“เก๊กฮวยทำให้เรามีวันนี้“ คำกล่าวดังกล่าวบอกถึงสาเหตุที่เพียวริคุต้องลุกขึ้นมาออกแคมเปญโฆษณาเพียวริคุ รสเก๊กฮวย อย่างจริงจัง พร้อมพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ หลังจากซุ่มเงียบปล่อยให้คู่แข่งสองรายใหญ่เปิดศึกแย่งชิงตลาด
สุวรรณดี ไชยวรุตม์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ที ซี ฟาร์มาซูติคอล อุตสาหกรรม จำกัด บอกว่า 6-7 ปีที่ผ่านมา เพียวริคุเป็นรายแรกที่จำหน่ายชาขาวผสมเก๊กฮวย ตอนนั้นไม่มีใครสนใจจะทำ ซึ่งเป็นจุดต่างด้วยการเป็นทั้งชาขาวและรสชาติเก๊กฮวย ที่ไม่มีในท้องตลาด
แคมเปญโปรโมตรสเก๊กฮวย เพียวริคุเลือก “เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ” มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ แทนกอล์ฟ-ไมค์ นั้น เนื่องจากเป้เป็นตัวแทนของคนที่มีลักษณะพิเศษ เพราะคนรู้จักทั่วประเทศเข้าถึงแมสได้ แต่ขณะเดียวกันก็มีความแนว ไม่ทำอะไรเหมือนกับคนอื่น มีความเป็นตัวของตัวเองสูง จึงมี Brand Characteristic เช่นเดียวกับเพียวริคุ โดยเป้จะเดินสายโรดโชว์ไปตามมหาวิทยาลัยทั้งในกรุงเทพฯ และภูมิภาคด้วย
แต่ดูเหมือนว่าในปัจจุบันจะไม่เพียงพอเสียแล้ว เพราะคู่แข่งเบอร์ 1 อย่างโออิชิ และคู่แข่งเบอร์ 4 อย่างอิชิตัน ก็ออกรสชาตินี้เช่นเดียวกัน แม้จะมาทีหลัง แต่ทั้งอิชิตันและโออิชิต่างหนีไปใช้ภาษาญี่ปุ่นว่าเป็นรส “คิคุชะ“ แทนที่จะเป็นเก๊กฮวย เพื่อสร้างแตกต่างจากเพียวริคุ ยิ่งโออิชิ คิคุชะลดระดับลงมาแข่งขันในราคา 13 บาทแล้ว พื้นที่ที่เคยเป็นของเพียวริคุแต่เพียงผู้เดียวจึงถูกท้าทายจากคู่แข่ง 2 รายใหญ่ ซึ่งโออิชิได้ออกบรรจุภัณฑ์ขวดเพ็ทขนาด 1 ลิตรในรสชาติคิคุชะด้วย
ผลสำรวจของนีลเส็นพบว่า ชาเขียวรสเก๊กฮวยเป็นรสชาติขายดี และเป็นสายเลือดหลักที่ทำรายได้คิดเป็นสัดส่วน 40% ของเพียวริคุแล้ว ยังมีสัดส่วน 7% ของชาพร้อมดื่มทุกรสชาติที่จำหน่ายอยู่ในตลาด
เธอบอกว่าด้วยส่วนผสมที่เป็นดอกเก๊กฮวยจริง ไม่ได้เกิดจากการแต่งกลิ่นแต่งรส ทำให้มีจุดเด่นเหนือกว่าคู่แข่งในเรื่องรสชาติและความหอม จึงเป็นที่มาของแคมเปญ “จิบช้าๆ แล้วคุณจะรู้”
ปัจจุบันเพียวริคุมีส่วนแบ่งการตลาด 18% และผลจากแคมเปญส่งท้ายปี 2554 นี้ คาดว่าจะทำให้เพียวริคุเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดได้อีก 2% เป็น 20%
แม้จะขยับตัวครั้งใหญ่เพื่อป้องกันฐานที่มั่น แต่งานนี้เป็นศึกหนักสำหรับเพียวริคุไม่น้อย และเราอาจะได้เห็นชาเขียวพร้อมดื่มขนาด 350 มล. ถล่มราคาไปอยู่ที่ 10 บาท ก็เป็นได้ และถึงเวลานั้นการมองหาโอกาสจากบรรจุภัณฑ์ขนาดใหม่อาจมีให้เห็น
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าจับตาว่าหลังจากยูนิฟได้ทำสัญญาว่าจ้างสหพัฒน์ให้เป็นผู้จัดหน่ายในช่องทางเทรดดิชันแนลเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งเป็นจุดอ่อนของยูนิฟมาโดยตลอด จะทำให้เบอร์ 1 ในอดีตอย่างยูนิฟ จะกลับมาอยู่ในTop 3 ได้หรือไม่
cellpadding=”2″ cellspacing=”2″>
7,800-8,000 ล้านบาท คาดเติบโต 17-20%
cellpadding=”2″ cellspacing=”2″>
style=”vertical-align: top; text-align: center; font-weight: bold;”>สัดส่วนยอดขายในตลาดรวม
style=”vertical-align: top; text-align: center; font-weight: bold;”>อัตราการเติบโต
ธรรมสิทธิ์บูรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด
(มหาชน) บอกว่า “สาเหตุที่หลายแบรนด์ออกรสชาติคิคุชะเนื่องจากเป็น Top 5
ที่ขายดี และเป็นรสชาติที่ผู้บริโภคคุ้นเคย
และเป็นรสชาติที่มีโมเมนตัมดีอยู่”
“ขณะที่รสชาติที่ออกแนวสุขภาพมากเกินไปจะได้รับความนิยมน้อยลง เช่น
ซูการ์ฟรี มีอัตราการเติบโตติดลบ
เนื่องจากผู้บริโภครับรู้อยู่แล้วว่าชาเขียวดีต่อสุขภาพ
แต่ต้องการรสชาติที่อร่อยและสดชื่นด้วย”
จากโออิชิ กรุ๊ป