แม้จะเป็นพาร์ตเนอร์กับ Kanye West เป็นเวลานับสิบปี โดยเฉพาะการร่วมกันพัฒนาแบรนด์ Yeezy แต่หลังจากที่พี่แกมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมหลายต่อหลายครั้ง ทำให้ อาดิดาส (Adidas) ต้องยอมยุติความร่วมมือเพื่อลดความเสียหาย เพราะปัจจุบันแบรนด์ Yeezy ก็ขายไม่ออกจนอาดิดาสคิดอยากจะเผาทำลายทิ้งเลยทีเดียว
หลังจากที่ Adidas ประกาศยุติสัญญากับ Kanye West ไปตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว เนื่องจากพฤติกรรมแย่ ๆ ของเขา ซึ่ง Adidas ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า บริษัทมีสินค้า Yeezy ในสต็อกรวมแล้วมีมูลค่าสูงถึง 1.3 พันล้านดอลลาร์ และยิ่งเก็บไว้ก็ยิ่งมีค่าใช้จ่ายตามมา
ทำให้ Bjørn Gulden CEO ของ Adidas ตัดสินใจว่า บริษัทจำนำสินค้าแบรนด์ Yeezy ที่เหลืออยู่ในสต็อกมาขาย และจะนำเงินไปบริจาคให้กับองค์กรการกุศล และถือโอกาสเป็นตัวแทนของผู้ที่ได้ผลกระทบจากความคิดเห็นของ Kanye West
“เราพยายามหาทางแก้ไข และตัดสินใจไม่เผาสินค้าที่เหลือทิ้ง โดยเราต้องลดการสูญเสียให้ได้มากที่สุด และแผนการดังกล่าวก็ถือเป็นการรักษาภาพลักษณ์ของแบรนด์”
Adidas ได้ยุติความร่วมมือของแบรนด์กับ Kanye West ไปเมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา หลังจากที่ Kanye West สวมใส่เสื้อสกรีนประโยค White Lives Matter ที่ใช้โดยกลุ่มผู้นิยมอำนาจนิยมผิวขาว ซึ่งขัดแย้งกับการรณรงค์ของคนทั่วโลกที่ไม่ต้องการให้มีการเหยียดสีผิว อย่างไรก็ตาม Kanye ไม่ได้มองว่าสิ่งที่เขาทำนั้นผิด แต่กลับเชื่อว่าประโยคดังกล่าวนั้นถูกต้องแล้ว
อย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่าแบรนด์ Yeezy นั้นประสบความสำเร็จอย่างมาก และการที่ Adidas ต้องเสียแบรนด์ Yeezy ไป ส่งผลให้รายได้ในไตรมาสที่ผ่านมาของ Adidas ลดลงถึง 441 ล้านเหรียญสหรัฐ