เบียร์ยี่ห้อ “Bud Light” เผชิญวิกฤตหลังจากเลือก “สาวทรานส์” ชื่อดังมาโฆษณา ลุกลามจนเป็นกระแสบอยคอตในหมู่ผู้บริโภคกลุ่มอนุรักษ์นิยม ล่าสุดผู้บริหารฝ่ายการตลาดของแบรนด์นี้ถูกบริษัทสั่งพักงานแล้ว
Anheuser-Busch Inbev บริษัทเจ้าของเบียร์ยี่ห้อ Bud Light ประกาศการพักงานผู้บริหารระดับสูง “อลิสซา ไฮเนอร์ไชด์” รองประธานบริหารฝ่ายการตลาดของเบียร์ Bud Light และจะส่ง “ท็อดด์ อัลเลน” รองประธานบริหารที่ดูแลเบียร์ Budweiser ทั่วโลกมาดูแลแทนชั่วคราว
ตามรายงานข่าวของ Insider บริษัท Anheuser-Busch กำลังเข้าจัดระเบียบลำดับการทำงานในทีมงานด้านการตลาดให้ดีขึ้น เพื่อให้ผู้บริหารอาวุโสของทีมลงมาดูแลกิจกรรมของแบรนด์อย่างใกล้ชิด
“ขั้นตอนเหล่านี้จะทำให้เรายังคงมุ่งมั่นกับสิ่งที่เราทำได้ดีที่สุด นั่นคือการกลั่นเบียร์ที่ดีเยี่ยมสำหรับผู้บริโภคทุกคน ขณะที่ยังคงสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับชุมชนของเราและประเทศ” โฆษกของบริษัทแจ้ง
จุดเริ่มต้นกระแสบอยคอต
การพักงานผู้บริหารระดับสูงของ Bud Light เกิดขึ้น 1 เดือนหลังจากที่เบียร์ Bud Light เลือกทำแคมเปญร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์ “ดีแลน มัลเวนีย์” ซึ่งเธอเป็น “ทรานส์เจนเดอร์” บุคคลข้ามเพศจากชายเป็นหญิง และทำคอนเทนต์เล่าเรื่องราวเส้นทางการเป็นทรานส์เจนเดอร์ของตนเอง
แคมเปญใหญ่ที่ทำร่วมกันเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา โดยมัลเวนีย์โพสต์ใน Instagram ของเธอว่า Bud Light กำลังจะออกกระป๋องเบียร์รุ่นพิเศษเป็นลายใบหน้าของมัลเวนีย์ เพื่อร่วมฉลองครบรอบ 1 ปีที่มัลเวนีย์เปิดเผยตัวว่าเธอเป็นผู้หญิง
ปรากฏว่าวิดีโอแคมเปญนี้จุดกระแสการวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงในสหรัฐอเมริกา โดยกลุ่มอนุรักษ์นิยมที่ต่อต้านทรานส์เจนเดอร์ออกมาสร้างกระแสให้ร่วมกันบอยคอตเบียร์ Bud Light การบอยคอตเหล่านี้มีกลุ่มเซเลปคนดังหลายคนช่วยเป็นกระบอกเสียง เช่น Kid Rock ซึ่งเป็นศิลปินดังในสหรัฐฯ มีการอัดคลิปตนเองยิงกระป๋องเบียร์ Bud Light ทิ้ง
จากนั้นกระแสก็เริ่มลุกลามไปในหมู่คนทั่วไป หลายคนอัดคลิปตนเองทำลายเบียร์ Bud Light ด้วยวิธีที่แสดงความเกลียดชังต่างๆ ทั้งโยนทิ้งขยะ ขับรถทับกระป๋อง ใช้รถแทรกเตอร์บดขยี้ ฯลฯ
แรกเริ่มเดิมทีที่มีกระแสต่อต้านเกิดขึ้น Bud Light เลือกที่จะยืนข้างมัลเวนีย์ โดยบอกว่า “แบรนด์มีการทำงานกับอินฟลูเอนเซอร์หลายร้อยคน เป็นหนึ่งในหลายเส้นทางที่แบรนด์จะได้เชื่อมสัมพันธ์กับผู้บริโภคหลากหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะแบ่งตามเพศ/อายุ หรือแบ่งตามความสนใจ”
- Adidas “หนีตาย” จากวิกฤต “คานเย่ เวสต์” กรณีศึกษา “คอลแลป” คนดังที่อาจสร้างปัญหาย้อนศร
- “แม่เฒ่าช่างสักขึ้นปก Vogue” ย้ำเทรนด์ความงามหลากหลายมาแรง จุดเปลี่ยนการตลาดบิวตี้
มัลเวนีย์เองก็ออกมาตอบโต้ด้วยเช่นกันว่าเธอกำลัง “ตกเป็นเป้า” ของการวิจารณ์
“เป็นเรื่องน่าเศร้าเพราะทุกสิ่งที่ฉันทำเป็นเรื่องเชิงบวกทั้งนั้น” เธอกล่าว “เป็นความพยายามที่จะสานสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ที่อาจจะยังไม่เข้าใจฉัน เป็นคอนเทนต์เพื่อให้คนได้หัวเราะกัน หรือทำให้เด็กสักคนรู้สึกมีตัวตนในโลกนี้”
กลุ่มต่อต้านทรานส์ทวีความแรงในสหรัฐฯ
Anheuser-Busch Inbev หรือ AB Inbev เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากเบลเยียมที่มีผลิตภัณฑ์จำหน่ายไปทั่วโลก เบียร์ที่เป็นที่รู้จักในไทย เช่น Budweiser, Corona Extra, Hoegaarden, Stella Artois เป็นต้น และปกติแคมเปญการตลาดของ AB Inbev มักจะเป็นที่สนใจ
ทั้งนี้ สำนักข่าว Insider วิเคราะห์ว่า การบอยคอต Bud Light ที่ทำแคมเปญกับทรานส์เจนเดอร์นั้น เชื่อมโยงได้กับความรู้สึกมุ่งร้ายรุนแรงในฝ่ายอนุรักษ์นิยมชาวอเมริกันที่มีต่อบุคคลข้ามเพศ
กฎหมายต่อต้านทรานส์เจนเดอร์เริ่มมีการบังคับใช้ในหลายรัฐทั่วประเทศในปีนี้ เช่น รัฐโอคลาโฮมา ออกกฎหมายแบนไม่ให้บริษัทประกันครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการแปลงเพศ รัฐเซาธ์แคโรไลน่า ออกกฎหมายแบนไม่ให้มีการรักษาทางการแพทย์เพื่อปรับเพศสภาพในกลุ่มเยาวชน รวมถึงรัฐฟลอริด้า เริ่มควบคุมเวที ‘แดรกควีน’ ไม่ให้เยาวชนเข้าชม
ยังไม่มีการรายงานว่ากระแสต่อต้านเหล่านี้ทำให้ Bud Light เสียรายได้หรือความนิยมไปมากน้อยแค่ไหน แต่การพักงานผู้บริหารระดับสูงก็นับได้ว่าเป็นสัญญาณว่า แบรนด์อาจจะต้องการจะห้ามเลือดไม่ให้เหตุการณ์ลุกลามไปมากกว่านี้