เทคโนโลยีของโทรศัพท์มือถือมีการเติบโตอย่างรวดเร็วทั้งในแง่ของการใช้งานของผู้บริโภค รวมไปถึงในเรื่องของการทำธุรกิจก็จะเป็นต้องใช้เทคโนโลยีดังกล่าวเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งเทรนด์ดังกล่าวมีการเติบโตอย่างมากในแถบเอเชียแปซิฟิค โดยที่ทาง บริษัทวิจัย IDC Asia/Pacific Mobility และ IDC Asia/Pacific Client Devices research บริษัทวิจัยเทรนด์ทางด้านไอที ได้สรุปเทรนด์ที่มาแรงใน 2015 ดังต่อไปนี้
1. ทุ่มบริการโฆษณาผ่านมือถือ เราจะได้เห็นผู้ประกอบการโอเปอเรเตอร์โทรศัพท์มือถือในเอเชีย มีแนวโน้มในการทุ่มบริการด้านสื่อโฆษณาผ่านทางมือถือมากขึ้น เพื่อผลักดันให้เกิดรายได้ใหม่ๆ ขึ้นมา เช่น การแจ้งข่าวสารการลดราคาต่างๆ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภค 2. ตลาด M-Commerce กินตลาด 50% ของ e-Commerce ไอดีซีคาดการณ์ ตลาด M-Commerce ในเอเชียแปซิฟิคในปี 2015 จะมีมูลค่ากว่า 25 ล้านเหรียญสหรัฐ และในบางประเทศ M-Commerce จะกลายเป็นสัดส่วนที่มากกว่า 50% ของตลาด e-Commerce 3. หาพันธมิตรทำโฆษณาบนมือถือ ผู้ประกอบการธุรกิจโทรคมนาคมจะเริ่มมองหาพันธมิตรทางด้านธุรกิจในการทำโฆษณาผ่านโทรศัพท์มือถือด้วย 4. Mobile wallet หรือการทำธุรกรรมผ่านโทรศัพท์มือถือมาแน่นอน ในเอเชียจะเริ่มได้เห็นทิศทางการเพิ่มขึ้นของเทรนด์ Mobile wallet หรือการทำธุรกรรมผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งปัจจุบันการใช้ Mobile wallet เริ่มแพร่หลายในประเทศที่กำลังพัฒนาแล้วค่อนข้างเยอะ ส่วนใหญ่จะมีอัตราการใช้บัตรเครดิตที่น้อยอยู่ แต่เทคโนโลยี NFC ที่ใช้เป็นการจ่ายเงินผ่านโทรศัพท์มือถือนั้นยังคงจำกัดอยู่ในประเทศที่พัฒนาแล้วอยู่ ซึ่งมีอัตราการใช้บัตรเครดิตในระดับสูง 5. โทรศัพท์มือถือจะก้าวข้ามกลายเป็นแท็บเล็ต นปีที่ผ่านมา สมาร์ทโฟนแบบ Phablet มีการเติบโตแบบปีต่อปีสูงถึง 74% หรือ 178 ล้านเครื่องในเอเชีย เทรนด์ในอนาคตจะนิยมการใช้สมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่ขึ้นทั้งเท็บเล็ต และ Phablet นั่นเอง 6. การจัดการคอนเทนต์ หรือแอพพลิเคชั่นมีตัวเลือกมากขึ้น หรือที่เรียกว่า MDM (Mobile Device Management) ทั้งนี้เพื่อในการใช้ประโยชน์จากแอพพลิเคชั่นได้ง่ายขึ้น และเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน 7. แอพพลิเคชั่นตอบรับการทำงานผ่านมือถือโตขึ้น ในหลายๆ ธุรกิจจะมีการทำแอพพลิชั่นเพื่อตอบรับการทำงานผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะเห็นการเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ 8. ดีไวซส่วนตัวมาใช้ในที่ทำงานได้ BYOD (Bring Your Own Device)ยังมาแรง เช่น Surface ดีไวซ์จากไมโครซอฟท์ ที่วางตัวเองว่าเป็นมากกว่าแท็บเล็ต จะช่วยสร้างกระแสของ BYOD (Bring Your Own Device) หรือการนำดีไวซ์ส่วนตัวมาใช้ในที่ทำงานได้ โดยไม่จำเป็นจะต้องมีเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีเครื่องใหญ่ๆ เลย 9. อุปกรณ์ Wearable Technology จะเริ่มเข้าสู่องค์กรธุรกิจมากขึ้น สามารถนำมาใช้เพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้บริโภคได้ ที่มา: IDC Asia/Pacific Mobility, IDC Asia/Pacific Client Devices research