บริษัทที่ปรึกษาด้านไอทีชื่อดังอย่างแอคเซนเจอร์ (Accenture) ประกาศปลดพนักงานมากถึง 19,000 คนหลังสภาวะเศรษฐกิจเริ่มไม่เป็นใจ และบริษัทยังคาดการณ์ถึงรายได้บริษัทที่ลดลง ส่งผลทำให้บริษัทต้องงัดมาตรการดังกล่าวออกมาใช้
โดยที่ปรึกษาด้านไอทีรายใหญ่ได้ยื่นเอกสารต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกาว่าบริษัทเตรียมปลดพนักงานมากถึง 19,000 คน ภายในระยะเวลา 18 เดือนหลังจากนี้ คิดเป็นสัดส่วน 2.5% ของพนักงานทั้งหมด ขณะเดียวกันก็ยังปรับลดคาดการณ์รายได้ของบริษัทจากเดิมคาดว่าจะอยู่ในช่วง 8-11% มาอยู่ที่ 8-10%
ในเอกสารของบริษัทยังได้กล่าวถึงปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้บริษัทต้องปลดพนักงานว่า “ผลการดำเนินงานของบริษัทได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงสภาวะเศรษฐกิจมหภาค สภาวะเงินเฟ้อ รวมถึงระดับความเชื่อมั่นทางธุรกิจ”
ไม่เพียงเท่านี้การปลดพนักงานของบริษัท ตามหลังมาจากการปลดพนักงานบริษัทเทคโนโลยีทั่วโลก รวมถึงผลสำรวจ บริษัทหลายแห่งหลังจากนี้มีแนวโน้มที่จะลดการใช้จ่ายด้านไอทีลง ซึ่งกระทบต่อ Accenture ซึ่งมีรายได้สำคัญมาจากบริการต่างๆ ด้านไอทีให้กับลูกค้าที่เป็นบริษัทหลากหลายประเภท
พนักงานที่โดนปลดในครั้งนี้บริษัทได้ชี้แจงว่าส่วนใหญ่เป็นพนักงานที่ทำงานระบบหลังบ้าน (Back office) และการปลดพนักงานครั้งนี้กระทบกับพนักงานของ Accenture ทั่วโลก
ตัวเลขการจ้างพนักงานของ Accenture ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้ว่าจ้างพนักงานเพิ่มมาขึ้น 38,000 คน หลังจากความต้องการในเรื่องที่ปรึกษา หรือแม้แต่บริการต่างๆ ของบริษัทเพิ่มมากขึ้น ซึ่งตัวเลขพนักงานก่อนหน้าที่จะมีการปลดพนักงานนั้นอยู่ที่ราวๆ 738,000 คน
ไม่ใช่แค่บริษัทที่ปรึกษาอย่าง Accenture จะมีการปลดพนักงานเท่านั้น แต่ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทที่ปรึกษารวมถึงตรวจสอบภาษีอย่าง KPMG ก็มีการปลดพนักงานคิดเป็นสัดส่วนราวๆ 2% เช่นกัน รวมถึง McKinsey ที่มีการปลดพนักงานถึง 2,000 คน โดยให้เหตุผลเรื่องสภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง
ที่มา – CNN, TechCrunch, CNBC