“เราไม่ได้เป็นแอปฯ คนแก่ที่แม่เธอชอบเล่น” ความพยายามครั้งล่าสุดของ Facebook ที่จะดึง Gen Z เข้ามาใช้

Facebook ครบรอบ 20 ปีในปีนี้พอดี และเป็นวาระครบรอบที่ท้าทายมากสำหรับโซเชียลมีเดียเจ้านี้ ด้วยปัญหาที่มีมาสักพักใหญ่ของแพลตฟอร์มนั่นคือ สภาวะ “เสื่อมความนิยม” ในหมู่คน Gen Z เพราะถูกวัยรุ่นมองว่าเป็น “แอปฯ คนแก่” จนอาจทำให้แอปฯ เสี่ยงที่จะล้มได้ถ้าไม่มีคนรุ่นใหม่เข้ามาใช้งาน

ผู้บริหารของ Facebook เพิ่งจัดงานอีเวนต์ “next 20 years” ของ Facebook ไปเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2024 ที่เมืองนิวยอร์ก เพื่อชี้ทิศทางให้เห็นว่า Facebook จะมุ่งเน้นการดึง “Gen Z” ให้เข้ามาใช้งาน และจะใช้ปัญญาประดิษฐ์​ (AI) ในการพัฒนาแพลตฟอร์มด้วย

ผู้เข้าร่วมงานอีเวนต์ดังกล่าวจะได้ใบปลิวพิมพ์สโลแกนชัดเจนถึงใจว่า “We are not your mom’s Facebook” ซึ่งสื่อนัยยะตอบโต้ว่า Facebook ไม่ได้เป็นแอปฯ คนแก่ที่คนวัยแม่ชอบเล่นอย่างที่ Gen Z คิด แต่แพลตฟอร์มนี้จะเป็น “ศูนย์กลางของปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมทุกชนิด”

“เรายังเป็นแพลตฟอร์มเพื่อทุกคนอยู่ แต่เราก็เล็งเห็นด้วยว่าถ้าเรายังอยากมีที่ยืนในตลาดอยู่ เราจะต้องสร้างให้แพลตฟอร์มของเราเหมาะกับ Gen Z” ทอม อลิสัน ประธาน Facebook กล่าวในงานอีเวนต์

จากข้อมูลการสำรวจของ Pew Research เมื่อปี 2023 พบว่า มีวัยรุ่นอเมริกันวัย 13-17 ปีเพียง 33% เท่านั้นที่มีบัญชี Facebook แถมยังมีแค่ 3% เท่านั้นที่ใช้ประจำ (*ในประเทศไทย YDM Thailand เคยให้ข้อมูลว่า Facebook ไม่ติด 3 อันดับแรกโซเชียลมีเดียที่คน Gen Z วัย 12-26 ปีชอบใช้)

 

3 กลยุทธ์ Facebook ที่จะดึง Gen Z เข้าแอปฯ

อลิสันกล่าวต่อว่า จากการวิจัยของบริษัทพบว่าช่วงชีวิตของ Gen Z ในระยะนี้จะเป็นช่วงที่มีความเปลี่ยนแปลงมากมายในชีวิต เช่น เรียนจบมัธยม, เรียนต่อมหาวิทยาลัย, เริ่มทำงาน, ย้ายออกจากบ้านเป็นครั้งแรก, ตามหาความรัก

เมื่อมีความเปลี่ยนแปลงมาก วัยรุ่นมักจะต้องการหา “บุคคลจริง” ที่จะมาแชร์ประสบการณ์ที่เจอแบบเดียวกัน หาคนที่มีความสนใจใหม่ในแบบเดียวกัน และอลิสันคิดว่าตรงนี้คือจุดที่ Facebook จะเป็นผู้เชื่อมโยงให้ได้ ดังนั้น 3 สิ่งที่ Facebook จะเน้นหลังจากนี้เพื่อให้โดนใจ Gen Z ได้แก่

1.หน้า Feeds เน้นคอนเทนต์ที่ตรงกับชีวิตคน Gen Z

หันมาเน้นโพสต์ที่มาจากฟีเจอร์ Groups ที่ทำให้คนที่สนใจเรื่องแบบเดียวกันได้มาคุยกัน, โปรโมต Facebook Dating ตอบโจทย์เรื่องการตามหาคู่รัก/คู่เดต และเน้นคอมมูนิตี้ขายของบน Facebook Marketplace

ส่วนโพสต์ที่จะถูกลดการมองเห็นคือฟีเจอร์ที่คน Gen Z ไม่ค่อยสนใจและไม่เป็นการสร้างสังคม เช่น ข่าวสาร

การจัดหน้า Feeds เหล่านี้แพลตฟอร์มจะพัฒนาเทคโนโลยีการเลือกลำดับนำเสนอโพสต์ให้โดนใจคน Gen Z มากขึ้นด้วย

2.เน้น Reels และวิดีโอสั้น

กลยุทธ์นี้เหมือนกับใน Instagram เพราะวิดีโอสั้นเป็นรูปแบบคอนเทนต์ที่คน Gen Z ชอบ และจะเน้นให้การส่งวิดีโอไปในช่องแชทส่วนตัวทำได้ง่ายขึ้น เพื่อให้เกิดการปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนและครอบครัวผ่านการแชร์วิดีโอที่น่าสนใจ

3.สร้างแพลตฟอร์มให้เป็นมิตรกับครีเอเตอร์มากขึ้น

ในอนาคต Facebook จะทำให้ครีเอเตอร์สร้างรายได้จากคอนเทนต์ได้ง่ายขึ้น และใช้พลัง AI เป็นเบื้องหลังเครื่องมือบนแอปฯ ให้กับครีเอเตอร์ เช่น เปลี่ยนพื้นหลังในรูป, ช่วยเขียนโพสต์

ภายในงานอีเวนต์นี้มีคำถามถึง ทอม อลิสัน ว่าการปรับตัวของ Facebook จะทำให้บุคลิกของแอปฯ ไปซ้ำกับ Instagram หรือเปล่า ซึ่งทางอลิสันตอบว่า Facebook จะไปเน้นเรื่องการเชื่อมโยงคนเข้ากับประสบการณ์ต่างๆ ขณะที่ Instagram จะเน้นเรื่องคอนเทนต์ใหม่ๆ และการติดตามครีเอเตอร์ที่ชื่นชอบมากกว่า

Source