อีก 3 ปีข้างหน้า คนเจนเนอเรชัน ‘MZ’ จะครองโลก! Millennials และ Gen Z จ่อมีจำนวนประชากรรวมกันคิดเป็น 3 ใน 4 ของโลก ทำให้ ‘Samsung’ ต้องมุ่งเป้าเจาะกำลังซื้อคนสองเจนฯ นี้เป็นหลัก ผ่านการทำความเข้าใจความคิดและพฤติกรรม ถอดออกมาเป็น 5 กลยุทธ์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการตลาดเพื่อเข้าถึงคนรุ่นใหม่
Samsung เสนอรายงานคาดการณ์อนาคตภายในปี 2025 ประชากรเจนเนอเรชัน Millennials (ปัจจุบันอายุ 25-39 ปี) จะมีสัดส่วนครึ่งหนึ่งของประชากรโลก ส่วนประชากรเจนเนอเรชัน Z (ปัจจุบันอายุ 16-24 ปี) จะขึ้นมามีสัดส่วน 1 ใน 4 ของประชากรโลก
เมื่อรวมกันแล้ว ‘Gen MZ’ จะมีประชากรถึง 3 ใน 4 ของโลกในระยะเวลาอีก 3 ปี จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมทุกแบรนด์ใหญ่บนโลกจึงมุ่งหน้าไปเจาะกำลังซื้อสองกลุ่มนี้เป็นหลัก
![](https://positioningmag.com/wp-content/uploads/2022/12/Samsung-Paramee.jpg)
นั่นทำให้ Samsung เองมีการศึกษาและหาทางเอาชนะใจคนสองเจนฯ นี้มาพักใหญ่แล้ว โดย “ปารมี ทองเจริญ” ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดองค์กร บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวถึงอินไซต์ของคนสองเจนเนอเรชันนี้ที่ศึกษาพบ ซึ่งจะเป็นพื้นฐานการพัฒนาผลิตภัณฑ์-การตลาดของแบรนด์ Samsung ดังนี้
1.เป็นเจนฯ ที่ต้องการบริการจัดการชีวิตให้มีประสิทธิภาพ ทั้งด้านการทำงานที่ต้องมีสมาธิ และด้านชีวิตส่วนตัวต้องการผ่อนคลายด้วยไลฟ์สไตล์ของตัวเอง โดยทั้งหมดอยู่ในพื้นที่เดียวกัน
2.เป็นเจนฯ ที่มุ่งหวังความสำเร็จสูง แต่จะแตกต่างในรายละเอียด คือ Millennials ยังต้องการสำเร็จในหน้าที่การงานตามขั้นตอนแบบดั้งเดิมเพียงแต่ต้องการให้สำเร็จเร็วขึ้นกว่าคนรุ่นก่อน ขณะที่ Gen Z จะฉีกออกไป มองความสำเร็จสามารถสร้างนอกกรอบดั้งเดิมได้ ชอบที่จะเป็นนายตนเอง สร้างเส้นทางเอง
3.Woke Generations เป็นสองเจนฯ ที่ไม่เงียบ ต้องการออกความเห็น เรียกร้องในด้านสังคม เช่น ความเท่าเทียมทางเพศ ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม การตอบแทนคืนแก่สังคม
4.Personalization ทั้งสองเจนฯ ต้องการเป็นตัวของตัวเอง โดยการศึกษาพบว่า 45% ของคน Gen MZ จะสนใจ “เครื่องใช้ไฟฟ้า” ที่บ่งบอกความเป็นตัวเองมากกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป
5 กลยุทธ์ของ Samsung เพื่อชนะใจ ‘Gen MZ’
หลังจากได้อินไซต์ของคน Gen MZ มาแล้ว แบรนด์ Samsung มีการวางเป้าหมายให้ทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์พัฒนาทั้งในแง่นวัตกรรมและในแง่การตลาดเพื่อพุ่งเป้าไปที่สองเจนเนอเรชันนี้ โดยเริ่มมาตั้งแต่ปี 2019 เป็นภาพใหญ่ทั่วโลก ผ่านการวาง 5 กลยุทธ์ ดังนี้
1.สร้างนวัตกรรมที่ตอบโจทย์การทำงานและใช้ชีวิต ตามอินไซต์ที่คนรุ่นใหม่มีทั้งการทำงานและใช้ชีวิตส่วนตัวในพื้นที่บ้าน ทำให้ทั้งสองส่วนต้องคล่องตัว สมดุลกัน ทำให้ชีวิตมีประสิทธิภาพ
ยกตัวอย่างนวัตกรรมที่ตอบโจทย์นี้ เช่น ‘SmartThings’ ทำให้บ้านเป็นออโตเมชัน ควบคุมสั่งงานได้จากสมาร์ทโฟน หรือจอโทรทัศน์ Odyssey Ark จอโค้งที่สามารถหมุนใช้ได้ทั้งแนวนอนและแนวตั้ง ตอบสนองทั้งการทำงานแยกจอ และนำมาใช้เป็นจอเกมเมอร์
![](https://positioningmag.com/wp-content/uploads/2022/12/Samsung-Odyssey-Ark.jpg)
2.Bespoke ฟังก์ชันเพื่อตอบเรื่อง Personalization ฟังก์ชัน Bespoke ของ Samsung นั้นเริ่มมาระยะหนึ่งแล้ว แต่มาเน้นหนักชัดเจนตั้งแต่ปี 2021 โดยฟังก์ชันนี้คือการให้ลูกค้าออกแบบสีสันของเครื่องใช้ไฟฟ้าได้เองเพื่อให้เข้ากับบ้านและไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ปัจจุบันทำได้ทั้งตู้เย็น เครื่องดูดฝุ่น เครื่องฟอกอากาศ เตาไมโครเวฟ หรือแม้แต่สมาร์ทโฟนก็ใช้ฟังก์ชันนี้แล้วกับรุ่นเรือธง Galaxy Z Flip
ปารมีกล่าวว่า ตู้เย็น Samsung ในเกาหลี 80% ของผู้ซื้อเลือกแต่งสีด้วยตัวเลือก Bespoke ขณะที่ในไทยก็สามารถทำราคาได้ ราคาจะสูงกว่าตู้เย็นสีธรรมดาไม่มาก จากการโปรโมตจนเกิด Economy of Scale ในการผลิต
3.ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและสังคม ดังที่กล่าวไปว่าลูกค้ารุ่นใหม่ต้องการเห็นแนวคิดด้านความยั่งยืนจากแบรนด์ Samsung จึงตั้งเป้าเป็นบริษัท ‘Net Zero’ ภายในปี 2050 และตลอดเวลาที่ผ่านมา มีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้ดีต่อสิ่งแวดล้อม เช่น รีโมตทีวีแบบใหม่เป็นระบบพลังงานโซลาร์ ลดการใช้ถ่านไฟฉาย, การนำวัสดุรีไซเคิลมาใช้ผลิตสินค้า เช่น Galaxy Z Flip และ Z Fold
ในด้านการตอบแทนสังคม แบรนด์มีโครงการมากมายในระดับโลกและนำมาใช้ในไทยด้วย โดยส่วนใหญ่เน้นด้านเทคโนโลยีและการพัฒนาคน เช่น โครงการ Samsung Solve for Tomorrow ปั้นนวัตกรรุ่นใหม่ ให้น้องๆ มัธยมปลายแข่งขันไอเดียเพื่อแก้ไขปัญหาสังคม, โครงการ Samsung Innovation Camp: Advanced Coding ค่ายพัฒนาด้านโค้ดดิ้งเพื่อเตรียมเยาวชนไทยสู่ตลาดงานอนาคต
![](https://positioningmag.com/wp-content/uploads/2020/04/กล่องลัง-Samsung-open.jpg)
4.กิจกรรมการสื่อสารต้องตรงใจคนรุ่นใหม่ ช่องทางการเข้าถึงทางการตลาดต้องไปอยู่ในจุดที่คนรุ่นใหม่อยู่ เช่น Samsung Galaxy Flexperience ที่จัดกลางสยามสแควร์, แคมเปญ BTS Wrapping โดยศิลปินก็เป็นการทำงานบนขบวน BTS ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย
ในด้านออนไลน์เน้นหนัก YouTube และ TikTok ซึ่งคนรุ่นใหม่ใช้งาน เน้นการสื่อสารผ่าน KOLs ปีละมากกว่า 1,000 คน รวมคอนเทนต์มากกว่า 10,000 ชิ้น ซึ่งทำให้แบรนด์ได้ยอดการเข้าถึงผู้บริโภควันละกว่า 4.2 ล้านครั้ง
![](https://positioningmag.com/wp-content/uploads/2022/12/Flexperience-re.jpg)
5.เปิดให้คนรุ่นใหม่ร่วมงาน ไม่เฉพาะลูกค้าที่เน้น Gen MZ เพราะจะเข้าใจคนรุ่นใหม่ได้ คนทำงานก็ต้องใช้คนเจนฯ เดียวกัน พูดภาษาแบบเดียวกัน โดยปัจจุบัน 60% ของพนักงาน Samsung ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นคนวัยไม่เกิน 40 ปี
“ความท้าทายของการทำตลาดกับ MZ คือสองเจนฯ นี้จะเปลี่ยนไวมาก อย่างแพลตฟอร์ม TikTok แบรนด์เราไม่เคยมีช่องทางนี้เลยในช่วงก่อนปี 2020 แต่ทันทีที่ TikTok มาแรง เราต้องเข้าให้ทัน หรือคอนเทนต์ต่างๆ ก็ต้องมอนิเตอร์ทุกวัน บางอย่างดูผลตอบรับทุกนาที เพราะเราต้องคอยนำมาปรับเปลี่ยน อะไรที่เคยผลตอบรับดี วันหนึ่งก็อาจจะไม่ดีก็ได้ เพระเขาเบื่อ เราก็ต้องเปลี่ยน” ปารมีกล่าว
ทั้งหมดคือกุญแจในการสร้างแบรนด์ของ Samsung โดยปีนี้แบรนด์ได้รับรางวัลสุดยอดแบรนด์ทรงพลังที่สุดของประเทศไทยปี 2022 ในกลุ่มผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟน จัดโดย คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ จึงน่าจะการันตีได้ระดับหนึ่งว่าแบรนด์กำลังมาถูกทาง