จีนเอาคืน! ห้ามนำเข้าชิปจาก ‘Micron Technology’ อ้าง “เป็นความเสี่ยงด้านความปลอดภัยเครือข่ายร้ายแรง”

ดูเหมือนความขัดแย้งระหว่าง จีนและสหรัฐอเมริกา ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น กลุ่ม G7 ก็พยายามลดการพึ่งพาจีน ล่าสุด จีนก็ได้ออกมาตอบโต้โดยการ แบนการใช้งานชิปจากสหรัฐฯ ด้วยข้อหาด้านความปลอดภัย

รัฐบาลจีน ได้เปิดประเด็นกับสหรัฐฯ ใหม่ในเรื่องเทคโนโลยีและความปลอดภัย โดยบอกกับผู้ใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ของจีน ให้หยุดซื้อผลิตภัณฑ์จาก Micron Technology ผู้ผลิตชิปหน่วยความจำรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ เนื่องจากผลิตภัณฑ์มี “ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยเครือข่ายที่ร้ายแรง” ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายต่อโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลของจีน และส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ

“บริษัทผู้ให้บริการเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลที่สำคัญในจีน ควรหยุดซื้อผลิตภัณฑ์จาก Micron Technology” รัฐบาลระบุ

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนย้ำว่า จีนส่งเสริมการเปิดระดับสูงสู่โลกภายนอก และตราบใดที่ปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับของจีน ก็ยินดีต้อนรับองค์กรและผลิตภัณฑ์และบริการแพลตฟอร์มต่างๆ จากนานาประเทศเข้าสู่ตลาดจีน

ที่ผ่านมา ประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ได้กล่าวหาว่า รัฐบาลสหรัฐฯ พยายามขัดขวางการพัฒนาของจีน และเขาเรียกร้องให้ประชาชน กล้าที่จะต่อสู้ ขณะที่รัฐบาลเองก็ยังคงตอบโต้อย่างช้า ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่ออุตสาหกรรมของจีนที่ประกอบสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ของโลก พวกเขานำเข้าชิปต่างประเทศมูลค่ามากกว่า 300 พันล้านเหรียญทุกปี โดยจีนเองก็กำลังจะพยายามผลิตชิปประมวลผลของตัวเอง เพื่อให้ผลกระทบไม่ตกสู่บริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนของจีนและอุตสาหกรรมอื่น ๆ โดยมีการลงทุนไปหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ปัจจุบัน ทั้ง สหรัฐอเมริกา ยุโรป และ ญี่ปุ่น กำลังลดการเข้าถึงการผลิตชิปขั้นสูงของจีนและเทคโนโลยีอื่น ๆ เนื่องจาก จีนขู่ว่าจะโจมตีไต้หวัน และกล้าแสดงออกถึงการคุกคามที่มากขึ้นต่อญี่ปุ่นและเพื่อนบ้านอื่น ๆ ขณะที่ความขัดแย้งดังกล่าวทำให้ทั่วโลกมีความกังวลว่า อาจทำให้ต้นทุนด้านสินค้าเทคโนโลยีพุ่งสูงขึ้น และอาจทำให้การพัฒนานวัตกรรมต่าง ๆ เกิดได้ช้าลง

ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบหลายทศวรรษ เนื่องจากความขัดแย้งเรื่องความมั่นคง การปฏิบัติต่อฮ่องกงและชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมของปักกิ่ง ข้อพิพาทเรื่องดินแดน และการเกินดุลการค้าหลายพันล้านดอลลาร์ของจีน