‘NocNoc’ ถึงเวลาขยับจาก Home สู่ Living เพิ่มอัตราซื้อซ้ำ ดันยอดขายทะลุ 5,000 ล้านบาท

ตลาดเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 9 หมื่นล้านบาท มีการเติบโตต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา เพราะได้อานิสงส์จากการระบาดของ COVID-19 ซึ่งก็ถือเป็นช่วงที่ดีของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเฉพาะทางอย่าง NocNoc ที่รวมเฟอร์นิเจอร์และไอเดียแต่งบ้านออนไลน์ โดยช่วง 3 ปีที่ผ่านมามียอดขายถึง 5,000 ล้านบาท แต่ในปี 2023 นี้ NocNoc ตั้งเป้ายอดขายรวมให้ได้ 5,000 ล้านบาทภายในปีเดียว

อีคอมเมิร์ซโตน้อย แต่เฟอร์นิเจอร์ยังไปได้

ในปี 2022 ตลาดอีคอมเมิร์ซ 5.6 แสนล้านบาท สามารถเติบโตประมาณ 20% ส่วนปีนี้คาดว่าจะเติบโต 10% แม้จะเติบโตน้อยลง แต่สัดส่วนของสินค้าในกลุ่ม Home & Living ยังถือว่าน้อย โดยถ้านับเฉพาะเฟอร์นิเจอร์มีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 9 หมื่นล้านบาท ขณะที่ช่วงโควิดที่ผ่านมา ผู้บริโภคก็สนใจตกแต่งบ้านมากขึ้น ทำให้ ชลลักษณ์ มหาสุวีระชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบ็ตเตอร์บี มาร์เก็ตเพลส จำกัด หรือแพลตฟอร์ม NocNoc จึงเชื่อว่าแพลตฟอร์มมีโอกาสเติบโตได้โดยวางเป้ายอดขายรวมทั้งปีที่ 5,000 ล้านบาท

โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา แพลตฟอร์มียอดขายรวมทั้งหมด 5,000 ล้านบาท ในไตรมาส 4 ที่ผ่านมา เติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วกว่า 200% และโดยเฉลี่ยมีผู้เข้ามาใช้บริการเพิ่มมากขึ้นกว่า 3 ล้านรายต่อเดือน ทั้งลูกค้า B2C และ B2B ปัจจุบันมีผู้ขาย (Seller) ในระบบกว่า 3,000 ราย รวมสินค้ามากกว่า 500,000 SKU จากทั้งหมด 22 หมวดหมู่ และนอกจากสินค้า แพลตฟอร์มยังมีส่วนของ บริการ (Service) ตั้งแต่บริการล้างแอร์ไปจนถึงรีโนเวตบ้าน

จาก Home สู่ Living จริงจัง

ชลลักษณ์ อธิบายถึง ข้อจำกัด ของตลาดเฟอร์นิเจอร์ว่า แม้ว่าราคาสินค้าต่อชิ้นจะสูง ทำให้เฉลี่ยยอดสั่งซื้อของผู้ใช้จะอยู่ที่กว่า 15,000-20,000 บาท แต่ อัตราซื้อซ้ำน้อย ปัจจุบันอยู่ที่ 30% ดังนั้น กลยุทธ์ของแพลตฟอร์มในปีนี้คือการขยายไปยังกลุ่ม Living ไม่ว่าจะเป็นสินค้าแม่และเด็ก, สัตว์เลี้ยง ที่ผู้บริโภคซื้อซ้ำง่าย

“คงไม่มีใครเปลี่ยนเก้าอี้ทุกเดือน ดังนั้น การขยายสโคปของสินค้าสำคัญมาก ซึ่งช่วง 3 ปีที่ผ่านมาเรามั่นใจว่ารากฐานเราแข็งแรงโดยเฉพาะสินค้าในบ้าน แต่ยังเหลือกลุ่ม Living ที่ไม่ได้เน้นมากนัก ดังนั้น ยังเหลือโอกาสอีกมาก”

ที่ผ่านมา สินค้าที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 คือกลุ่มเฟอร์นิเจอร์ของแต่งบ้าน (50%) อันดับ 2 คือกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า (40%) กลุ่มที่ 3 คือ กลุ่ม Home Improvement (10%) และสุดท้ายคือการให้บริการเรื่องบ้าน (Service) โดยแบ่งเป็นประเภทสินค้า 5 อันดับแรกคือ โซฟา, เครื่องนอน, ชั้นจัดเก็บ โต๊ะ, เก้าอี้ และกระเบื้อง

ส่วนกลุ่มลูกค้าในปัจจุบัน 60% เป็นกลุ่มอายุ 25-34 ปี, 30% เป็นกลุ่มอายุมากกว่า 40 ปี และ 10% เป็นกลุ่มอายุต่ำกว่า 25 ปี ซึ่งนี่จะเป็นกลุ่มที่มีโอกาสเติบโตสูงในอนาคต

B2B เติบโตรับนักท่องเที่ยว

อีกตลาดที่เป็นโอกาสก็คือ กลุ่ม B2B เช่น ร้านอาหาร, โรงแรม, คาเฟ่ร้านกาแฟ และออฟฟิศ ซึ่งมีการเติบโตอย่างมากในช่วง Q3-Q4 ปี 2022 เนื่องจากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ทำให้ร้านค้าและโรงแรมลงทุนมากขึ้น โดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนกลุ่ม B2B เป็น 25%

“ข้อดีของมาร์เก็ตเพลสคือความหลากหลาย แน่นอนเขาอาจไปดีลกับแบรนด์เองโดยตรงได้ แต่สินค้าก็อาจจะมีจำกัด เขาอาจต้องหาหลายเจ้า แต่เรารวมไว้หมดแล้ว ดังนั้น เขาสามารถผสมแบรนด์ได้”

นอกจากนี้ จะขยายตลาดไปสู่ หัวเมืองใหญ่ อาทิ พัทยา, เชียงใหม่ ทั้งการทำตลาดและหาพาร์ตเนอร์ร้านค้า เนื่องจากที่ผ่านมา ลูกค้าส่วนใหญ่จะอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นหลัก โดยคาดว่าภาพรวมทั้งปีจะมีร้านค้าในระบบเพิ่มเป็น 4,000 ราย

O2O เพิ่มประสบการณ์ Physical touch

อีกหนึ่งข้อจำกัดของสินค้าเฟอร์นิเจอร์ก็คือ ต้องมี Physical touch หรือ ได้ลองจับ สัมผัส สินค้าจริง ดังนั้น นี่จึงเป็นอีกโจทย์ของแพลตฟอร์ม โดย NocNoc จะมีการออกอีเวนต์ออฟไลน์อย่าง NocNoc แฟร์ ที่จะเปิดพื้นที่ออฟไลน์ให้เซลเลอร์ได้มาโชว์สินค้าปีละ 2 ครั้ง นอกจากนี้ ยังมีการจับบมือกับงาน บ้านและสวนแฟร์

อีกส่วนคือการ ให้ความรู้เซลเลอร์ ในการถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอสินค้า เพื่อให้ลูกค้าเห็นภาพ รวมถึงให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้ซื้อให้กลับมา รีวิวสินค้า เพื่อเป็นการ ป้ายยา และช่วยให้ลูกค้าคนอื่น ๆ ได้เห็นภาพสินค้าที่ชัดเจนมากขึ้น รวมถึงให้ลูกค้าคืนสินค้าได้ใน 30 วันหากไม่พอใจ โดยรวมแล้ว แพลตฟอร์มจะใช้งบการตลาดประมาณ 10% ของยอดขาย

“กว่าผู้บริโภคเขาจะซื้อเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นเขาต้องลองนั่ง ลองจับ แต่ที่เขามาซื้อบนมาร์เก็ตเพลสก็เพราะ ราคา และความหลากหลาย ยิ่งถ้าเจอสินค้าที่เขาเคยลองสัมผัสบนมาร์เก็ตเพลส จะทำให้เขาตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ดังนั้น นี่เป็นอีกโจทย์ของเรา เพราะเรื่องประสบการณ์เป็นสิ่งที่ท้าทายมาก”

ลงทุนระบบพัฒนา AI ป้ายยาแบบ Personalized

สำหรับการลงทุนนอกจาการตลาด แพลตฟอร์มจะเน้นไปที่ ระบบ โดยมีแผนจะจ้างเดเลลอปเปอร์เพิ่มในปีนี้ โดยที่ผ่านมา แพลตฟอร์มจะให้ความสำคัญกับระบบ Big Data เพื่อใช้ AI ในการคาดการณ์ทั้งความต้องการ ไลฟ์สไตล์ และพฤติกรรมการซื้อแบบ Hyper-Personalized Marketing

นอกจากนี้ แพลตฟอร์มยังมี InspiREALtion Feed ช่วยให้แรงบันดาลใจในการแต่งบ้านเป็นจริงได้ และได้เปิดตัว Community ในแอปพลิเคชัน NocNoc ที่ทุกคนสามารถเข้ามาร่วมแชร์ แลกเปลี่ยนไอเดีย และประสบการณ์เรื่องบ้านที่อยากป้ายยา หรือรีวิวให้กับกลุ่มคนรักบ้านได้เข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น

ชลลักษณ์ ทิ้งท้ายว่า อีกปัจจัยที่ทำให้ NocNoc เติบโตได้ก็คือ บริการ เพราะสามารถจัดส่งสินค้าได้แบบ End-to-End โดยมีช่างพร้อมบริการติดตั้ง และจัดส่งถึงที่ ซึ่งเป็นอีกเพนพอยต์ของสินค้าเฟอร์นิเจอร์ที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งบริการที่ดีก็จะทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก