หลังจากที่ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ได้กลับลำยอมซื้อกิจการ ทวิตเตอร์ (Twitter) อีกครั้งเมื่อวันที่ 4 ต.ค.65 ในมูลค่า 44,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 54.20 ดอลลาร์ต่อหุ้น เท่ากับที่เคยเสนอไป พร้อมทั้งเรียกร้องให้ Twitter หยุดดำเนินคดีฐานพยายามถอนตัวออกจากข้อตกลง แนวโน้มดังกล่าวแทไปทางที่มัสก์จะได้เป็นเจ้าของ Twitter แน่ ๆ และเขาก็มีแผนจะเปลี่ยนจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเป็น ซูเปอร์แอป
เป็นเวลาหลายเดือนแล้วที่ อีลอน มัสก์ ซีอีโอ Tesla และ SpaceX ได้แสดงความสนใจในการสร้าง WeChat ในเวอร์ชั่นของตนเองที่จะสามารถใช้ทั้ง วิดีโอแชท ส่งข้อความ สตรีมมิ่ง และชำระเงิน ซึ่งเขาตั้งใจที่จะเปลี่ยน Twitter เป็น ซูเปอร์แอป ที่เขาเรียกว่า X
มัสก์ เคยทวีตเมื่อวันที่ 4 ต.ค. ที่ผ่านมาว่า เขาต้องการซื้อ Twitter เพื่แเป็นการเร่งสร้าง X ซึ่งเป็นซูเปอร์แอป และเคยให้รายละเอียดเพิ่มเติมในระหว่างการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีของเทสลาในเดือนสิงหาคม และได้บอกใบ้เกี่ยวกับแนวคิดของฟีเจอร์การชำระเงิน และบริการจะเป็นส่วนสำคัญของแอป พร้อมชี้ว่าในที่สุดก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของ PayPal ได้
แน่นอนว่าแค่คิดนั้นง่าย เพราะใคร ๆ ต่างก็อยากเป็นซูเปอร์แอปทั้งนั้น ดังนั้น เขาอาจจะต้องเจอกับการแข่งขันที่หนักหน่วง อย่าง Facebook เองก็พยายามเป็นมากกว่าแพลตฟอร์มโซเชียล ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มฟีเจอร์การชำระเงิน เกม ช้อปปิ้ง และแม้แต่ฟีเจอร์การออกเดทบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก จนถึงตอนนี้ก็ประสบความสำเร็จเพียงเล็กน้อย รายได้เกือบทั้งหมดมาจากการโฆษณา
Google, Snap, TikTok, Uber และบริษัทอื่น ๆ ต่างก็พยายามที่จะก้าวเข้าสู่ซูเปอร์แอป โดยพยายามจะเป็น สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้ใช้ ในการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน แต่ในปัจจุบันต้องยอมรับว่ายังไม่มีใครไปถึงจุดนั้นได้ นั่นเพราะผู้บริโภคมีแอปเฉพาะสำหรับจัดการช้อปปิ้ง การสื่อสาร และการชำระเงิน
อีกจุดที่น่าสนใจคือ ฐานผู้ใช้ ซึ่งผู้ใช้ Twitter นั้นมีจำนวนน้อยกว่าคู่แข่งบนแพลตฟอร์มโซเชียล อย่าง Facebook, Instagram และ TikTok มีผู้ใช้เกิน 1 พันล้านไปนานมาแล้ว แต่ Twitter มีผู้ใช้ประมาณ 240 ล้านคนต่อวัน
“นิสัยแบบเก่านั้นยากที่จะเปลี่ยน และคนในสหรัฐฯ ก็เคยชินกับการใช้แอปต่าง ๆ สำหรับกิจกรรมที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ ซูเปอร์แอปมักจะดูดข้อมูลส่วนตัวมากขึ้นในแต่ละครั้ง ส่งผลให้ความไว้วางใจในแพลตฟอร์มโซเชียลเสื่อมลงอย่างมาก” จัสมิน เอนเบิร์ก นักวิเคราะห์หลักของ Insider Intelligence กล่าว
ยังไม่มีอะไรยืนยันว่าความสำเร็จของ WeChat ในประเทศจีน จะประสบความสำเร็จเหมือนกันกับตลาดสหรัฐอเมริกาหรือตลาดโลก แม้การใช้งาน WeChat เกือบจะเป็นเรื่องพื้นฐานในจีน แต่นั่นเป็นเพราะคนส่วนใหญ่ไม่เคยมีคอมพิวเตอร์ที่บ้านและข้ามไปที่การออนไลน์ด้วยโทรศัพท์มือถือโดยตรง
โดยประเทศจีนมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 1 พันล้านคน และเกือบทั้งหมดออนไลน์ผ่านโทรศัพท์มือถือ ตามรายงานของศูนย์ข้อมูลเครือข่ายอินเทอร์เน็ตของจีน (China Internet Network Information Center) ที่รัฐบาลจีนอนุมัติ มีเพียง 33% เท่านั้นที่ใช้คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปเลย
ปัจจุบัน WeChat ได้เพิ่มแฮงเอาท์วิดีโอและฟีเจอร์เกี่ยวกับการส่งข้อความอื่น ๆ รวมถึงการช้อปปิ้ง ความบันเทิง และฟีเจอร์อื่น ๆ ที่ลิงก์กับหน่วยงานของรัฐ เช่น ด้านสาธรณสุข การจราจร และประกาศอื่น ๆ ส่วนฟังก์ชันการชำระเงินของ WeChat ถูกใช้อย่างแพร่หลายจนจีนกลายเป็นสังคมไร้เงินสด ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีแอปไหนในสหรัฐอเมริกาเทียบได้