แม้รัสเซียจะถูกคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก หลังจากที่ก่อสงครามกับยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ที่ผ่านมา แต่การส่งออกน้ำมันของรัสเซียกลับสูงสุดในรอบ 3 ปี อย่างไรก็ตาม รายได้กลับไม่ได้โตตามยอดการส่งออก
องค์การพลังงานระหว่างประเทศ (International Energy Agency) หรือ IEA ได้เปิดเผยว่า ในเดือนมีนาคมการส่งออกน้ำมันของรัสเซียพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี แม้ว่าจะถูกคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก โดยมียอดส่งออกจากรัสเซียเพิ่มขึ้น 600,000 บาร์เรลต่อวัน เป็น 8.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2020
โดยการส่งออกที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นผลมาจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นกลับสู่ระดับก่อนเกิด COVID-19 จาก 450,000 บาร์เรลต่อวันเป็น 3.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการส่งออกจะเพิ่มขึ้น แต่รายได้จากน้ำมันของรัสเซียยัง ลดลงถึง 43% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แม้รายได้จะดีดตัวขึ้น 1 พันล้านดอลลาร์แตะ 12.7 พันล้านดอลลาร์ก็ตาม
IEA กล่าวว่า การส่งออกน้ำมันดิบของมอสโกเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรลต่อวันเป็น 5 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยอินเดีย และจีนเป็นปลายทางหลักสำหรับการขนส่งของรัสเซียในเอเชียในเดือนมีนาคม ขณะที่การจัดส่งผลิตภัณฑ์น้ำมันไปยังสหภาพยุโรปเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคมเป็น 300,000 บาร์เรลต่อวัน แต่ลดลงเกือบ 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ครั้งเมื่อเทียบกับระดับก่อนสงคราม
ทั้งนี้ มาตรการการคว่ำบาตรน้ำมันของยุโรปมีเป้าหมายที่จะตัดรัสเซียซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตพลังงานชั้นนำของโลกออกจากแหล่งรายได้หลักจากการทำสงคราม ส่งผลให้รัสเซียตอบโต้การคว่ำบาตรของชาติตะวันตกโดยลดการผลิตลง 500,000 บาร์เรลต่อวัน และพันธมิตรในกลุ่มพันธมิตรน้ำมัน OPEC+ สร้างความตกใจให้กับตลาดด้วยการประกาศลดกำลังการผลิตของตนเองเมื่อต้นเดือนนี้
อย่างไรก็ตาม รัสเซียพลาดเป้าหมายในเดือนมีนาคม เนื่องจากการผลิตลดลง 290,000 บาร์เรลต่อวัน ตามรายงานของ IEA