“Areeya The Minimal Series” บ้านมินิมอล มัดใจ Gen Y ด้วยงานดีไซน์ที่ขายได้จริง


กระแส “มินิมอล” เทรนด์ที่กำลังมาแรง จุดประกายให้ “อารียา พรอพเพอร์ตี้” แบรนด์อสังหาฯ ที่อยู่ในตลาดมานานกว่า 22 ปี กล้าพลิกแบบบ้านแนวใหม่ให้เหมาะกับคน “Gen Y” และไม่ได้มีแค่ซีรีส์เดียวให้เลือก แต่มี โครงการสไตล์มินิมอลถึง 3 แบรนด์ คือ COMO Bianca, AREN และ NORA เพื่อให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของคนรุ่นใหม่ ทำให้คำว่ามินิมอลไม่ได้มีนิยามตายตัวเพียงแบบเดียว

กระแสรสนิยมแบบ “มินิมอล” ฮิตในไทยมาพักใหญ่แล้วโดยเฉพาะในกลุ่มคน “Gen Y” มองไปทางไหนก็จะเจอสินค้าและบริการที่ใช้สไตล์มินิมอลในการออกแบบ ตั้งแต่ของใช้ส่วนตัวสีขาวไร้ลวดลาย แฟชั่นการแต่งกายเรียบๆ คาเฟ่เก๋ๆ ที่ออกแบบด้วยสีขาวผสมงานไม้ ไปจนถึงโรงแรมบูทิคน่ารักๆ สีเบจ ตกแต่งแบบคลีนๆ เน้นความสบายตาสบายใจในการมาพักผ่อน

แต่เมื่อมองไปในตลาดที่อยู่อาศัย สินค้าที่ตรงกับความต้องการคน Gen Y อาจมีให้เลือกไม่มากนัก ทำให้ “อารียา พรอพเพอร์ตี้” เล็งเห็นโอกาสในการเติมเต็มช่องว่าง สร้างสรรค์ “บ้าน” ที่เข้าใจ Gen Y ทั้งการออกแบบและฟังก์ชันที่ใช่

อารียาฯ วางคอนเซ็ปต์โดยรวมของการออกแบบบ้าน “มินิมอล” ว่าไม่ใช่การตัดทุกอย่าง ลดทอนทุกองค์ประกอบ แต่ตัดเฉพาะสิ่งที่ฟุ่มเฟือย เหลือเฉพาะสิ่งที่จำเป็นกับการอยู่อาศัยตามไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย นั่นทำให้บ้านมินิมอลของอารียาฯ ยังคงมีความเป็นบ้านที่อยู่ได้จริง

นอกจากนี้ อารียาฯ ยังเลือกที่จะตีความคำว่ามินิมอลให้แยกย่อยสำหรับไลฟ์สไตล์ที่ต่างกันในแต่ละกลุ่มด้วย ทำให้บ้านมินิมอลของอารียาฯ ที่มีถึง 3 แบรนด์ ใน Portfolio ได้ถูกรวบรวมไว้ภายใต้ “Areeya The Minimal Series” โดยมี COMO Bianca, AREN และ NORA …เพราะมินิมอลมีได้หลายสไตล์ เหมาะกับกลุ่มคนแต่ละ Segment


Minimal Eco Living ที่ “COMO Bianca” (โคโม่ เบียงก้า)

ย้อนกลับไปปี 2563 โครงการ “COMO Bianca” คือแบรนด์แรกภายใต้ Areeya The Minimal Series ที่ออกสู่ตลาด โดยเลือกปักหมุดแห่งแรกในย่านบางนา แบรนด์นี้มาพร้อมกับบ้านสไตล์มินิมอลสีขาวผสมงานไม้สีอ่อน รวมถึงยังเน้นการใช้ไลฟ์สไตล์แบบ Eco-living เข้ามาดึงดูดคน Gen Y ที่รักษ์สิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ

ด้วยกระแสตอบรับที่ดีและการได้รับความสนใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปีนี้ ทางอารียาฯ ได้เปิดตัว COMO Bianca ll ซึ่งเป็นโปรดักส์ใหม่อย่าง ‘บ้านเดี่ยว’ ที่จะมาตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ตรงใจ ตอบรับ Eco Friendly ด้วย Zero Waste System ที่ทางโครงการได้ติดตั้งถังแยกขยะและเครื่อง Food Waste Composter ช่วยเปลี่ยนขยะจากเศษอาหารเป็นปุ๋ย ที่มีให้กับบ้านทุกหลัง และพื้นที่ส่วนกลางของ Clubhouse และ Glasshouse สำหรับปลูกผักออร์แกนิค รวมถึงพื้นที่ Pet Friendly Area ก็เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง เป็นโซนให้น้องหมาวิ่งเล่นกันได้เต็มที่

กลุ่มเป้าหมายของแบรนด์นี้ เป็นกลุ่ม Growing Family ที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพทำให้ชอบทำอาหารทานเอง ชอบอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ ดูแลต้นไม้ ใส่ใจการดูแลสิ่งแวดล้อม


Modern Minimal ที่ “AREN” (เอเรน)

โครงการนี้ถือว่าเป็นแบรนด์สร้างชื่อที่ทำให้ผู้บริโภคคิดถึงอารียาฯ เมื่อเอ่ยคำว่า “บ้านมินิมอล” เพราะเป็นโครงการที่กล้า ‘ไปให้สุด’ กับการดีไซน์ในแบบมินิมอลสุดทาง โดยเริ่มออกสู่ตลาดครั้งแรกเมื่อปลายปี 2564 ที่โซนบางนา

ทาวน์โฮมที่นี่ได้รับการออกแบบในโทนสีขาว เทา สเตนเลส กระจก แทบไม่มีงานไม้มาเกี่ยวข้อง แม้จะเป็นทาวน์โฮม แต่มีพื้นที่ Private Courtyard เท่ๆ ทั้งหมดทำให้ได้อารมณ์มินิมอลแบบล้ำยุคที่ฉีกแนวไปจากแบรนด์ที่มีในท้องตลาดอย่างชัดเจน

เมื่องานดีไซน์บ้านให้ลุคแบบไปสุด กลุ่มที่แบรนด์ดึงดูดจึงเป็นคู่รัก Gen Y ที่ไม่มีลูก (Double Income No Kids) ที่ต้องการบ้านที่สะท้อนตัวตนได้อย่างชัดเจน มีพื้นที่กว้างพอที่ทั้งคู่จะมีอิสระในการจัดมุมบ้านที่เป็นตัวเอง โดยไลฟ์สไตล์ชอบการสังสรรค์กับเพื่อนๆ อาจจะจัดงานปาร์ตี้ที่บ้าน ออกทริป Camping ต่างจังหวัด ชอบดริปกาแฟ มีของสะสมต่างๆ เช่น แผ่นเสียง หนังสือ

แบรนด์ AREN กำลังจะขยายความเป็นมินิมอลแบบสุดทางด้วย Product ใหม่อย่าง AREN X โดยขยับขยายพื้นที่ให้ใหญ่ขึ้นเป็นบ้านเดี่ยว แต่คอนเซ็ปต์ออกแบบยังคงไปสุดกับความเป็น Modern Minimal เพิ่มด้วย Private Pool สระว่ายน้ำส่วนตัวกลางบ้าน*, Private Courtyard พื้นที่สวนส่วนตัวกลางบ้าน*, Private Barcony บาร์ลับที่ใกล้แค่ก้าว* ซึ่งกำลังจะเปิดตัวเร็วๆ นี้


Minimal Cozy ที่ “NORA” (โนระ)

ในปีนี้อารียาฯ ได้เปิดตัวแบรนด์ใหม่ กับโครงการใหม่ “NORA” เปิดพร้อมกัน 2 ทำเลคือ บางนา และ กาญจนาภิเษก-ราชพฤกษ์ โดยสร้างสรรค์แบรนด์นี้มาเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการมีบ้านหลังแรกสำหรับครอบครัว

NORA เป็นทาวน์โฮมที่ได้แรงบันดาลใจจาก “คาเฟ่สไตล์มินิมอล” ใช้โทนสีขาวและงานไม้สีเข้ม มี Oversized  Window seat ที่นั่งข้างกระจกขนาดใหญ่เพื่อรับแสงธรรมชาติ รวมถึงมีกลิ่นอายที่อยู่อาศัยแบบญี่ปุ่นที่เรียบง่าย Homey และอบอุ่นเข้ามาผสมผสาน

กลุ่มเป้าหมายของ NORA คือกลุ่มที่กำลังสร้างครอบครัว (Starting Family) โดยพื้นที่แห่งนี้อาจเป็นบ้านหลังแรกของพวกเขา โดยเลือกย้ายมาอยู่ในบ้านแนวราบเพื่อเตรียมตัวมีลูกคนแรกหรือเพิ่งมีลูกคนแรก เป็นกลุ่มคนที่ต้องการความเรียบง่ายในการใช้ชีวิต ชอบการมีความสุขแบบง่ายๆ มีกิจกรรมที่ชอบ เช่น งานคราฟต์ ทำขนม ทำกิจกรรมกับครอบครัว


ไม่ใช่แค่ดีไซน์ต้องใช่ แต่การตลาดก็ต้องพูดภาษาเดียวกัน

งานดีไซน์ที่เห็นแล้วชอบทันทีคือกุญแจหลักในการมัดใจลูกค้า แต่กว่าที่ลูกค้าจะ ‘เห็น’ โปรดักส์ได้ การตลาดที่จะเข้าไปให้ถึงตัวและทำให้ลูกค้าชื่นชอบและมั่นใจในคุณภาพของ “แบรนด์” ก็สำคัญไม่แพ้กัน

ยกตัวอย่างเช่นแบรนด์ AREN ดังที่กล่าวว่าแบรนด์นี้เรียกเสียงฮือฮาในตลาดได้เป็นอย่างมาก เพราะมีการสร้างประสบการณ์ของแบรนด์ (Brand Experience) ผ่านการคอลแลบกับนักสร้างสรรค์ศิลปะในหลายแขนงที่ทำให้ลูกค้าเข้าใจ ‘ฟิลลิ่ง’ ของแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น Nut Dao นักวาดภาพประกอบ, Pichai ช่างภาพวินมอเตอร์ไซค์ชื่อดัง, Hario Cafe แบรนด์อุปกรณ์กาแฟชื่อดังจากญี่ปุ่น หรือ DJYP Music Curator

เมื่อภาพของแบรนด์และโปรดักส์ถูกสื่อสารออกไปด้วยมุมมองที่ตรงกับตัวตน ทำให้เกิดกระแสผ่านโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะใน Twitter และ Facebook

แม้กระทั่งแบรนด์ล่าสุดอย่าง NORA ก็เลือกสื่อสารแบรนด์ผ่านมิวสิค มาร์เก็ตติ้ง โดยจับมือกับ “บอย-ตรัย ภูมิรัตน” ศิลปินเสียงเอกลักษณ์และเป็นคุณพ่อที่เข้าใจชีวิตครอบครัว ร่วมกับ “ตั้ม โมโนโทน” เป็นโปรดิวเซอร์ถ่ายทอดบทเพลงในชื่อ “ง่ายดาย” เพื่อสื่อถึงความสุข ความอบอุ่นง่ายๆ ในการสร้างครอบครัวแบบคน Gen Y


แบรนด์ NORA ยังมีการใช้แนวทางการตลาดแบบใหม่ที่ส่งเสริมจินตนาการของ ‘เด็กๆ’ ด้วย โดยโบรชัวร์ของโครงการที่ออกแบบมาในรูปแบบ ‘หนังสือนิทาน’ (นิทาน NORA Pop-up) ที่เล่าเรื่องผ่านตัวการ์ตูนครอบครัวที่มีความสุขที่สุด และพวกเขาอาศัยอยู่ในโครงการ NORA พร้อมกับ ‘โบรชัวร์ระบายสี’ (NORA x Mig Mig) กับการคอลแลบนักวาดภาพประกอบสไตล์มินิมอลอย่างคุณ Mig Mig มาวาดภาพประกอบไว้ให้เด็กๆ ได้ระบายสีในโบรชัวร์ ทำให้โบรชัวร์สามารถใช้ประโยชน์ได้มากกว่าแค่การบอกเล่าข้อมูลโครงการ

นอกจากนี้นับเป็นครั้งแรกของวงการบ้านในไทย สำหรับ 20 ครอบครัวแรกที่จอง และโอนฯ โครงการ NORA จะได้รับ ตัวต่อรูปทรงเดียวกับบ้าน (Mini Block Architecture) ที่จำลองมาจากบ้าน NORA ซึ่งผลิตมาเป็น Limited Edition ช่วยเพิ่มความสุขและความอบอุ่นให้กับสมาชิกในครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกัน ผ่านกิจกรรมสนุกๆ ที่ได้ช่วยกันต่อ ช่วยกันสร้าง จนเกิดเป็นบ้านที่สมบูรณ์แบบ


Areeya The Minimal Series งานดีไซน์ที่ขายได้จริง

จากการตลาดที่เข้าใจไลฟ์สไตล์ในแต่ละกลุ่มและทำให้เกิดการบอกปากต่อปาก นำมาสู่ยอดขายที่ประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย โดย COMO Bianca โครงการแรกสามารถปิดยอดขาย 250 ล้านบาท ช่วง Pre-Sale เพียง 2 วัน และปัจจุบันได้เปิดขาย COMO Bianca II แล้ว ขณะที่ AREN ก็สามารถสร้างปรากฏการณ์ Sold Out ภายใน 3 เดือน ด้วยแบรนด์ที่แข็งแรงนำไปสู่โครงการต่อยอดอย่าง AREN X ซึ่งกำลังจะเปิดตัวเร็วๆ นี้

ส่วน NORA ซึ่งเป็นแบรนด์น้องใหม่เพิ่งเปิดขายเมื่อเดือนกันยายน 2565 ที่ผ่านมา ก็สามารถสร้างยอดขายได้ 200 ล้านบาท หลัง Pre-sale เพียง 2 วัน

สรุปได้ว่าอารียาฯ ได้สร้างฐานความสำเร็จกับการเป็นผู้นำตลาดบ้านมินิมอลแล้ว จากความกล้าที่จะออกแบบงานดีไซน์ที่ฉีกจากตลาด ความเข้าใจในตัวตนและรสนิยมของลูกค้า พร้อมกับการตลาดที่สื่อสารแบรนด์ได้อย่างเหมาะสม ทำให้วันนี้เมื่อลูกค้าคิดถึงบ้าน “มินิมอล” ก็ต้องคิดถึง “อารียา” ขึ้นมาเป็นชื่อแรกๆ คน Gen Y ที่สนใจบ้านสไตล์มินิมอลจากอารียาฯ สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ https://bit.ly/3MeYU03

Line: @Areeyahome https://lin.ee/AlQu2wQ

โทร. 1797

#AreeyaTheMinimalSeries #Areeya #AreeyaProperty #COMOBianca #AREN #NORA #มินิมอล #อารียาพรอพเพอร์ตี้ #บ้านมินิมอล