ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% เพื่อที่จะสกัดเงินเฟ้อไม่ให้เพิ่มขึ้นไปมากกว่านี้ แม้ว่าจะมีวิกฤตภาคธนาคารในช่วงที่ผ่านมาก็ตาม โดยประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังยืนยันถึงความแข็งแกร่งของภาคการธนาคารที่ยังมีสภาพคล่องรวมถึงเงินทุนที่แข็งแกร่ง
ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% ซึ่งจะทำให้ล่าสุดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในช่วง 4.75 ถึง 5.0% และยังถือว่าเป็นอัตราดอกเบี้ยที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2006 เป็นต้นมา เพื่อที่จะปราบเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมาลดลงให้ได้
คำแถลงของธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้กล่าวถึงความพยายามที่จะทำให้เงินเฟ้อของสหรัฐนั้นกลับมาสู่เป้าหมายระยะยาวที่ 2% ให้ได้
ขณะที่ปัญหาของภาคการธนาคาร Jerome Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังได้พยายามกล่าวเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนเกี่ยวกับระบบธนาคารที่มีปัญหาในช่วงที่ผ่านมาว่า การบริหารจัดการของ Silicon Valley Bank ถือว่า “ล้มเหลวอย่างมาก” แต่การล่มสลายของธนาคารไม่ได้บ่งชี้ถึงจุดอ่อนที่เพิ่มขึ้นในระบบธนาคาร
อย่างไรก็ดีประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้เตือนถึงผลกระทบที่เกิดจากผลกระทบของ Silicon Valley Bank ในช่วงหลังจากนี้ ขณะที่กรณีที่ UBS ได้เข้าซื้อกิจการของ Credit Suisse นั้นมองว่าเป็นผลลัพธ์ในเชิงบวก
แต่ในภาพรวมแล้วประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังกล่าวว่าภาคการธนาคารสหรัฐยังมีสภาพคล่อง รวมถึงเงินกองทุนขั้นต้นของภาคธนาคารที่แข็งแกร่ง และยืนยันว่าจะใช้เครื่องมือต่างๆ รวมถึงการจับตามอง เพื่อจะทำให้ภาคการธนาคารมีความปลอดภัย
ขณะที่คาดการณ์ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังมองว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังคงสูงต่อไปจนถึงปี 2025 ขณะเดียวกันอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาในปีนี้ก็ยังคงสูง ซึ่งทำให้ตลาดที่คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้นั้นอาจไม่เป็นไปตามคาด
นอกจากนี้คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินยังให้มุมมองว่าจะจับตาดูผลกระทบของเศรษฐกิจหลังจากการขึ้นดอกเบี้ยหลังจากนี้อีกด้วย
ที่มา – NBC News, BBC News, CBS News