สื่อธุรกิจจากอังกฤษ Financial Times ได้รายงานว่า Tesla กำลังพิจารณาอาจเข้าลงทุนใน Glencore บริษัทเหมืองแร่รายใหญ่ของโลก ด้วยสัดส่วนราวๆ 10-20% เพื่อที่จะต้องการล็อกจำนวนสินแร่จำนวนมาก ซึ่งบริษัทเหมืองแร่รายดังกล่าวนั้นเป็นผู้ผลิตสินแร่โคบอลต์รายใหญ่
Financial Times ได้รายงานข่าว โดยอ้างอิงแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ว่า Tesla ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่จากสหรัฐอเมริกา เตรียมที่จะซื้อหุ้นใน Glencore กิจการเหมืองแร่รายใหญ่ของโลก โดยคาดว่าสัดส่วนในการถือหุ้นจะอยู่ที่ราวๆ 10-20%
สาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากสหรัฐอเมริการายนี้ต้องซื้อหุ้นบริษัทเหมืองแร่รายใหญ่ของโลก เนื่องจากความต้องการสินแร่สำหรับผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทนั้นมีจำนวนมหาศาล ทำให้บริษัทต้องการที่จะล็อกจำนวนสินแร่จำนวนมาก เพื่อป้องกันไม่ให้บริษัทขาดแคลนสินแร่ในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า
ก่อนหน้านี้ CEO ของ Glencore เคยได้ไปเยี่ยมชมโรงงานของ Tesla เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาแล้ว ปัจจุบันบริษัทเหมืองแร่รายใหญ่ของโลกนี้มีเหมืองแร่โคบอลต์ที่ส่งสินแร่ให้กับบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหลายราย รวมถึง Tesla ในโรงงานที่เซี่ยงไฮ้ด้วย
บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Tesla และหลายบริษัททั่วโลกนั้นต้องการสินแร่จำนวนมหาศาล เช่น โคบอลต์ ลิเทียม นิกเกิล ไปจนถึงทองแดง ซึ่งสินแร่หลายตัวหายาก และปัจจุบันมีราคาเพิ่มขึ้นมหาศาล จึงทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหลายรายเริ่มที่จะเจรจากับบริษัทเหมืองแร่โดยตรง
ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา Tesla เองได้เซ็นสัญญากับรัฐบาลอินโดนีเซียเพื่อซื้อแร่นิกเกิลเป็นมูลค่าสูงถึง 5,000 ล้านเหรียญมาแล้ว บนเงื่อนไขที่ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายนี้จะต้องเข้ามาตั้งโรงงานผลิตในประเทศอินโดนีเซีย
อย่างไรก็ดีการเข้าถือหุ้น Glencore ของ Tesla ยังมีควาไม่แน่นอนสูง เนื่องจากบริษัทเหมืองแร่ยักษ์ใหญ่รายนี้ยังมีเหมืองถ่านหินอยู่ในธุรกิจของบริษัท ซึ่งอาจขัดกับหลักการของ Tesla ที่ต้องการโฟกัสในเรื่องพลังงานสะอาด