ตามรายงานฉบับใหม่จาก MoneyNerd เว็บไซต์การเงินส่วนบุคคลที่ใช้ข้อมูลจากองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD), รายงานความสุขโลก, Glassdoor, LinkedIn เพื่อพิจารณาว่า 25 เมืองใหญ่สุดของโลก เมืองไหนมี ผู้อยู่อาศัยที่มีความสุขที่สุดและมีโอกาสเข้าถึงงานที่มีค่าตอบแทนสูงมากที่สุด โดยวัดจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ค่าครองชีพ เงินเดือนเฉลี่ย จำนวนโอกาสในการทำงาน โดย 5 อันดับเมืองที่มีความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและการใช้จ่าย ได้แก่
1.โคเปนเฮเกน
รายได้เฉลี่ย: 44,474 ดอลลาร์สหรัฐ/ปี (ราว 1,556,000 ล้านบาท)
คะแนนความสมดุลในชีวิตการทำงาน: 8.6 เต็ม 10
คะแนนความสุข: 7.6 เต็ม 10
2.อัมสเตอร์ดัม
รายได้เฉลี่ย: 44,367 ดอลลาร์สหรัฐ/ปี (ราว 1,552,000 บาท)
คะแนนความสมดุลในชีวิตการทำงาน: 8.3 เต็ม 10
คะแนนความสุข: 7.4 เต็ม 10
3.นิวยอร์ก
รายได้เฉลี่ย: 71,401 ดอลลาร์สหรัฐ/ปี (ราว 2,499,035 บาท)
คะแนนความสมดุลในชีวิตการทำงาน: 5.2 เต็ม 10
คะแนนความสุข: 7 เต็ม 10
4.ออสโล
รายได้เฉลี่ย: 46,196 ดอลลาร์สหรัฐ/ปี (ราว 1,161,000 บาท)
คะแนนความสมดุลในชีวิตการทำงาน: 8.5 เต็ม 10
คะแนนความสุข: 7.4 เต็ม 10
5.ซูริก
รายได้เฉลี่ย: 82,191 ดอลลาร์สหรัฐ/ปี (ราว 2,876,000 บาท)
คะแนนความสมดุลในชีวิตการทำงาน: 7.7 เต็ม 10
คะแนนความสุข: 7.5 เต็ม 10
โคเปนเฮเกนได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองอันดับ 1 ของโลกที่มีความสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตที่ดีและให้เงินเดือนที่แข่งขันได้ โดยเมืองหลวงของเดนมาร์กมีเงินเดือนเฉลี่ยโดยรวมอยู่ที่ 44,474 ดอลลาร์/ปี แม้ไม่ใช่ค่าเฉลี่ยเงินเดือนที่สูงที่สุด แต่คะแนนความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานสูงถึง 8.6 เต็ม 10 คะแนน เนื่องจากโคเปนเฮเกนได้รับการยกย่องว่า เป็นเมืองที่ปลอดภัย สินค้าอุปโภคบริโภคราคาย่อมเยา มีสวัสดิการที่น่าสนใจแก่คนงาน ไม่ว่าจะเป็นการทำงานแบบ Remote Working และนโยบายการลาเพื่อเลี้ยงดูบุตร
ที่น่าสนใจคือการติดอันดับของ นิวยอร์ก เพราะเป็นหนึ่งในเมืองที่มี ค่าครองชีพแพงสูงสุดของโลก และถือเป็นเมืองที่ต้อง เร่งรีบ แต่กลายเป็นว่านิวยอร์กกลับมีคะแนนความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานสูงกว่าเมืองอื่น ๆ ทั่วโลก เช่น ฮ่องกงและดูไบ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพราะว่าชาวนิวยอร์กมีรายได้มากกว่า
ในขณะเดียวกัน ปักกิ่ง ลิสบอน และ บูดาเปสต์ ถือเป็นเมืองที่เลวร้ายที่สุดสำหรับความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน จากข้อมูลของ เนื่องจากทั้ง เมืองนี้มี เงินเดือนเฉลี่ยต่อปีต่ำกว่าที่อื่น เมืองเหล่านี้มีเงินเดือนเฉลี่ยต่อปีต่ำตั้งแต่ 12,664-18,366 ดอลลาร์ (ราว 443,000-642,000 บาท) นอกจากนี้ยัง มีตำแหน่งงานที่ว่างน้อย ทำให้การหางานมีการแข่งขันที่สูง
ส่วนอันดับ 4 และ 5 ของเมืองยอดแย่ ได้แก่ ดูไบ และ ฮ่องกง ตามลำดับ แม้ว่าช่วงเงินเดือนเฉลี่ยจะดีขึ้นเป็น 34,271-50,853 ดอลลาร์ (1,199,000-1,779,000 บาท) แต่เมืองเหล่านี้ก็ยังขาดคะแนนความสุข (6.6 และ 5.4 ตามลำดับ) และคะแนนค่าครองชีพเทียบกับเงินเดือนเฉลี่ยของเมือง (ตั้งแต่ 57.2 ถึง 70.6)