ฝุ่นตลบแน่…เมื่อ 2 แบรนด์ชาเขียว โออิชิ – อิชิตัน พร้อมใจกันส่งแคมเปญรหัสใต้ฝา ชิงโชค “รถ” ออกมาซัดกันแบบไม่ยั้ง อิชิตัน ควบ เบนซ์สปอร์ต ส่ง “รหัสรวยเปรี้ยง ภาค 4 แจกเบนซ์ 50 วัน 50 คัน” ค่ายโออิชิ เกทับทันที ด้วย “รหัสโออิชิ ซิ่งทั่วไทย” แจกโตโยต้า ยาริส และมอเตอร์ไซค์ ฟีโน่ รถไม่หรู เน้นจำนวนรถพุ่งเป้าโกยลูกค้าต่างจังหวัด งานนี้ต้องลุ้น รถหรู หรือแจกเยอะ…ใครจะคว้าแชมป์
ผลัดกันรุก ผลัดกันรับมาตลอดระหว่าง 2 ค่าย โออิชิ และอิชิตัน กับศึกโปรโมชั่นชิงโชคหน้าร้อน เพื่อชิงบัลลังก์ผู้นำตลาดชาเขียวต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 4
ปีนี้ “อิชิตัน” ของเสี่ยตัน ภาสกรนที ซิ่งรถเบนซ์หรู ออกสตาร์ทโปรโมชั่น “รหัสรวยเปรี้ยง ภาค 4 แจกเบนซ์ 50 วัน 50 คัน” ผ่านเฟซบุ๊กปลุกกระแส ตามมาด้วยจัดงานแถลงข่าวที่ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ตามสูตรการตลาดยุคนี้ที่ต้องออนไลน์และออฟไลน์
ในงานแถลงข่าวนอกจากตันจะสวมชุด “ตันแมน” เหมือนเคย ยังสร้างกิมมิกเล็กๆ ด้วยการเชิญ เบนซ์-พรชิตา และ นิวเคลียร์-หรรษา สองดาราสาวมาร่วมงาน เพราะมี “ชื่อเล่น” สอดคล้องกับแคมเปญชิงโชค “นิว” ผสมกับ “คาร์” เป็น “นิวคาร์” หรือ รถใหม่ ที่เป็นคีย์แมสเสจของแคมเปญครั้งนี้ ซึ่งทีเด็ดอยู่ที่ “การแจกรถเบนซ์ 50 วัน 50 คัน ที่ตันตั้งใจให้เป็นตัว “จุดระเบิด” กระตุ้นยอดขายช่วงหน้าร้อนของปีนี้
รางวัลแรกเป็น รถ Mercedes Benz SLK 200 ซูเปอร์คาร์ รางวัลละ 3.69 ล้านบาท แจกทุกเดือน จำนวนรวม 3 รางวัล รางวัลที่ 2 แจกทุกวัน! Mercedes Benz CLA 180 47 คัน รางวัลละ 2.39 ล้านบาท รวมมูลค่ารวมกว่า 123.4 ล้านบาท ตันบอกว่าใช้เงินมากที่สุดเท่าที่เคยทำมา ถ้ารวมทั้งแคมเปญใช้งบลงทุนรวม 200 ล้านบาท
ส่วนที่เลือกรถเบนซ์เสี่ยตันบอกว่า เพราะเป็นรถหรูในฝันของคนไทยทุกเพศ ทุกวัย เข้าถึงผู้บริโภคได้กว้างกว่าตอนที่แจกรถปอร์เช่ปีที่แล้ว มีข้อจำกัดเข้าถึงคนได้ไม่กี่กลุ่ม
ปีนี้ ตันเลือกแจกแบบเนื้อๆ เน้นแจกรถเบนซ์เพียงอย่างเดียว 50 คัน 50 วัน ให้ผู้บริโภคได้ลุ้นทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม – 21 พฤษภาคม 2558 ไม่มีรางวัลอื่นมาแจมเหมือนปีที่ผ่านๆ มา
ส่วนองค์ประกอบของแคมเปญอื่นๆ ยังคงไว้เหมือนเดิม เช่น ให้ส่งรหัสใต้ฝาฟรีทุกเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ไม่ต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย ส่วนรับซื้อรถคืนเหมือนสมัยรถปอร์เช่หรือไม่ ตันบอกไม่มีในเงื่อนไข
เชื่อว่าน่าจะมีเพิ่มมาในช่วงระหว่างแคมเปญ ที่กินระยะเวลา 50 วัน ซึ่งเป็นช่วงที่ตันจะต้อง “สร้างสตอรี่” หรือเรื่องราว ทั้งการที่ตันเดินสายแจกรถ แจกทอง แจกไอโฟนด้วยตัวเอง เพื่อให้แคมเปญยังคงอยู่ในกระแสความสนใจของผู้คน
นอกจากตันจะใช้โอกาสโปรโมชั่นปีนี้เปิดตัวชาเขียวรสชาติใหม่ รสลิ้นจี่ ที่ออกมากระตุ้นยอดขายให้กับพอร์ต “ชาเขียว” แล้ว ปีนี้ ตันยังได้เตรียมเปิดเครื่องดื่มน้ำส้ม “ไบเล่” ที่ซื้อกิจการมาเมื่อปีที่แล้ว ด้วยมูลค่า 1,780 ล้านบาท และปรับ “แพ็กเกจจิ้ง” ใหม่ อยู่ในขวด PET ขนาด 300 มิลลิลิตร ราคา 13 บาท และขนาดใหม่ๆ ออกมาวางขายในวันที่ 20 มีนาคม ตันตั้งใจจะให้เป็นพระเอกใหม่ในปีนี้ โดยเข้าร่วมในโปรโมชั่น ให้คนซื้อได้ลุ้นรหัสรวยเปรี้ยงได้ด้วย
เป็นการเดินเกมการตลาดในแบบเดียวกันกับที่ตันเคยใช้ในการเปิดตัว เย็น เย็น น้ำจับเลี้ยงที่ตันใช้จังหวะของการออกโปรโมชั่น รหัสรวยเปรี้ยง กระตุ้นให้เกิดการทดลองชิม ซึ่งไบเล่จะเป็น “พระเอก” ของปีนี้ ที่มาเติมพอร์ตเครื่องดื่มให้ครบเครื่องมากขึ้น โดยในปีแรกตันได้ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 600 ล้านบาท
โออิชิ ถล่มกลับด้วย “จำนวน” รถ
ทางฟาก “โออิชิ” ถล่มกลับทันที ด้วยโปรโมชั่น “รหัสโออิชิ ซิ่งทั่วไทย” ชิงโชครถยนต์โตโยต้า ยาริส และรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟีโน่ รวม 600 คัน แจกทุกวัน แถมยังยิงยาวตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม จนถึง 31 พฤษภาคม 2558
เจษฎากร โคชส์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บอกว่า ที่เลือกรถ ‘โตโยต้า’ ‘ยามาฮ่า’ เพราะเป็นรุ่นยอดนิยมโดนใจมหาชน และโดนใจกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบรถทั้งสองชนิดนี้
โปรโมชั่นของโออิชิจะเน้นแจกเป็น “กองทัพรถ” จำนวนมากถึง 600 คัน ซึ่งถือเป็นจำนวนรางวัลที่มากกว่าทุกปี และจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งในการจับรางวัล ด้วยจำนวนรถ 220 คันในการจับรางวัลครั้งสุดท้าย รวมมูลค่าของรางวัล 50 ล้านบาท
รูปแบบการชิงรางวัลคล้ายกัน คือ ส่งรหัสใต้ฝาหรือกล่องผลิตภัณฑ์ในเครือโออิชิ ได้แก่ โออิชิ กรีนที โออิชิ แบล็คที โออิชิ โอเฮิร์บ และโออิชิฟรุตโตะ ทั้งส่งผ่าน SMS ใช้กับมือถือทุกค่ายฟรี และเพิ่มอีก 2 ช่องทางให้ส่งผ่านเว็บไซต์ และโมบายล์แอปพลิเคชั่น
ตามด้วยการออก โออิชิรสชาติใหม่ “กรีนที รสแตงโม” รสชาติใหม่ที่ออกมาท้าชนกับอิชิตัน รสลิ้นจี่ ในช่วงซัมเมอร์
ส่วนพรีเซ็นเตอร์โปรโมชั่นรอบนี้ พระเอกคนดัง “หมาก-ปริญ สุภารัตน์” มารับบทเป็นแม่ทัพใหญ่ในหนังโฆษณาของโออิชิ เพื่อสื่อถึงกองทัพรถ 600 คัน มาชวนผู้บริโภคทั่วประเทศ ให้มาดื่มโออิชิและส่งรหัสเข้ามาร่วมลุ้นเป็นเจ้าของรถ จะออกอากาศครั้งแรกในวันที่ 16 กุมภาพันธ์นี้ กระหน่ำด้วยโฆษณาผ่านสื่อดั้งเดิม หนังสือพิมพ์ วิทยุ บิลบอร์ด รถไฟฟ้า โรงภาพยนตร์ สื่อดิจิทัล สื่อ ณ จุดขาย กิจกรรมโรดโชว์ที่จะเดินสายไปสร้างสีสันทั่วประเทศตลอดซัมเมอร์นี้
สงครามรอบนี้ โออิชิยังคงเดินเกมรบตามประกบอิชิตันแบบจัดหนักจัดเต็มเช่นเดียวกับทุกครั้ง แม้รถที่แจกจะไม่หรูเท่าก็ตาม แต่ด้วยจำนวนรถที่แจกมากกว่า และระยะเวลาโปรโมชั่นยาวกว่า ก็เป็นทางเลือกให้ลูกค้าได้ลุ้นเช่นกัน
สร้างความเคยชินให้ผู้บริโภค
ผศ.เสริมยศ ธรรมรักษ์ หัวหน้าภาควิชาการสื่อสารแบรนด์ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มองเปรียบเทียบโปรโมชั่นของสองค่ายชาเขียวครั้งนี้ ที่หันมาสู้กันด้วย “แจกรถ” ทั้งคู่
หากดูจากสูตรการทำโปรโมชั่นของอิชิตัน มักจะเลือกแจกของรางวัลจำนวนไม่มาก แต่มี “มูลค่าสูง” อย่างการแจกรถปอร์เช่ หรือแจกรถเบนซ์ เพื่อสร้างโอกาสให้ถูกพูดถึง ให้เกิดการแชร์ต่อ และเป็นข่าวได้มากกว่าแจกของที่มีมูลค่าไม่มาก
ส่วนฟาก “โออิชิ” แม้มูลค่าของรางวัลที่แจกไม่สูงเท่ากับของคู่แข่งก็ตาม แต่การไปเน้นที่ “จำนวนที่เยอะกว่า ระยะเวลานานกว่า อาจโดนใจลูกค้าบางกลุ่ม ที่มองว่าโอกาสในลุ้นรางวัลมีมากกว่า และการเลือกแจกมอเตอร์ไซค์ ดูแล้วมูลค่าไม่มาก แต่มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะโดนใจลูกค้าในต่างจังหวัดที่ยังนิยมใช้มอเตอร์ไซค์เป็นหลัก
ต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมา ตันมีข้อได้เปรียบในเรื่องของการรู้ “อินไซท์” ผู้บริโภค นำมาปรับใช้กับการออกแคมเปญได้ต่อเนื่อง
“ดูอย่างการเปลี่ยนจากส่งฝาชิงโชค มาใช้ส่งรหัสผ่านโทรศัพท์มือถือ ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคนี้ ที่ต้องการรู้ทันทีไม่ต้องรอ จ่ายภาษีให้ ตอนแจกรถปอร์เช่ รับขายรถให้อีก ซึ่งคุณตันมักจะมีมุกการตลาดมาเติม สร้างแรงกระเพื่อมให้โปรโมชั่นเป็นกระแสต่อเนื่องไปเรื่อยๆ”
นอกจากนี้ การที่ “โออิชิ” อยู่ภายใต้องค์กรใหญ่ ต้องมีขั้นตอนการตัดสินใจทำได้ช้ากว่า “อิชิตัน” ที่ตันลงมาเล่นเอง ลุยเอง ตัดสินใจเอง ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้ทันท่วงที
แต่หากมองภาพรวมการแข่งขันของชาเขียวของ 2 แบรนด์ใหญ่ ยังคงมุ่งเน้นไปที่การทำ “เซลส์ โปรโมชั่น” ลด แลก แจก แถม มุ่งไปที่การสร้างตัวเลขยอดขายเป็นหลัก เพื่อช่วงชิงการเป็น “เบอร์ 1” ชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร จึงไม่ได้แข่งขันกันที่ตัวสินค้า หรือคุณค่าของชาเขียว ซึ่งการออกโปรโมชั่นลักษณะนี้ ช่วยสร้างกระตุ้นตัวเลขยอดขายเพิ่มขึ้นได้ก็จริง แต่สุดท้ายแล้วต้องดูผลในระยะยาว แบรนด์ได้รับประโยชน์ และผลกำไรจริงหรือไม่
ถ้าแบรนด์สินค้าชนิดไหนที่มีความแข็งแรง หรือสินค้ามีคุณภาพดีจริง สามารถจูงใจให้ผู้บริโภคซื้อสินค้าได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้กลยุทธ์ลด แลก แจก แถมมาใช้ ซึ่งเวลานี้ชาเขียวสองรายใหญ่ยังไม่ได้เน้นเรื่องนี้ จะมีบางแบรนด์เท่านั้นที่ไม่ได้ลงมาเล่นเรื่องราคา
นอกจากนี้ การทำโปรโมชั่นในลักษณะนี้ ได้สร้างค่านิยมการ “ลุ้น” รางวัลให้เกิดขึ้นกับผู้บริโภคที่มีความเคยชินกับการถูกกระตุ้นให้ซื้อด้วยโปรโมชั่น เมื่อหมดโปรโมชั่นแล้วยอดขายจะสวิงแค่ไหน ต้องประเมินกันอีกที
ที่สำคัญการจัดแคมเปญโปรโมชั่นแต่ละครั้ง ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก ย่อมกระทบถึงกำไรที่จะได้รับกลับมาด้วย
อีเจี๊ยบถาม “แจกเบนซ์วันละคัน ชาเขียวทุนเท่าไหร่เนี่ย???”
ออกโปรโมชั่นมาสู้กันขนาดนี้ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ “อีเจี๊ยบเลียบด่วน” ขึ้นชื่อเรื่อง “ดราม่า” เลยต้องตั้งกระทู้มันๆ ว่า
“อ้วนตันแม่งแจก ไอโฟน 6กูก็หาไอโฟนหกมาแจกบ้าง รอบนี้ แม่งแจก เบนซ์สปอร์ตมึงคิดว่ากูจะอยู่เฉยๆ ได้เหรอ กูขอประกาศต่อหน้าทุกคนเลยนะอ้วน ตัน ภาสกรนที มึงฟังไว้ !!!
กูอยู่เฉยๆ ได้ สบายมากๆ เลย แจกให้สนุกนะมึง แจกเบนซ์วันละคัน ชาเขียวมึงทุนขวดละเท่าไหร่วะเนี่ย ?????
จั่วหัวปลุกกระแสดราม่าขึ้นมาเบาๆ ให้ลูกเพจได้เมนต์กันหอมปากหอมคอ ก็ต้องรอดูกันต่อ ที่แน่ๆ ศึกแจกรถรอบนี้ ต้องลุ้น ใครจะได้แชมป์ไปครอง
