้กับเชฟโรเลต นำไปติดตราเชฟโรเลต
รถเหมือนกัน แต่ยอดขายแตกต่างกัน
แต่หลังจากนี้ไปเชฟโรเลต พยายามที่จะเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น เห็นได้จากการใช้เครื่องยนต์ของตัวเอง แต่ส่วนการออกแบบคาดว่ายังคงต้องใช้ร่วมกันในบางส่วน
นิสสันจับมือมิตซูบิชิผลิตรถกระบะ
ส่วนค่ายรถกระบะหมายเลข 3 และ 4 อย่างนิสสัน และมิตซูบิชิก็มีความเปลี่ยนแปลงเช่นกัน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายบริษัทแม่ในต่างประเทศ
โนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่า จากข้อตกลงระหว่างนิสสัน มอเตอร์ และมิตซูบิชิ มอเตอร์ คอปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ในการร่วมมือกันทางธุรกิจ มีนโยบายออกมาชัดเจนว่า จะทำการผลิตปิกอัพ นิสสัน นาวารา ในโรงงานมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ที่แหลมฉบัง คาดว่าประมาณเดือนสิงหาคม น่าจะมีความชัดเจนถึงจำนวนการผลิต และการลงทุน เพราะหากเลยช่วงเวลานี้จะทำให้การขึ้นไลน์ประกอบไม่ทัน
การร่วมมือกันครั้งนี้ส่วนหนึ่งมาจากการจัดสรรกำลังการผลิตของทั้ง 2 บริษัทตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
โรงงานประกอบของนิสสันที่บางนา – ตราด มีไลน์การประกอบรถกระบะ รถเก๋ง รวมกันอยู่ และยอดขายหลักของนิสสันขณะนี้คือ นิสสัน มาร์ช ที่ยังต้องรอส่งมอบลูกค้าหลายเดือน
นิสสันต้องเร่งผลิตนิสสันมาร์ช ให้ออกมาได้มากที่สุด เร็วที่สุด ก่อนที่คู่แข่งอย่างฮอนด้าจะเริ่มบุกอย่างจริง หลังจากแก้ปัญหาเรื่องชิ้นส่วนที่ได้รัลผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวได้เรียบร้อยแล้ว
การจัดการโรงงานผลิต จึงต้องหใความสำคัญกับรถที่ขายได้ ส่วนรถกระบะที่ขายได้น้อยกว่า ก็ต้องลดการประกอบลงไป จึงมาลงตัวที่โรงงานของมิตซูบิชิที่แหลมฉบังแทน
มิตซูบิชิเอง โรงงานที่แหลมฉบัง ประกอบรถกระบะ และรถเก๋ง สินค้าหลักขณะนี้กลายเป็นรถกระบะ และรถอเนกประสงค์ จึงต้องจัดการไลน์ผลิตรถเก๋งให้สมดุลกับยอดขาย
ทั้ง 2 รายต่างมาเสริมจุดอ่อนของแต่ละคน เป็นความลงตัวที่เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้งนัก
นิสสัน สามารถทุ่มเทกับการผลิตนิสสัน มาร์ช ได้มากขึ้น เร็วขึ้น พร้อมๆ กับข่าวที่เริ่มออกมาเป็นระยะว่า นิสสัน มาร์ช 4 ประตู ซีดาน กำลังจะเข้ามาเปิดตลาด เป็น Ecocar อีกรุ่นหนึ่งของนิสสัน จึงต้องเตรียมที่ทางไว้รองรับ
มิตซูบิชิ ไม่ต้องกังวลเรื่องรถเก๋ง หันมาเน้นกระบะอย่างเดียว แต่ก็มีข่าวลือออกมาอีกเช่นกันว่า นิสสัน นาวาร่าที่ประกอบจากโรงงานมิตซูบิชิ จะมีการปรับขนาดให้เล็กลง เพื่อให้ราคาขายต่ำลง เพื่อเป็นรถราคาถูก เน้นไปที่การบรรทุก ตามการรับรู้ของผู้บริโภคว่า รถกระบะนิสสันคือการบรรทุกเต็มพิกัด ไม่ใช่รถกระบะโฉบเฉี่ยวอย่างที่เห็นกันอยู่ขณะนี้ แต่ก็คงไม่สามารถเขย่าตำแหน่งChamp ของโตโยต้าได้มากเท่าไหร่
เป็น Champ ทำอะไรก็ง่าย
กลยุทธ์ของโตโยต้าครั้งนี้เรียบง่าย แต่ได้ผล เปิดตัวด้วยรุ่นปรับโฉม เพิ่มออฟชั่น บวกราคา เก็บลูกค้าไปเรื่อยๆ จนถึงสิ้นปี และจำนวนลูกค้าที่ว่านี้ก็เป็นกอบเป็นกำ
เมื่อคู่แข่งรายออกรถรุ่นใหม่มา โตโยต้าก็อาจจะทำแค่เพียงออกข่าวว่ารถรุ่นใหม่กำลังจะออกมาในอีกไม่นาน ให้อดใจรอ แต่ไม่มีการกำหนดหรือขีดเส้นตยว่าจะออกเมื่อไหร่
ผู้ซื้อรถที่กำลังตัดสินใจพิจารณารถจากค่ายอื่น ก็ต้องกลับมาหยุดคิดแล้วว่า รอโตโยต้าก่อนดีหรือไม่ เพราะอย่างน้อย Brand ของโตโยต้ายังคงแข็งแกร่งในใจผู้ซื้อไม่น้อย ซื้อมายังไงก็ไม่น่าจะผิดหวัง หรือผิดคาดเท่าไหร่ คู่แข่งของโตโยต้าทุกราย จึงถูกดักหน้าดักหลังอยู่อย่างนี้
กลยุทธ์ชะลอการซื้อของผู้บริโภคในฐานะตำแหน่ง Champ อย่างโตโยต้า ไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำ และเมื่อทำแล้วจะได้ผล ในขณะที่คู่แข่งทได้ออกมาไม่ค่อยเห็นผลชัดเจนเท่าไหร่
ส่วนคู่แข่งที่ไล่กันมาตลอดอย่างอีซูซุ ก็ไม่ค่อยแตกต่างกัน ยังคงใช้การปรับโฉม เพิ่มออปชั่นมาเรียกร้องความสนใจจากผู้ใช้รถกระบะอยู่เช่นเดิม คงต้องรอจนเชฟโรเลตเปิดตัวรถรุ่นใหม่ก่อน อีซูซุจึงค่อยมีความเคลื่อนไหวของรถรุ่นใหม่
และตัวเลขยอดขายในช่วงก่อนที่โตโยต้าจะปรับโฉม ยอดขายรถกระบะอีซูซุแซงหน้าโตโยต้ไปแล้ว แต่ก็เป็นตัวเลขที่ไม่ทิ้งห่างกันมาก เมื่อวีโก้โฉมใหม่ออกมายอดขายของโตโยต้าก็จะลับมานำอีกครั้ง
ตลาดรถกระบะในบ้านเรา ก็ยังคงเป็นสนามแข่งของโตโยต้า และอีซูซุ อยู่ต่อไปเช่นเดิม
มีอะไรใหม่ใน Toyota Vigo Champ
โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์ รุ่นปรับโฉมมีของใหม่ที่ขายให้กับผู้บริโภคคือ
- ระบบ Diamond Tech ที่เรียนรู้การฉีดจ่ายน้ำมัน สั่งการทำงานทั้งระบบผ่านกล่องคอมพิวเตอร์32 บิท ไม่มีการจ่ายน้ำมันส่วนเกินในทุกรอบเครื่องยนต์
- หัวฉีดเคลือบสาร Diamond Liked Carbon Coating ภายในเข็มหัวฉีดช่วยให้จ่ายน้ำมันได้คล่อง และป้องกันการเกาะตัวของคราบเขม่าที่เกิดจากการเผาไหม้บริเวณช่องจ่ายน้ำมันของหัวฉีด
ราคาเริ่มต้นที่ 487,000 – 988,000 บาท
ยอดขายรถกระบะ (ไม่รวมรถดัดแปลง) เดือนมิถุนายน 2554 | |||
บริษัท | จำนวน (คัน) | เพิ่ม/ลด (%) | ส่วนแบ่งตลาด (%) |
อีซูซุ | 11,357 | ไม่เปลี่ยนแปลง | 38.2 |
โตโยต้า | 9,827 | -18.3 | 33.1 |
มิตซูบิชิ | 3,976 | +107.3 | 13.4 |
รวม | 29,718 | +3.0 | |
ที่มา : บ.โตโยต้า (ประเทศไทย) |
ยอดขายรถกระบะ (รวมรถดัดแปลง) เดือนมิถุนายน 2554 | |||
บริษัท | จำนวน (คัน) | เพิ่ม/ลด (%) | ส่วนแบ่งตลาด (%) |
อีซูซุ | 11,796 | -1.0 | 36.2 |
โตโยต้า | 10,396 | -20.0 | 31.9 |
มิตซูบิชิ | 5,772 | +108.8 | 17.7 |
รวม | 32,584 | +4.0 | |
ที่มา : บ.โตโยต้า (ประเทศไทย) |
ยอดขายรถกระบะ (ไม่รวมรถดัดแปลง) เดือน ม.ค. – มิ.ย. 2554 | |||
บริษัท | จำนวน (คัน) | เพิ่ม/ลด (%) | ส่วนแบ่งตลาด (%) |
อีซูซุ | 69,530 | +11.1 | 37.6 |
โตโยต้า | 65,358 | +2.7 | 35.3 |
มิตซูบิชิ | 20,984 | +171.1 | 11.3 |
รวม | 185,147 | +19.2 | |
ที่มา : บ.โตโยต้า (ประเทศไทย) |
ยอดขายรถกระบะ (รวมรถดัดแปลง) เดือน ม.ค. – มิ.ย. 2554 | |||
บริษัท | จำนวน (คัน) | เพิ่ม/ลด (%) | ส่วนแบ่งตลาด (%) |
อีซูซุ | 73,019 | +10.9 | 35.6 |
โตโยต้า | 71,839 | -1.6 | 35.1 |
มิตซูบิชิ | 30,209 | +135.7 | 14.7 |
รวม | 204,837 | +18.1 | |
ที่มา : บ.โตโยต้า (ประเทศไทย) |
การขายรถยนต์โตโยต้า ม.ค. – มิ.ย. 2554 | |||
จำนวน (คัน) | เพิ่ม/ลด (%) | ส่วนแบ่งตลาด (%) | |
ยอดขาย | 156,301 | +8.0% | 36.2% |
รถยนต์นั่ง | 76,747 | +22.7% | 39.7% |
รถกระบะรวมรถดัดแปลง | 71,839 | -1.6% | 35.1% |
รถกระบะไม่รวมรถดัดแปลง | 65,358 | +2.7% | 35.3% |
ที่มา : บ.โตโยต้า (ประเทศไทย) |
ประมาณการยอดขายรถยนต์ปี 2554 | ||
จำนวน (คัน) | เพิ่ม/ลด (%) | |
ยอดขายรวม | 900,000 | +12.4% |
รถยนต์นั่ง | 410,000 | +18.3% |
รถเพื่อการพาณิชย์ | 490,000 | +8.0% |
รถกระบะรวมรถดัดแปลง | 408,500 | +5.3% |
รถกระบะไม่รวมรถดัดแปลง | 380,000 | +9.4% |
ที่มา : บ.โตโยต้า (ประเทศไทย) |
ประมาณการยอดขายรถยนต์โตโยต้าปี 2554 | ||
จำนวน (คัน) | เพิ่ม/ลด(%) | |
ยอดขายรวม | 360,000 | +10.4% |
รถยนต์นั่ง | 167,500 | +18.2% |
รถเพื่อการพาณิชย์ | 192,500 | +4.5% |
รถกระบะรวมรถดัดแปลง | 181,000 | +9.8% |
รถกระบะไม่รวมรถดัดแปลง | 163,000 | +13.0% |
ที่มา : บ.โตโยต้า (ประเทศไทย) |