ป้องกันนักสืบโซเชียล! “X” (ชื่อเดิม: Twitter) เริ่มล็อกไม่ให้คนอื่นส่องได้ว่าเรากด “Like” อะไรบ้าง

ภาพจาก Shutterstock
“X” (หรือ Twitter เดิม) เริ่มปรับฟีเจอร์กด “Like” ไม่ให้คนอื่นเข้ามาส่องได้ว่าเจ้าของบัญชีกดหัวใจให้ทวีตอะไรบ้าง ข้อมูลการ Like จะเป็นส่วนตัวมีเฉพาะเจ้าของบัญชีที่กดและเจ้าของทวีตนั้นๆ เท่านั้นที่รู้ ถือเป็นนโยบายล่าสุดจาก “อีลอน มัสก์” ที่ไม่ชอบปุ่ม Like มานานแล้ว

ตั้งแต่เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน “เห่าเฟยหวัง” ผู้อำนวยการด้านวิศวกรรมของ X เปิดเผยว่า แพลตฟอร์มกำลังจะมีการปรับปรุงฟีเจอร์ใหม่ และเป็นการปรับเพื่อ “ปกป้องภาพลักษณ์สาธารณะของผู้ใช้งาน” เพราะ “หลายคนรู้สึกไม่กล้ากด Like คอนเทนต์ที่ล่อแหลม”

จนวันนี้ฟีเจอร์ใหม่ที่ว่าเป็นไปตามแนวคิดของ X นั่นคือ การปรับให้ผู้อื่นไม่สามารถมองเห็นได้ว่าเจ้าของบัญชีกด Like อะไรไปบ้าง จากเดิมสามารถเข้าไปดูได้ที่หน้าโปรไฟล์

ฟีเจอร์ใหม่จะมีแต่เจ้าของบัญชีเท่านั้นที่กลับไปดูย้อนหลังได้ว่าตนเคย Like คอนเทนต์ไหน รวมถึงเจ้าของทวีตนั้นๆ สามารถดูได้ว่ามีใครมา Like ตัวเองบ้าง 

การปรับฟีเจอร์นี้จึงทำให้การ Like “ถูกล็อก” คนทั่วไปไม่สามารถเข้าไป “ส่อง” ได้ง่ายๆ

หน้า Like บนบัญชีส่วนตัวจะมีข้อความขึ้นมาแจ้งว่า “การ Like ของคุณเป็นส่วนตัว มีแต่คุณเท่านั้นที่เห็น”

สำหรับการ Like นั้นมีฟังก์ชันที่ต่างจากการ Repost เพราะการ Repost จะทำให้ทวีตนั้นขึ้นหน้าหลักในโปรไฟล์ของบัญชี แต่ Like จะไม่แสดงที่หน้าหลัก

ทำให้หลายๆ คนมักจะเลือก Repost คอนเทนต์ที่ตัวเองต้องการจะเผยแพร่บอกต่อ ส่วน Like เหมือนมีไว้กดบอกเจ้าของทวีตว่าชอบคอนเทนต์แต่ไม่อยากให้ใครเห็นชัดๆ ว่าเราอยากช่วยเผยแพร่

ปัญหาคือ ทวีตที่ถูก Like มากมายจึงมักจะเป็น “เรื่องลับๆ” ที่สุ่มเสี่ยงต่อกระแสสังคม เช่น แนวคิดรุนแรงทางการเมือง เหยียดเพศ/เหยียดผิว ภาพโป๊ เป็นต้น หลายคนกด Like โดยไม่คิดว่าจะเป็นปัญหา จนกระทั่งนักสืบโซเชียลส่องเจอ ยกตัวอย่างในสหรัฐฯ “เท็ด ครูซ” วุฒิสมาชิก เคยใช้บัญชีส่วนตัวกด Like คลิปโป๊ และมีคนพบเห็น ทำให้เขาตกเป็นเป้าทางการเมืองทันที

ถ้าถามว่าทำไม X ไม่นำปุ่ม Like ออกไปเลยเสียทีเดียว? สำนักข่าว Independent ให้ความเห็นว่า เป็นเพราะพฤติกรรมการใช้งานโซเชียลมีเดียของคนเรา มักจะต้องการกดปุ่มอะไรสักอย่างระหว่างชมคอนเทนต์เพื่อมีส่วนร่วมกับคอนเทนต์นั้นๆ การนำปุ่ม Like ออกไปเลยจะทำให้การมีส่วนร่วมของผู้ใช้ลดลงมาก

สรุปได้ว่า ต่อไปนี้ผู้ใช้ X จะสามารถกด Like คอนเทนต์สุ่มเสี่ยงทั้งหลายได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาส่องเจอ

หลังจาก X แถลงอย่างเป็นทางการว่ามีการล็อกหน้า Like แล้ว “อีลอน มัสก์” เจ้าของ X คนปัจจุบันได้นำข่าวนี้มาเผยแพร่ประกอบข้อความของตนเองว่าเรื่องนี้ “สำคัญมากเพราะเป็นการปล่อยให้ผู้ใช้งานได้กด Like โพสต์ต่างๆ โดยไม่ต้องถูกสังคมโจมตีอีกต่อไป!”

ตัวอีลอน มัสก์เองก็เคยประสบภัยจากการถูกส่องว่ากด Like อะไรบ้างมาแล้ว เช่น เมื่อเดือนมิถุนายน 2023 ซึ่งเป็นช่วง Pride Month มัสก์มีการ Like ทวีตข่าวและมุกตลกที่สื่อถึงการต่อต้านทรานส์เจนเดอร์ และตกเป็นเป้าวิจารณ์ของสังคม LGBTQ+ จึงเป็นไปได้สูงว่าการนำปุ่ม Like ออกคือนโยบายโดยตรงมาจากมัสก์นี่เอง

ที่มา: The Verge, Independent, Them US