คณะลูกขุนในฟลอริดาตัดสินคดีแพ่งฟ้องร้อง McDonald’s และแฟรนไชซีให้จำเลยผิดจริง จากเหตุฟ้องร้อง “แมคนักเก็ต” ร้อนอันตราย ไหม้ขาเด็ก 4 ขวบ คดีนี้ถูกมองเทียบกับคดี “กาแฟร้อน” ที่เชนฟาสต์ฟู้ดรายนี้เคยแพ้คดีมาแล้วเมื่อ 20 ปีก่อน
เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2023 คณะลูกขุนได้ตัดสินให้ McDonald’s และ Upchurch Foods แฟรนไชซีที่บริหารสาขาที่เกิดเหตุ รับผิดชอบความเสียหาย เพราะไม่ได้แจ้งเตือนหรือให้คำแนะนำอย่างมีเหตุผลต่อเหตุอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจาก “แมคนักเก็ต” ที่จำหน่าย ณ ร้านรูปแบบไดรฟ์ทรู ในย่าน Tamarac รัฐฟลอริดา
อย่างไรก็ตาม เฉพาะ Upchurch Foods เท่านั้นที่ถือว่ากระทำการโดยประมาท คณะลูกขุนตัดสินว่าแมคนักเก็ตไม่ได้สร้างความเสียหายด้วยตัวสินค้าเอง จึงไม่จำเป็นต้องนำแมคนักเก็ตออกจากการจำหน่ายในตลาด
คดีความนี้ถูกฟ้องร้องมาตั้งแต่ปี 2019 โดยข้อกล่าวหามาจาก ฟิลานา โฮล์มส และ ฮัมเบอร์โต คาราบัลโล เอสเตเวส ผู้ปกครองของเด็กหญิงโอลิเวียวัย 4 ขวบ โฮล์มสรายงานว่า เธอได้ซื้อชุดแฮปปี้มีลผ่านช่องทางไดรฟ์ทรู เมื่อได้สินค้าและขับรถออก ปรากฏว่านักเก็ตได้ตกลงบนขาของลูกสาววัย 4 ขวบ
“แมคนักเก็ตไก่ในชุดแฮปปี้มีลนั้นร้อนอันตรายและร้อนอย่างไม่มีเหตุอันควร ทำให้ผิวหนังและเนื้อบริเวณหน้าขาของลูกสาวเธอไหม้ จนบริเวณที่ไหม้เสียรูปและทำให้ลูกสาวหวาดกลัว” เป็นข้อฟ้องร้องที่ปรากฏในคดี
ข้อฟ้องร้องระบุว่า ผู้รับแฟรนไชส์ควรจะทราบว่านักเก็ตนั้นร้อนจน “ไม่เหมาะแก่การหยิบถือโดยมนุษย์” และมีหน้าที่ที่จะต้องงดเว้นการขายก่อน และร้านควรจะฝึกอบรมพนักงานให้ทำเช่นนั้น
ฟิชเชอร์ เรเดวิด บริษัทกฎหมายที่เป็นตัวแทนให้กับฝ่ายโจทก์ กล่าวว่า คดีนี้จะมีการพิจารณาคดีรอบที่สองเพื่อ “พิจารณาความเสียหายและค่าเสียหายอีกครั้ง”
คดีนี้คล้ายกับคดี “กาแฟร้อน” ชื่อดังที่ McDonald’s เคยถูกฟ้องร้องในช่วงทศวรรษ 1990s ในคดีนั้น ผู้หญิงคนหนึ่งทำกาแฟร้อนหกลงบนตักและเกิดแผลไหม้ระดับสาม คณะลูกขุนเห็นควรว่ากาแฟแก้วนั้นร้อนอย่างไม่สมเหตุสมผล เรเดวิดกล่าวว่าในคดีดังกล่าวคณะลูกขุนตัดสินให้โจทก์ได้รับค่าเสียหาย 3 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 102 ล้านบาท) แต่มีการตกลงไกล่เกลี่ยและรับค่าเสียหายต่ำกว่าตัวเลขดังกล่าวในชั้นอุทธรณ์
“แต่นี่ไม่ใช่คดีกาแฟร้อนชื่อดัง นี่คือคดีของโอลิเวีย” บริษัทกฎหมายดังกล่าวออกแถลงการณ์ “เธอเป็นเด็กไร้เดียงสาน่ารักที่ขาเป็นรอยแผลไหม้อย่างรุนแรงโดยไม่ใช่ความผิดของเธอเลย”
ฝั่ง McDonald’s ออกแถลงการณ์ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็น “อุบัติเหตุที่โชคร้าย” แต่ด้วยความเคารพพวกเขา “ไม่เห็นด้วย” กับคำตัดสิน เพราะทาง McDonald’s มองว่าตนไม่สามารถจะควบคุมความเสียหายและการบาดเจ็บในกรณีนี้ได้
“เราเห็นอกเห็นใจครอบครัวนี้ที่ต้องประสบกับอุบัติเหตุอันโชคร้าย พร้อมกันนี้เราให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด” เบรนท์ อัปเชิร์ช เจ้าของและผู้บริหาร McDonald’s ในพื้นที่นี้กล่าว “นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมร้านอาหารของเราต้องทำตามกฎอันเข้มงวดด้านความปลอดภัยทางอาหาร มีกระบวนการทำงานที่ดีที่สุดในการประกอบอาหารและส่งมอบเมนูอาหารของเรา ซึ่งรวมถึงแมคนักเก็ตไก่ด้วย” โดยระบุด้วยว่า สาขา Tamarac ทำตามระเบียบความปลอดภัยทั้งหมดแล้ว