ยอดบิลบัตรเครดิตของผมเดือนที่ผ่านมามียอดรวมหลายหมื่นบาท ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของการซื้อโฆษณาผ่าน Facebook และ Google ที่จำเป็นต้องใช้ในการทำงาน และยอดอีกเกือบสองพันบาทที่จ่ายให้กับ กิจกรรมสนุกๆ ในชีวิตประจำวันผ่านออนไลน์และมือถือ หนึ่งในนั้นคือการซื้อ BuxของเกมTiny Tower เกมฮิตบน iOSเล่นบน iPhoneซึ่งทำให้ผมเล่นเกมสร้างตึกได้สนุกและรวดเร็วขึ้น เช่นกัน กับเกม the Sim Social บน Facebook ที่หมดไปอีกกว่า 600 กว่าบาท เพื่อที่จะได้ตู้กับพรมผืนงามมาวางประดับบ้านให้ The Simอยู่อย่างสะดวกสบาย และ Application อีกหลายตัวที่ถูกซื้อรวมถึง eBook Magazine หลายเล่มที่ถูกกว่าท้องตลาดถึง 10-50% เมื่ออยู่ในรูปแบบ Digital
นี่เป็นแนวโน้มที่สำคัญว่า เม็ดเงินในโลกแห่งความเป็นจริงกำลังเปลี่ยนผ่านสู่สื่อดิจิตอลสูงและกำลังทวีคูณเพิ่มขึ้น นอกจากการเติบโตของช่องทาง SmartPhoneที่กำลังกลายเป็นเทรนด์ฮิตช่องทางการทำเงินใหม่ของนักพัฒนา Application ที่หวังจะสามารถสร้างรายได้จาก App เจ๋งๆ ที่ได้พัฒนาขึ้น หรือในบรรดาบริษัทเกมที่เริ่มผลักดันเกมชั้นนำสู่สมรภูมิ Social Media เพื่อหวังเม็ดเงินจากกลุ่มผู้เล่นจำนวนมหาศาล ที่ส่วนหนึ่งจะยอมควักกระเป๋าสร้างรายได้จากการซื้อ Item พิเศษต่างๆ จำนวน Tablet ในตลาดที่ยังโตไม่หยุด ซึ่งพยุงยอดการเติบโตของธุรกิจ Online Bookstore ขาย eBook โตขึ้นอีกทาง
การเปลี่ยนไปของ Mindset ที่ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต การชำระเงินโดยผ่านออนไลน์ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว ข้อมูลจาก Yankelovichปี 1998 บอกว่า 70% บริโภคโดยส่วนใหญ่กลัวที่จะทำธุรกรรมการโอนเงินผ่านอินเทอร์เน็ต แต่กลับกันในปี 2009 ข้อมูลการสำรวจของ Comscore 70% ของผู้บริโภค ทำธุรกรรมการเงินผ่านอินเทอร์เน็ต โดยเชื่อมกับเครดิตการ์ดของตนนั่นเอง ทำให้การทำธุรกรรมผ่านช่องทาง Online ในปัจจุบันกลายเป็นเรื่องที่แสนจะง่าย และธรรมดาสำหรับผู้บริโภค
สองปรากฏการณ์ในเดือนที่ผ่านมาเป็นการยืนยันถึงเทรนด์ของการเติบโตการทำธุรกรรมบนสื่อดิจิตอล กำลังเป็นธุรกิจทางการเงินที่น่าจะสามารถสร้างรายได้มหาศาลจากการเป็นผู้ให้บริการธุรกรรมทางการเงินดิจิตอล และกำลังก้าวข้ามผ่านจาก Digital สู่โลกแห่งความเป็นจริง เมื่อ Google เริ่มต้นเปิดการใช้งานGoogle Wallet บริการชำระเงินผ่านมือถือที่รองรับ Chip NFC และการกระกาศทิศทางของ PayPalที่ออกมาบอกทิศทางของอนาคตของ PayPalในการใช้มือถือ และเทคโนโลยีที่ใช้ NFC ผ่าน Blogของตนเองเช่นกันครับ
Google Wallet และ PayPalกำลังพัฒนาApplication บนมือถือ และอุปกรณ์ Smart Device ที่มีเทคโนโลยีชิปที่เป็น NFC อยู่ในตัวเครื่อง ซึ่งจะทำหน้าที่อ่านและส่งค่าระหว่างรับเครื่องชำระเงิน และมือถือ ซึ่ง NFC ก็ไม่ต่างจากที่มีอยู่ในบัตรเครดิตทั่วไป ซึ่งสามารถพัฒนา นอกเหนือจากการการชำระเงินแล้ว ยังสามารถทำหน้าได้เหมือนบัตร หรือตั๋วต่างๆ ได้เช่นกัน
— Google เริ่มประเดิมตลาด เอาจริง เอาจริงกับ NFC —
Google เริ่มเปิดการใช้งานของ Google Wallet แล้วใน US และกำลังกระจายออกไปเรื่อยๆ ให้มากที่สุด โดยตอนนี้ยังอยู่ในกลุ่มไม่กว้างมากนัก เริ่มต้นกับผู้ที่ใช้มือถือ Sprint Nexus S 4G ซึ่งรองรับบัตรเครดิตของ Citi และ Mastercardในอนาคตก็จะสามารถครอบคลุม Visa, Discover และ American Express รวมถึงบัตรสมาชิกที่เป็น Loyalty Programของร้านค้าชั้นนำที่เริ่มวางระบบเครื่องชำระเงินแบบ Paypass ซึ่งบนหน้าเว็บของ google.com/wallet/ ได้ขึ้นรายการร้านค้า และ Modern Trade ที่กำลังเริ่มติดตั้งระบบนี้
อีกส่วนหนึ่งที่จะทำให้ Google Wallet เนื้อหอมขึ้น ก็คือการเชื่อมกับระบบ Google Offers Social Commerce ของ Google สำหรับผมสิ่งที่ Google จะต้องรีบพัฒนานอกจากการหาพันธมิตร ร้านค้า เพื่อให้บริการ Google Wallet แพร่หลายและสะดวกสบายกับผู้ใช้ ก็คือการต้องรีบเข็น Application นี้ให้สามารถใช้ได้กับ SmartPhone อื่นๆ ที่นอกเหนือจาก Android Phone เพียงอย่างเดียว
— PayPalอนาคตเรายังไกล —
PayPal แม้ว่าจะเปิดตัวเรื่องการใช้มือถือจ่ายเงินเช่นเดียวกับ Google มาก่อนหน้านี้แล้วตั้แต่ปี 2006 แต่ดูเหมือนจะยังไม่ถึงเวลาที่เอาจริงๆ เอาจังกับการใช้เทคโนโลยี NFC นี้เท่าไหร่นัก อาจจะเป็นเพราะยังไม่เข้าถึงในวงกว้าง แม้ว่าจะเปิดตัว Digital Wallet ไปในหลายประเทศแล้วก็ตาม แต่เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา PayPalได้ประกาศทิศทางในการพัฒนาระบบของการชำระเงิน ที่จะสร้างประสบการณ์ให้กับผู้ใช้งาน PayPalมากขึ้นผ่านทางหน้า Blog ของตนและปล่อยวิดีโอ PayPal : The Future of Shopping & Money ซึ่งอนาคตของ PayPalตั้งเป้าการทำธุรกรรมผ่านมือถือด้วยตัวเลขที่มากกว่า 2 พันล้าน US ต่อปี ซึ่งกำลังเป็นไปได้สวย
— คาดการอนาคต ตลาด Mobile Payment —
- 1 ใน 5 ของมือถือที่จะออกมาสู่ตลาด ในปี 2013 จะเป็นมือถือที่ใช้ NFC เทคโนโลยี และยอดการขายมือถือที่มี NFC จะมีมูลค่าถึง 75 พันล้าน US
- Google คาดการตัวเลขของ ตัวเลขของเงิน ที่อยู่บนช่องทางการทำธุรกรรมผ่านมือถือ NFC จะอยู่ที่ประมาณ 50 พันล้าน US Dollars ในปี 2014
- ปี 2015 ตัวเลขของเงินที่อยู่บนช่องทางการทำธุรกรรมผ่านมือถือ NFC จะโตขึ้นไปอีกถึง 670 พันล้าน USDollars
— Video —
โฆษณาฮาๆ ของ Google Wallet ที่ปล่อยออกมาสร้าง Viral ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ