ความคืบหน้าธุรกิจ “ไรมอน แลนด์” (RML) ปี’65 เตรียมรับรายได้ราว 2,000-2,200 ล้านบาท จากคอนโดฯ หรู “ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์” ที่จะเริ่มโอนตุลาคมนี้ อัปเดตแผนงานโครงการใหม่ เตรียมเซ็นสัญญาพัฒนาโครงการกับเจ้าของที่ดินทางภาคใต้ ตามนโยบายธุรกิจ ‘Light Asset’ จับมือพันธมิตรแลนด์ลอร์ด ไม่ต้องซื้อที่ดินเอง
“กรณ์ ณรงค์เดช” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ RML เปิดตัวโครงการสร้างเสร็จใหม่ของบริษัท “ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์” (The Estelle Phrom Phong) มูลค่าโครงการ 5,200 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักชัวรีทำเลในซอยสุขุมวิท 26 ห่างจากสถานี BTS พร้อมพงษ์ 200 เมตร จำนวนห้องชุดเพียง 146 ยูนิต ราคาขายเริ่มต้น 16.8 ล้านบาทต่อยูนิต หรือเฉลี่ย 350,000 บาทต่อตร.ม.
ปัจจุบันดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์สร้างยอดขายได้แล้ว 70% โดยในจำนวนนี้ 40% เป็นลูกค้าต่างชาติ ส่วนที่เหลือเป็นลูกค้าไทย โดยห้องชุดที่ราคาสูงที่สุดคือ Penthouse จำนวน 3 ห้องบนยอดตึกถูกเหมาไปโดยเศรษฐีไทยรายเดียวและผสานยูนิตเป็น Penthouse 3 ชั้นขนาดกว่า 1,000 ตร.ม. กรณ์กล่าวว่า ห้องชุดที่เหลือของตึกตั้งเป้าขายหมดภายในไตรมาส 2/2566
ส่วนการโอนกรรมสิทธิ์จะเริ่มเดือนตุลาคมนี้ ทำให้ปี 2565 ไรมอน แลนด์จะได้รับรายได้จากโครงการนี้ราว 2,000-2,200 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผู้ซื้อบางส่วนซึ่งเป็นชาวจีนขณะนี้อาจจะยังไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ เพราะประเทศจีนยังไม่เปิดให้ชาวจีนเดินทางเข้าออกพรมแดน แต่เมื่อใดที่จีนเปิดประเทศ ผู้ซื้อจีนพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ทันที ปัจจุบันยังไม่มีการทิ้งดาวน์
เซ็นดีลที่ดินเพิ่มทางภาคใต้
สำหรับโครงการที่จะเปิดตัวใหม่ กรณ์กล่าวว่า โครงการโรสวู้ด เรสซิเดนซ์ กมลา ภูเก็ต ซึ่งจะเป็นวิลล่าหรูบนเชิงเขา ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนออกแบบและก่อสร้างยูนิตตัวอย่าง คาดจะเปิดขายได้ภายใน Q4/65 หรือ Q1/66
ส่วนโครงการคอนโดฯ ซอยสุขุมวิท 38 กำลังออกแบบเช่นกัน แต่คาดว่าจะเลื่อนไปเปิดตัวปี 2566 จากเดิมที่จะเปิดในปีนี้
ตารางการเปิดโครงการใหม่ๆ ของไรมอน แลนด์ ยังมีดีลใหม่จ่อเข้ามาเสริมทัพด้วย โดยกรณ์ระบุว่าสัปดาห์หน้าบริษัทจะเซ็นดีลกับเจ้าของที่ดินทางภาคใต้รายหนึ่งเพื่อนำมาพัฒนาโครงการหรู ตามกลยุทธ์บริษัทที่ต้องการถือสินทรัพย์ให้น้อยลง (Light Asset) ใช้วิธีเป็นพันธมิตรกับเจ้าของที่ดินและพัฒนาโครงการร่วมกันมากกว่าซื้อขาดที่ดินเข้ามาในพอร์ต
หวังปี 2566 ‘เทิร์นอะราวด์’ สำเร็จ
หนึ่งในเป้าหมายของกลุ่มณรงค์เดชหลังจากเข้ามาซื้อกิจการไรมอน แลนด์เมื่อปี 2564 คือ การสร้างความสม่ำเสมอในการเก็บเกี่ยวรายได้ ทำให้มีการขยับกลยุทธ์หลายอย่างเพื่อหยุดขาดทุนและเริ่มทำกำไร (อ่านกลยุทธ์ดังกล่าวได้ที่นี่)
หลังจากมาปูพื้นบริษัทใหม่แล้ว กรณ์หวังว่าปี 2566 น่าจะเป็นปีแรกที่บริษัทเทิร์นอะราวด์ กลับมาทำกำไรได้สำเร็จ เนื่องจากจะมีการโอนต่อเนื่องของดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์ และเทตต์ สาทร 12 คอนโดฯ หรูอีกแห่งหนึ่งก็จะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์
รวมถึงตึกสำนักงาน One City Centre เพลินจิต ก็จะก่อสร้างเสร็จมกราคม 2566 ทำให้เริ่มเก็บรายได้ได้ ออฟฟิศนี้ปัจจุบันราคาเช่าพุ่งขึ้นมาถึง 1,500 บาทต่อตร.ม.ต่อเดือน และน่าจะทำรายได้คิดเป็น 10% ของพอร์ตรวมของไรมอน แลนด์
กรณ์กล่าวว่า เชื่อว่าตลาดระดับซูเปอร์ลักชัวรีกลับมาฟื้นตัวเต็มที่แล้ว จากช่วง Q3/65 ยอดขายของโครงการเทตต์ สาทร 12 ทำได้ดีเป็นเท่าตัวจากเป้าที่ตั้งไว้ รวมถึงกำลังซื้อต่างชาติก็ยังมี แม้คนจีนยังเดินทางมาไม่ได้ แต่สามารถปิดการขายผ่านระบบออนไลน์ได้ กำลังซื้อเศรษฐียุโรปก็ฟื้นตัวแล้ว และยังเริ่มเห็นสัญญาณดีจากตลาด ‘เพื่อนบ้าน’ เช่น เมียนมา กัมพูชา คนรุ่นใหม่นิยมเข้ามาซื้อคอนโดฯ เมืองไทย เป้าหมายการหันมาจับแต่ตลาดซูเปอร์ลักชัวรีเท่านั้นของ RML จึงมองว่าน่าจะเป็นทิศทางที่ไปได้สวย