2 ซิมไม่พอ ต้องเฟซบุ๊ก แชต ได้ด้วย และราคาเครื่องต้องไม่เกิน 2 พันบาท นี่คือความต้องการของตลาดวัยรุ่นงบน้อยและต่างจังหวัดนาทีนี้ของตลาดฟีเจอร์โฟน จนมียอดขายเดือนหนึ่งทะลุหลายแสนเครื่อง และแน่นอนว่างานนี้ “ซัมซุง” จึงกำลังปฏิบัติการรับน้อง “โนเกีย” ด้วยสงครามราคาชนิดที่โนเกียเองก็แทบตั้งตัวไม่ทัน
ขณะที่เทรนด์ความต้องการของลูกค้าตลาดบน คือ 1 คน 2 อุปกรณ์ 2 ซิม โดยถือฟีเจอร์โฟน หรือมือถือธรรมดาสำหรับโทร กับอีกเครื่องคือสมาร์ทโฟนแพง หรือแท็บเล็ตเพื่อแชต เข้าสู่เฟซบุ๊ก หรือดูอินเทอร์เน็ต
ส่วนตลาดต่างจังหวัด และวัยรุ่นงบน้อย ก็ยังคงมองหาเครื่อง 2 ซิมที่ทำได้หลายอย่าง และแน่นอนหนึ่งในความต้องการนั้น คือแชต เฟซบุ๊ก นอกเหนือจากที่เคยมีเครื่องมัลติมีเดีย อย่างถ่ายรูป ฟังเพลง ดูทีวีมาแล้ว
ความคึกคักของตลาดนี้ทำให้ผู้เล่นเบอร์ใหญ่ ระดับอินเตอร์แบรนด์ คือ ”โนเกีย” ยอมทุ่ม และ ”ซัมซุง” ก็ประกาศศึกชนกับ ”โนเกีย” ชนิดที่บอกได้ว่ามันส์
โนเกียมาช้า แต่ก็ดีกว่าไม่มา
โนเกียที่ยังไม่มีโอกาสเล่นตลาดสมาร์ทโฟนได้อย่างเต็มตัว โดยเฉพาะในประเทศไทย เพราะเป็นกลุ่มประเทศในลำดับที่ 3 ของโนเกียในการวางตลาดวินโดวส์โฟนที่ตามแผนต้องรอนานถึงกลางปี 2555 หลังจากจะวางขายในตลาดโลกปลายปีนี้
การทำตลาดที่ใช่ของโนเกียขณะนี้คือ มุ่งรักษาฐานลูกค้ากลุ่มใหญ่ไว้ให้มากที่สุด นั่นคือกลุ่มระดับราคา 1-3 พันบาท นี่คือผลที่ทำให้ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2554 โนเกียได้ทุ่มงบแคมเปญเพื่อขายฟีเจอร์โฟน 2 ซิม ที่คาดไม่ถึงว่าโนเกียจะทุ่มสำหรับตลาดนี้ หลังจากที่เฮาส์แบรนด์เล่นกันมานานแล้ว
อัดเต็มที่ไม่ว่าจะอีเวนต์ ณ จุดขาย กระบวนการสื่อสาร ทำหนังโฆษณา ซื้อเวลาทีวีซีออนแอร์ โดยมีพรีเซ็นเตอร์วัยรุ่น ”เก้า จิรายุ” ช่วยเจาะตลาด งบที่เห็นไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท โดยเฉพาะเพื่อปั้นยอดของรุ่น C2-03 ที่สามารถเข้าโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คได้ โดยเน้นข้อความในทีวีซีว่ามี 2 ซิม ซิมแรกซิมเพื่อนสนิท และซิมเพื่อนออนไลน์
“แกรนท์ แมคบีธ” กรรมการผู้จัดการ โนเกีย ประเทศไทย และตลาดเอเชียเกิดใหม่ บอกว่าในมุมของโนเกียคือ ฟีเจอร์โฟนมีอัตรการเติบโตสูง โดยเฉพาะฟีเจอร์โฟนที่สามารถเข้าสู่โซเชี่ยลเน็ตเวิร์คได้ แม้จะมาช้าในตลาดนี้แต่โนเกียก็เชื่อว่าความต้องการยังมีมาก ซึ่งปัจจุบันมือถือ 2 ซิมมีอยู่ในตลาดรวมประมาณ 15-20% ของยอดขายทั้งหมด และด้วยกลยุทธ์ราคาที่โนเกียตั้งไว้ในระดับที่ลูกค้าสามารถตัดสินใจซื้อได้ง่าย ไม่เกิน 3 พันบาท จึงเชื่อว่านี่คือโอกาสที่ดีของโนเกียในไทย มั่นใจว่าสามารถทำยอดขายในระดับหลักแสนเครื่อง
“ภูมิใจ กฤติยานนท์” ผู้อำนวยการสายงานสมาร์ทโฟน เอไอเอส ค่ายผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือที่ร่วมเป็นพันธมิตรกับโนเกียมาโดยตลอด บอกว่าโนเกียตั้งราคาขายไม่สูงนัก บวกกับฟีเจอร์ที่ใช้งานได้ทั้ง 2 ซิมและโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค ถือว่าถูกใจกลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มวัยรุ่นที่สามารถจ่ายซื้อเครื่องได้ไม่เกิน 2-3 พันบาท ซึ่งถือเป็นตลาดใหญ่ในธุรกิจนี้
ฟีเจอร์โฟนในระดับราคาไม่เกิน 3 พันบาทปัจจุบัน ที่สามารถเข้าเฟซบุ๊ก และแชตได้ ถือเป็นตลาดใหญ่และเติบโตสูง เพราะความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่นนั้นต้องการคุยกับเพื่อนตลอดเวลา เมื่อมี 2 ซิมด้วยยิ่งทำให้ความรู้สึกของลูกค้าได้ครบ เพราะลูกค้าจะใช้ซิมหนึ่งเพื่อโทร และอีกซิมเป็นซิมดาต้าได้
คุณสมบัติ 2 ซิมในอดีตอาจเป็นความจำเป็น เพราะมือถือราคาแพง โปรโมชั่นค่ายมือถือต่างกันมาก ลูกค้าจึงใช้ซิมหลายค่ายเพื่อให้ได้โปรโมชั่นค่าโทรกับความต้องการใช้งาน แต่เมื่อมือถือถูกลง ฟีเจอร์คล้ายๆ กันในหลายแบรนด์ การมี 2 ซิมถือเป็นส่วนเพิ่มที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจได้เลือกได้มากขึ้น