หลังจากขึ้นอยู่ในลิสต์แอพพลิเคชั่นที่ให้คนใช้ไอโฟนได้ดาวน์โหลดฟรี ใน App Store “Line” ก็ขึ้นเป็นแอพพลิเคชั่นอันดับ 1 ในลิสต์ และมียอดดาวน์โลหดเกิน 3 ล้านครั้ง จนเป็นที่น่าจับตามองว่าแอพฯ นี่เป็นแอพฯ แชตที่มาแรงจนอาจจุแซง What’s App ได้เลยทีเดียว
Line เป็นผลงานของ NAVER เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างเกาหลีกับญี่ปุ่น ดังนั้น แอพพลิเคชั่นแชตอันนี้ก็เลย “ซารางเฮโย” “คิกขุนาโนเนะ” เต็มไปด้วยลูกเล่นที่ใส่อีโมชั่น 3 อย่างเป็นการสื่อสารผ่านภาพ ให้เลือก 1.Emoji 2.Sticker 3.Emoticon ถูกใจวัยรุ่น ต่างกับแอพพลิเคชั่นจากฝั่งตะวันตกเป็นคนคิดค้นขึ้นที่เน้นการใช้งานเป็นหลัก อีโมติค่อนที่มีให้เลือกยังไม่เยอะและยังไงก็ไม่น่ารักเท่า
จุดเด่นอีกอย่างของ Line เอาจุดด้อยของแอพฯ อื่นมาพัฒนา Chat หรือว่า Call ได้เลย เหนือกว่า What’ s App ที่พิมพ์อย่างเดียว นอกจากนี้ยังความสนุกที่การเข้าถึง Line ด้วยวิธีหลากหลาย ง่ายสุดก็คือเชื่อมเอาคอนแทคจากเบอร์โทรศํพท์นั่นแหละ หรือสแกน QR Code คล้ายกับการเพิ่มคอนแทคของแบล็คเบอร์รี่ และที่พิเศษสุดคือเอาโทรศัพท์มือถือไปเขย่า (Shake) ใกล้กันก็เป็นการจับมือทำความรู้จักกันแล้ว Line ยังใส่ส่วนผสมเล็กๆ ของความเป็นโซเชี่ยลมีเดีย ด้วยการเข้าไปดูเครือข่ายของเพื่อนแล้วเลือกแอดได้ แต่ต้องให้ฝ่ายที่ถูกอินไวท์ตอบรับคำเชิญ ส่วนเรื่องการส่งไฟล์ทั้งเสียง ภาพ วิดีโอก็ทำได้เหมือนกับแอพฯ อื่น
ส่วนจุดด้อยของ Line ตอนนี้ อยู่ที่แพลตฟอร์มที่ตอนนี้โด่งดังอยู่ใน iOS กับ Android เท่านั้น ยังไม่มีใน BlackBerry หรือ Window Phone แถมล่าสุดยังถูกเขี่ยออกจาก App Store ด้วยข้อหามาแรงเกินไปจนเด่นเกินหน้า iMessage แอพฯ แชตของแอปเปิลเอง ความแพร่หลายของแอพฯ นี้ จึงยังเป็นข้อจำกัดอยู่
แอพฯ ที่ทำได้เยอะและสนุกขนาดนี้ โอเปอเรเตอร์โทรศัพท์มือถือคงต้องมีหนาวๆ ร้อนๆ ปรับตัวกันขนานใหญ่ ทำยังไงเมื่อลูกค้าหันไปใช้แอพพลิเคชั่นสื่อสารแทนการยกหูโทรศัพท์