บริษัทด้านบันเทิงรายใหญ่อย่าง Walt Disney เริ่มปลดพนักงานแล้ว โดยครั้งนี้คาดว่าจะปลดพนักงานมากถึง 7,000 ราย เพื่อที่จะควบคุมต้นทุนของบริษัท หลังจากที่บริษัทได้แบกค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่คือ Disney+ แพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่ง
สำนักข่าว Reuters รายงานข่าวโดยอ้างอิงแหล่งข่าวไม่ระบุตัวตน รวมถึงจดหมายที่ส่งให้กับพนักงาน ว่า Walt Disney ได้ประกาศเตรียมปลดพนักงานมากถึง 7,000 คน เพื่อที่จะประหยัดค่าใช้จ่ายของบริษัท ซึ่งคาดว่าจะมากถึง 5,500 ล้านเหรียญสหรัฐ รวมถึงสามารถนำค่าใช้จ่ายไปลงทุนในธุรกิจอื่นได้
แหล่งข่าวไม่ระบุตัวตนยังกล่าวว่าพนักงานจาก Disney Entertainment และ Disney Parks รวมถึง Experiences & Products นั้นจะได้รับผลกระทบก่อน ส่วนพนักงานจาก ESPN ซึ่งเป็นธุรกิจช่องกีฬา รวมถึงแผนกอื่นๆ อาจมีการปลดพนักงานตามหลังอีกที
จดหมายที่ CEO อย่าง Bob Iger ได้ส่งจดหมายให้กับพนักงานนั้น พนักงานที่ถูกปลดในรอบแรกจะทราบว่าตัวเองถูกปลดภายในช่วงระยะเวลา 4 วันหลังจากนี้ และช่วงที่ 2 ที่จะมีพนักงานที่ถูกปลดรอบใหญ่สุดจะเริ่มในเดือนเมษายนซึ่งคาดว่าจะมีพนักงานถูกปลดราวๆ 2-3 พันคน และรอบสุดท้ายคาดว่าจะมีการปลดพนักงานช่วงก่อนฤดูร้อนที่กำลังจะมาถึง
ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา Bob Chapek อดีต CEO ของ Walt Disney ได้ส่งจดหมายภายในถึงทีมผู้บริหารในแผนกต่าง ๆ ว่าบริษัทมีแผนจะลดพนักงานบางส่วนและระงับการจ้างพนักงานใหม่ นอกจากนี้บริษัทยังพยายามลดการเดินทางในการประชุมทางธุรกิจเพื่อลดค่าใช้จ่าย
สาเหตุสำคัญที่ทำให้ Walt Disney ต้องควบคุมค่าใช้จ่ายคือผลประกอบการของบริษัทที่ไม่ค่อยดีนักในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2022 ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทลดลงสู่ระดับต่ำสุด
โดยค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ที่บริษัทแบกอยู่ก็คือ Disney+ แพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่ง ที่จำนวนเพิ่มสมาชิกหลายล้านราย แต่บริษัทก็ยังขาดทุน เนื่องจากต้นทุนการผลิตคอนเทนต์ ซึ่งบริษัทวางเป้าว่าแพลตฟอร์มดังกล่าวจะมีกำไรได้ภายในปี 2024