เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาในปี 2022 นั้น GDP เติบโตที่ 2.1% ลดลงจากปี 2021 ที่เติบโตอย่างร้อนแรงที่ 5.9% อย่างไรก็ดีสำหรับในปี 2023 นี้ปัจจัยสำคัญของเศรษฐกิจสหรัฐฯ คือเรื่องของตัวเลขเงินเฟ้อว่าจะคงยังอยู่สูงหรือไม่ ซึ่งธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจยังใช้ยาแรงในการปราบตัวเลขดังกล่าวลงมาให้ได้
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐอเมริกาเปิดเผยตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐฯ ว่า GDP ของปี 2022 นั้นเติบโตที่ 2.1% หลังจากที่ในไตรมาส 4 นั้น GDP เติบโตมากถึง 2.9% ซึ่งดีกว่านักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ว่าจะเติบโตเพียงแค่ 2.6% เท่านั้น
ตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไตรมาส 4 การบริโภคในประเทศซึ่งคิดเป็นสัดส่วนต่อ GDP สูงถึง 68% เติบโต 2.1% ซึ่งลดลงจากไตรมาส 3 ที่ผ่านมา เนื่องจากปัญหาของอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ขณะที่ภาคการส่งออกของสหรัฐฯ กลับถดถอยที่ -1.3% ส่วนการนำเข้าสินค้านั้นถดถอยที่ -4.6%
นอกจากนี้สัญญาณของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เริ่มเห็นว่าอ่อนตัวลงคือตัวเลขค้าปลีกของสหรัฐฯ นั้นลดลง 1.1% ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ไม่เพียงเท่านี้การลงทุนในที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯ ได้ปรับตัวลดลง 7 ไตรมาสติดต่อกัน ซึ่งถือว่ายาวนานที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจปี 2007-2009 เป็นต้นมา
สำหรับปี 2023 นั้นตัวเลขทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังจากนี้จะขึ้นอยู่กับตัวเลขของเงินเฟ้อว่าจะยังอยู่ในอัตราที่สูงหรือไม่ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวนั้นจะกระทบกับการบริโภคของประชาชน นอกจากนี้ถ้าหากตัวเลขทางเศรษฐกิจดังกล่าวยังอยู่สูงก็อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจยังใช้การขึ้นดอกเบี้ยที่สูง เพื่อลดตัวเลขดังกล่าวลงมาให้ได้
เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ผลสำรวจของนักเศรษฐศาสตร์มองว่าเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาในปี 2023 นี้มีโอกาสถดถอยมากถึง 70%
Wells Fargo สถาบันการเงินในสหรัฐฯ ได้ออกบทวิเคราะห์ว่าหลังจากตัวเลข GDP ได้ออกมาอย่างแข็งแกร่งนั้น คาดว่าหลังจากนี้ในไตรมาส 1 ของปี 2023 คาดว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะมีโมเมนตัมอ่อนแอลง และยังมองว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% อีก 3 ครั้งหลังจากนี้
ที่มา – CNN, CNBC, Reuters, บทวิเคราะห์จาก Wells Fargo