หลังจากใช้มาตรการรัดเข็มขัดมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง ล่าสุด Apple เป็นบริษัทเทคโนโลยีอีกรายที่มีการปลดพนักงานออก แต่ก็ยังถือว่าเป็นจำนวนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ในสหรัฐอเมริการายอื่นๆ ในช่วงที่ผ่านมา
สำนักข่าว Bloomberg ได้รายงานว่า Apple เตรียมที่จะปลดพนักงานในส่วนของธุรกิจค้าปลีกเป็นจำนวนบางส่วน ซึ่งถือเป็นการปรับลดพนักงานภายในบริษัทเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เริ่มดำเนินนโยบายรัดเข็มขัดเมื่อปี 2022 เป็นต้นมา
แหล่งข่าวซึ่งขอไม่ให้ระบุตัวตน ได้กล่าวกับ Bloomberg ว่า ทีมที่ได้รับผลกระทบทีมแรกก็คือทีมพัฒนาและอนุรักษ์ ซึ่งพนักงานกลุ่มเหล่านี้มีหน้าที่รับผิดชอบในการก่อสร้างและบำรุงรักษาร้านค้าปลีกของ Apple และรวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ของบริษัทที่อยู่ทั่วโลก
ซึ่งจำนวนพนักงานที่ Apple จะปลดนั้นยังไม่มีการระบุจำนวน แต่ Bloomberg ได้รายงานว่ามีจำนวนน้อยมาก โดย Apple ได้บอกพนักงานในกลุ่มนี้ว่าพวกเขาสามารถสมัครงานในตำแหน่งใหม่ที่คล้ายกับงานก่อนหน้านี้ได้ แต่ถ้าหากผู้ที่ไม่ได้รับงานในตำแหน่งที่ใกล้เคียงกัน ก็จะได้รับค่าจ้างชดเชยมากถึง 4 เดือน
สำหรับ Apple การปลดพนักงานครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งพนักงานที่ได้รับผลกระทบจากการปลดครั้งนั้นคือแผนกรถยนต์ไร้คนขับ ซึ่งคาดว่ามีพนักงานโดนปลดราวๆ 200-300 คน
โดยช่วงเวลาที่ผ่านมาบริษัทเทคโนโลยีหลายรายได้มีการปลดพนักงานชุดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น Meta หรือ Amazon ที่มีการปลดพนักงานเป็นจำนวนมากถึงหลักหมื่นตำแหน่ง หรือแม้แต่บริษัทแม่ของ Google อย่าง Alphabet ซึ่งมีการปลดพนักงานไปแล้วก็เริ่มมีการรัดเข็มขัดในการใช้จ่ายมากขึ้น
เหตุผลหลักที่บริษัทเหล่านี้ให้ไว้ก็คือในเรื่องของสภาวะเศรษฐกิจหลังจากนี้อาจไม่เป็นใจ รายได้ที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงการขึ้นอัตราดอกเบี้ยส่งผลทำให้ต้นทุนทางธุรกิจเพิ่มสูงชึ้น
ตัวเลขล่าสุดในเดือนกันยายนปี 2022 ที่ผ่านมา Apple มีพนักงานทั้งหมด 164,000 คน และยักษ์ใหญ่ไอทีรายนี้มีความแตกต่างจากบริษัทเทคโนโลยีรายอื่นคือในช่วงที่ผ่านมาไม่มีการจ้างพนักงานจำนวนมากนัก ส่งผลทำให้บริษัทไม่ต้องปลดพนักงานจำนวนมากเมื่อเทียบกับคู่แข่ง