เชื่อว่าหลายคนยอมเป็นสมาชิก เน็ตฟลิกซ์ (Netflix) เพราะ ซีรีส์เกาหลี ที่มีมาแย่งเวลานอนของเราอยู่ตลอด ๆ โดยเฉพาะปีที่ผ่านมาที่มีซีรีส์เกาหลีหลายเรื่องโด่งดังจนกลายเป็นไวรัลและได้รับการตอบรับจากผู้ชมทั่วโลก แน่นอนว่าเน็ตฟลิกซ์ก็เห็นเทรนด์ดังกล่าว ดังนั้นในปีนี้ แพลตฟอร์มเลยวางแผนจะอัดคอนเทนต์จากเกาหลีเพิ่มเป็น 34 เรื่อง ทั้งภาคต่อและเรื่องใหม่มาตกผู้ชม
เน็ตฟลิกซ์ เปิดเผยว่า กำลังวางแผน เพิ่มคอนเทนต์จากเกาหลีใต้มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยปีนี้จะมีทั้งหมด 34 เรื่อง ทั้งเรื่องใหม่ ๆ และภาคต่อ ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์, ภาพยนตร์ และรายการเรียลลิตี้ เนื่องจากพบว่าปีที่ผ่านมา สมาชิกกว่า 60% ดูคอนเทนต์จากเกาหลี
อย่างไรก็ตาม เน็ตฟลิกซ์ไม่ได้เปิดเผยถึงเม็ดเงินลงทุนในปีนี้ แต่ย้อนไปในปี 2021 ผู้บริหารของเน็ตฟลิกซ์เคยเปิดเผยว่า บริษัทวางแผนที่จะลงทุนประมาณ 500 ล้านดอลลาร์ นอกเหนือจากงบลงทุน 700 ล้านดอลลาร์ ที่ใช้ไปแล้วตั้งแต่ปี 201
ย้อนไปปี 2021 เน็ตฟลิกซ์มีคอนเทนต์จากเกาหลี 15 เรื่อง และปี 2022 ที่ผ่านมาก็เพิ่มขึ้นเป็น 25 เรื่อง จนกระทั่งปีนี้ก็เพิ่มขึ้นอีก ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวเน้นย้ำว่า เน็ตฟลิกซ์พยายามเพิ่มเนื้อหาเกาหลีเป็นสองเท่าเพื่อมัดใจแฟน ๆ
“ความนิยมทั่วโลกของคอนเทนต์เกาหลีนั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในปี 2022 โดยซีรีส์และภาพยนตร์เกาหลีติดอันดับ Global Top 10 อย่างสม่ำเสมอในกว่า 90 ประเทศ และรายการที่มีผู้ชมมากที่สุดของ 3 อันดับแรกมาจากเกาหลี” Don Kang รองประธานฝ่ายเนื้อหาเกาหลีของเน็ตฟลิกซ์กล่าว
สำหรับซีรีส์ที่โด่งดังไปทั่วโลกก็คือ Squid Game ซีรีส์แนวเอาตัวรอดที่ให้ผู้เข้าแข่งขันเล่นเกมเสี่ยงตายเพื่อชิงเงินรางวัล นอกจากนี้ก็มี Extraordinary Attorney Woo ซีรีส์ที่จะตามติดชีวิตทนายอูยองอูที่มีอาการออทิสติก ก็ขึ้นอันดับสูงสุดของชาร์ตแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเป็นเวลาหลายสัปดาห์
สำหรับคอนเทนต์ในปี 2023 นี้ มีการเปิดเผยว่าจะมีเป็นภาพยนตร์ 6 เรื่อง เริ่มด้วยภาพยนตร์ไซไฟระทึกขวัญ JUNG-E นอกจากนี้ยังรวมถึง Destined With You ที่จะเล่าถึงเรื่องราวความรักระหว่างทนายความสุดฮอตกับข้าราชการ ส่วนซีรีส์ภาคต่อก็มี Sweet Home
ปัจจุบัน เน็ตฟลิกซ์กำลังผลิตออริจินอล คอนเทนต์จากต่างประเทศมากขึ้นเรื่อย ๆ และพึ่งพาโอกาสในต่างประเทศมากกว่าในอเมริกา โดยในช่วงไตรมาส 3 ปี 2022 จำนวนสมาชิกจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของเน็ตฟลิกซ์เพิ่มขึ้น 1.4 ล้านราย ส่งผลให้เป็นภูมิภาคที่เติบโตเร็วที่สุดของบริษัท
ไม่ใช่แค่เน็ตฟลิกซ์ที่เห็นเทรนด์นี้ แต่ Disney+ ก็พยายามเพิ่มคอนเทนต์จากเกาหลีเพื่อดึงดูดผู้ใช้ด้วยเช่นกัน