สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้รายงานตัวเลขเงินเฟ้อของไทยในปี 2565 ซึ่งตัวเลขดังกล่าวอยู่ที่ 6.08% สูงสุดในรอบ 24 ปีนับตั้งแต่ปี 2541 เป็นต้นมา สาเหตุหลักที่ทำให้ตัวเลขเงินเฟ้อของไทยพุ่งสูงนั้นมาจากราคาพลังงานที่สูง จากผลกระทบของการบุกยูเครนโดยรัสเซีย
ถ้าหากมาดูตัวเลขเงินเฟ้อในเดือนธันวาคมแล้วนั้นล่าสุดอยู่ที่ 5.89% เมื่อเทียบกับปี 2021 ที่ผ่านมา ดีกว่านักเศรษฐศาสตร์ที่สำนักข่าว Reuters ได้ทำผลสำรวจไว้ที่ 5.9% แต่ยังสูงกว่าตัวเลขในเดือนพฤศจิกายนที่ 5.5%
โดยตัวเลขเงินเฟ้อนั้นยังถือว่าอยู่สูงกว่ากรอบเป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ตั้งไว้ 1-3%
อย่างไรก็ดี สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้าได้ชี้แจงว่า อัตราเงินเฟ้อของไทยนั้นอยู่ในระดับที่ดีกว่าในหลายประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร อิตาลี เม็กซิโก และอินเดีย และยังดีกว่าประเทศอื่นๆ ในอาเซียนด้วยกัน เช่น ลาว ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ ด้วย
ขณะที่คาดการณ์เงินเฟ้อในปี 2566 นี้ กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ว่าตัวเลขดังกล่าวจะชะลอตัวลงจากปี 2565 เนื่องจากราคาสินค้าส่วนใหญ่เริ่มทรงตัวและบางรายการปรับลดลงหลังจากที่ทยอยปรับขึ้นตามต้นทุนแล้วในปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ยังกระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ว่าตัวเลขเงินเฟ้อในไตรมาส 1 ของปี 2566 นั้นจะยังคงสูงอยู่ แต่คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะไม่เกิน 5% ก่อนที่จะปรับตัวลดลงมา โดยคาดการณ์ว่าตัวเลขเงินเฟ้อทั้งปีจะอยู่ที่ 2-3% ซึ่งเป็นอัตราที่สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจของไทย