ปฏิเสธไม่ได้ว่า ฟุตบอลโลก 2022 ที่จัดขึ้นในประเทศกาตาร์จะมี ดราม่า มากมาย ทั้งเรื่องการคอร์รัปชัน, การเสียชีวิตของแรงงานข้ามชาติ จนทำให้ทั่วโลกคว่ำบาตร อีกทั้งยังมีประเด็นเรื่องของการต่อต้าน LGBTQ+ และการห้ามขายเหล้าเบียร์ในสนามแข่งขัน และไม่รู้เพราะดราม่าหรือความแพงของตั๋วและที่พัก ถึงทำให้ แฟนบอลต่างชาติ ที่บินลัดฟ้ามาเชียร์ถึงไปไม่ถึงเป้าหมาย
ในช่วง 2 สัปดาห์แรกของการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ กลับมีแฟนบอลต่างชาติที่ตีตั๋วเข้าชมเพียง 765,000 คนเท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าที่คาดไว้ว่าจะมีผู้ชมหลั่งไหลเข้ามา 1.2 ล้านคนตลอดทั้งการแข่งขัน แน่นอนว่ายังเหลือเวลาอีกราว 2 สัปดาห์ แต่การจะไปถึงเป้านั้นแทบเป็นไปไม่ได้
เนื่องจากการแข่งขันมาสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย และเหลือการแข่งขันเพียง 8 นัด จากทั้งหมด 64 นัด และก่อนหน้านี้ ผู้จัดงานยังเคยระบุว่า ช่วงพีคสำหรับผู้เข้าชมจากต่างประเทศคือวันที่ 24-28 พ.ย. ซึ่งเป็นช่วงรอบแบ่งกลุ่มที่มีการแข่งขัน 4 นัดทุกวัน จากทีมทั้งหมด 32 ทีม
และจากรายงานเมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่จัดทำโดย Supreme Committee for Delivery and Legacy (SC) ได้เปิดเผยว่า การแข่งขัน 17 วันแรกมีผู้เข้าชมจากต่างประเทศจำนวน 765,859 คน และปัจจุบัน ผู้ชมกว่าครึ่งได้เดินทางออกจากกาตาร์แล้ว
สำหรับฟุตบอลโลก 2022 ถือเป็นครั้งแรกที่จัดขึ้นในตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นประเทศที่เล็กที่สุดทั้งในด้านจำนวนประชากรและพื้นที่ในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก และถือเป็นหนึ่งในทัวร์นาเมนต์ที่ แพงที่สุด ทั้งในแง่ของตั๋วเข้าชม ที่พัก และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งการขายจะถูกจำกัด และด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่น้อยลงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้ที่พักเหลือเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ ประเทศกาตาร์มีประชากรเพียง 3 ล้านคน จากรายงานลงทะเบียนผู้ถือตั๋วเข้าชมการแข่งขันอยู่ที่ 1.33 ล้านใบ และมีการจำหน่ายตั๋ว 3.09 ล้านใบ ที่จำหน่ายทั่วทั้ง 8 สนามในกาตาร์ โดยทัวร์นาเมนต์ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 18 ธันวาคม โดยจำนวนผู้เข้าชมสะสมใน 52 นัดแรก อยู่ที่ 2.65 ล้านคน
