รายงานเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศไทย ซึ่งจัดทำโดย Google, Temasek และ Bain & Company ระบุว่าเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยนั้นเติบโตเฉลี่ย 17% ต่อปีจนถึงปี 2025 นำมาโดยกลุ่ม E-commerce ขณะเดียวกันในรายงานยังชี้ว่าธุรกิจการท่องเที่ยวออนไลน์ของไทยต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 ปี ก่อนที่จะกลับมาเติบโตก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19
ขณะเดียวกันในรายงานยังชี้ถึงบริการทางการเงินดิจิทัลของไทยนั้นอัตราการเติบโตที่มากที่สุดนั่นคือการลงทุนผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์นั้นเติบโตมากถึง 44% ต่อปีจนถึงปี 2025 รองลงมาคือการกู้ยืมเงินออนไลน์นั้นเติบโตได้มากถึง 39% ต่อปีจนถึงปี 2025
นอกจากนี้ในรายงานยังชี้ว่าการระดมทุนเพื่อลงทุนในบริการด้านการเงินดิจิทัลของไทยในครึ่งปีแรกของปี 2022 นั้นได้แซงหน้าธุรกิจ E-commerce ไปแล้ว ซึ่งเราจะเห็นได้จากในช่วงที่เกือบ 1 ปีผ่านมานั้นนักลงทุนจากต่างประเทศเริ่มสนใจที่จะลงทุนในแพลตฟอร์มด้านการเงินดิจิทัลมากขึ้น
ถ้าหากกลับมามองในอาเซียน 6 ประเทศได้แก่ ไทย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ในรายงานได้ชี้ว่าขนาดเศรษฐกิจดิจิทัลมูลค่าจะแตะ 2 แสนล้านเหรียญได้ภายในปี 2022 นี้ได้ ซึ่งไวกว่าคาดการณ์เดิมในรายงานฉบับปี 2016 ที่คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะเกิดขึ้นในปี 2025
อย่างไรก็ดีในรายงานดังกล่าวยังชี้ให้เห็นการเติบโตที่ช้าลงในหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นการเติบโตของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต ที่จากเดิมเติบโตได้ราวๆ 10% ต่อปี แต่ล่าสุดลดลงเหลือ 4% ต่อปีแล้ว หรือแม้แต่การใช้งาน E-commerce ที่ลดลงเหลือแค่ 16% ต่อปีเท่านั้น
โดยบริการต่างๆ ที่ผู้ใช้งานใน 6 ประเทศได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใช้งานเพิ่มมากสุดคือการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ การสั่งอาหารออนไลน์ ขณะที่การดูวิดีโอสตรีมมิ่ง หรือมิวสิคสตรีมมิ่งนั้นยังมีอัตราการใช้งานที่รั้งท้าย
สำหรับอุตสาหกรรมบนเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียนในปี 2025 ในรายงานของ Google, Temasek และ Bain & Company วิเคราะห์ว่าจะยังเติบโต ได้แก่ ธุรกิจส่งอาหาร รวมถึง E-commerce ขณะที่ธุรกิจความบันเทิงหรือการทารอาหารนอกบ้านนั้นจะกลับเข้าสู่การเติบโตได้อีกครั้ง ขณะที่ธุรกิจท่องเที่ยวหรือขนส่งนั้นต้องใช้เวลาหลังปี 2025 ถึงจะกลับมาเติบโตก่อนช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19