“ไทยเบฟ” ส่ง “VANTAGE POINT” เสริมพอร์ตร้านอาหารยุโรป ปักหมุดสาขาแรกที่ศูนย์สิริกิติ์

  • จุดเริ่มต้นของร้านนี้ เนื่องจากคุณหนุ่ม ฐาปน สิริวัฒนภักดี มีพื้นที่เหลือ 1,000 ตารางเมตรที่ศูนย์สิริกิติ์ และเป็นพื้นที่ที่สวยที่สุด เนื่องจากเป็นวิวที่มองเห็นสวนเบญจกิติ จึงอยากทำร้านอาหาร
  • วางจุดยืนเป็นร้านอาหารที่รวบรวมอาหารสไตล์ยุโรปโดยเฉพาะ ไม่ใช่อินเตอร์เนชันแนล บุฟเฟต์
  • เหตุผลที่ชื่อ VANTAGE POINT แปลว่าตำแหน่งที่ดีที่สุด ตอนแรกจะใช้ชื่อว่า Centale แต่กลัวสับสนกับเซ็นทรัล

หลังจากที่ “ไพศาล อ่าวสถาพร” ได้เข้ามาบริหาร Bistro Asia หรือบริษัท บิสโตร เอเชีย จำกัด ได้ราว 1 ปี เรียกได้ว่าบริษัทได้มีมูฟเมนต์ค่อนข้างมาก มีการเปิดสาขาใหม่ๆ และสามารถสร้างรายได้ และเปลี่ยนจากภาวะขาดทุนเป็นกำไรได้

Bistro Asia ได้ก่อตั้งมาได้ 4 ปีแล้ว ปัจจุบันมีร้านอาหารในเครือ 6 แบรนด์ ได้แก่ บ้านสุริยาศัย (BAAN SURIYASAI), ไฮด์ แอนด์ ซีค แอทธินี (HYDE & SEEK Athenee), หม่าน ฟู่ หยวน (MAN FU YUAN), โซ อาเซียน (SO Asean Café & Restaurant), สโมสรราชพฤกษ์ (Rajpruek Club) บริการจัดเลี้ยง และศูนย์อาหารฟู้ด สตรีท (Food Street)

ล่าสุดกับแบรนด์ที่ 7 ที่เพิ่งเปิดตัวไปสดๆ ร้อนๆ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา กับ VANTAGE POINT ร้านอาหารในสไตล์ European Eatery ที่รวบรวมอาหารยุโรปหลากหลายจากวัตถุดิบคุณภาพนำเข้าจากยุโรป พูดง่ายๆ ก็คือเน้นแต่อาหารยุโรปอย่างเดียว ไม่ได้เน้นอาหารนานาชาติ หวังปั้นเป็นแฟลกชิปตัวใหม่ที่เข้ามาช่วยผลักดันการเติบโตของธุรกิจในปี 2023

VANTAGE POINT ประเดิมสาขาแรกที่ชั้น 2 ของศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) บนพื้นที่กว่า 1,000 ตารางเมตร เรียกได้ว่าเป็นร้านอาหารที่ใหญ่มากๆ ร้านหนึ่ง

VANTAGE POINT

ไพศาลได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการเปิดร้านนี้ว่า เนื่องจากคุณหนุ่ม ฐาปน สิริวัฒนภักดี มีพื้นที่เหลือ 1,000 ตารางเมตรที่ศูนย์สิริกิติ์ และเป็นพื้นที่ที่สวยที่สุด เพราะเป็นวิวที่มองเห็นสวนเบญจกิติ จึงอยากทำร้านอาหาร เป็นสถานที่ได้แฮงเอาท์ได้ทั้งกลางวัน และกลางคืน

ประกอบกับว่าแต่เดิมในตลาดเห็นมีร้านที่เป็นอินเตอร์เนชันแนล บุฟเฟต์หลายเจ้า จึงอยากทำร้านที่รวบรวมอาหารยุโรป ทั้งอิตาลี สเปน โปรตุเกส เยอรมัน รวมที่เป็นไฮไลต์ของยุโรปจริงๆ ทำเทศกาลของแต่ละประเทศด้วย ไพศาลเองก็ชื่นชอบอาหารอิตาเลียนเป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย การทำร้านนี้จึงแฮปปี้สุดๆ

แรกเริ่ม VANTAGE POINT สร้างขึ้นเพื่อหวังว่าจะรองรับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนมาประชุมที่ศูนย์ฯ แต่ได้จับกลุ่มลูกค้าที่เป็นกลุ่มครอบครัว และคนทำงานมากขึ้น เพราะมีกลุ่มคนที่มาออกกำลังกายที่สวนเบญจกิติ และมีร้านอาหารหลายร้านที่ศูนย์นี้

VANTAGE POINT

“VANTAGE PONT ถูกพัฒนาขึ้นโดยมีต้นแบบมาจากการนำแนวคิดของตลาดนัดในยุโรปอย่าง Mercato Centrale มาต่อยอด โดย Mercato Centrale ที่เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี ซึ่งปีนคอนเซ็ปต์ของสถานที่ที่เป็นการรวบรวมอาหารชั้นยอดของอิตาลีมาไว้ในที่เดียวกัน คล้ายๆ กับตลาดของบ้านเรา ก่อนที่คอนเซ็ปต์ศูนย์รวมของร้านอาหารแบบนี้จะได้รับความนิยมและถูกขยายออกไปยังประเทศอื่นๆ ในยุโรป ไม่ว่าจะเป็นสเปน เยอรมัน อิตาลี หรือฝรั่งเศส ซึ่งความนิยมของมัน เกิดจากการมีความหลากหลายของประเภทอาหารชั้นเยี่ยม ซึ่งเรานำเอาแนวคิดนี้มาพัฒนาเป็นร้าน VANTAGE POINT ที่รวบรวมอาหารอเมริกันและตะวันตกมาไว้ในที่เดียวกัน เป็นการนำเสนอที่แตกต่างจากร้านอาหารทั่วไปที่จะเป็นเฉพาะทางมากกว่า”

ส่วนสาเหตุของการเลือกตั้งชื่อแบรนด์ร้านอาหารใหม่ในเครือว่า VANTAGE POINT นั้น ไพศาลบอกว่า VANTAGE POINT จะหมายถึง จุดชมวิวที่ดีที่สุด ซึ่งชื่อนี้เกิดจาก การมีบรรยากาศภายในร้านที่สามารถมองเห็นวิวที่ดีที่สุดของสวนเบญจกิติ ทั้งในส่วนของสวนและทะเลสาบ โดยร้านจะแบ่งออกเป็น 2 โซน คือโซน Park กับโซน Lake

VANTAGE POINT

นอกจากนี้ ยังแบ่งเป็นห้องไพรเวทได้อีก 4 ห้อง ห้องละ 10 คน ทั้ง 4 ห้อง สามารถเปิดทะลุกันได้ Kitchen ของแต่ละครัว ลูกค้าสามารถดูได้ และสั่งอาหารจากเมนูหรือสั่งจากเคาน์เตอร์ที่จะใช้เทคโนโลยีช่วยซึ่งจะมีจอสัมผัสมาแตะแล้วสั่งได้เลย หรือใช้บัตรที่โต๊ะมาสแกนบาร์โค้ดแล้วสั่งอาหาร

ขณะเดียวกันพื้นที่ในร้านสามารถปิดเป็นโชนที่สามารถรองรับลูกค้าได้โซนละกว่า 100 คน รวมถึงมีส่วนเอาต์ดอร์ที่มีอยู่ประมาณ 30 กว่าที่นั่ง ทำให้สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าที่จะเข้ามานั่งทานอาหารหรือเข้ามาดื่มสังสรรค์ในช่วงเวลาเย็น

ซึ่งการดีไซน์บรรยากาศของร้านทั้งหมด หลักๆ ก็เพื่อรองรับคนที่มางานที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์สามารถมาเอนจอยหรือพักเบรก มาดื่มชา กาแฟ หรือมานั่งดื่มเพื่อพูดคุยกัน เป็นสถานที่ที่รองรับได้หลากหลายบรรยากาศ

VANTAGE POINT

“สิ่งที่เราทำออกมาก็เพื่อฉีกหนีไปสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ลูกค้า โดยมองว่า ลูกค้ามักจะจำเจกับร้านอาหารในสไตล์อินเตอร์เนชันแนล บุฟฟเฟต์จึงได้สร้างร้านอาหารที่เป็นเฉพาะทางขึ้นมาโดยมุ่งไปที่อาหารยุโรปอย่างเดียว เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารยุโรป ทั้งวัตถุดิบ เครื่องปรุง ทั้งหมด เป็นสไตล์ยุโรปเลยไม่ว่าจะเป็นพิซซ่า สไตล์อิตาเลียน หรือเป็น โคลคัท ทาร์พาสต์ แนวสเปน หรือจะเป็นชีส ที่เอามาจากแคว้นชื่อดังในอิตาลี พาสต้า, รีซอตโต้ สลัด และซุป ที่หลากหลาย ครบเครื่องอาหารยุโรป รวมถึงอเมริกันฟู้ด และอาหารสไตล์ตะวันตกอื่นๆ ที่เหมาะกับทั้งมานั่งทานเล่นกับเครื่องดื่ม หรือมานั่งทานหนักเลยก็ได้ โดยการดีไซน์บรรยากาศภายในร้าน จะออกมาแบบสบายๆ ที่ดีไซน์จะเชื่อมโยงกับคอนเซ็ปต์ของ Mercato Centrale โดยจะมีการดีไซน์ครัวแบบ Open Kitchen ตลอดจนนำเรื่องของดิจิทัลเข้ามาใช้ในการสั่งอาหาร”

ในช่วงที่เปิดให้บริการช่วงแรกในช่วงวันธรรมดาจะให้บริการแบบอะลาคาร์ท (A La Carte) ขณะที่เสาร์ – อาทิตย์ จะเป็นบุฟเฟต์ที่มีราคาเริ่มต้นที่ 998++ ซึ่งบุฟเฟต์คาดว่าจะให้บริการในช่วงเดือนกุมภาพันธ์

VANTAGE POINT

VANTAGE POINT จะถูกปั้นให้เป็นอีก 1 ในแฟลกชิปของแบรนด์ร้านอาหารในเครือ ที่จะเข้ามาช่วยผลักดันการเติบโตร่วมกับร้านอาหารในพอร์ตแบรนด์อื่นๆ คือ บ้านสุริยาศัย (BAAN SURIYASAI) ไฮด์ แอนด์ ชีค แอทธินี (HYDE & SEEK) หม่าน ฟู่ หยวน (MAN FU YUAN) โซ อาเซียน (SO ASEAN Cafe & Restaurant) สโมสรราชพฤกษ์ (Rajpruek Cub) ศูนย์อาหารฟู้ด สตรีท (Food Street) และบริการจัดเลี้ยง (Catering) โดยบิสโตร เอเชีย จะเน้นการขยายแบรนด์ใหม่ๆ ด้วยการให้ความสำคัญกับการนำเสนอนวัตกรรมพร้อมกับมอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้กับลูกค้า