นิตยสาร International Living จัดอันดับประเทศที่เหมาะกับกับการใช้ชีวิตวัย “เกษียณ” ประจำปี 2023 ปรากฏ “ไทย” ติดโผในอันดับ 9 และเป็นประเทศแถบเอเชียหนึ่งเดียวที่ติดลิสต์ในกลุ่ม 10 อันดับแรก สะท้อนศักยภาพประเทศไทยยังแข็งแรงหลังผ่านพ้นโควิด-19
International Living นิตยสารอเมริกันด้านการใช้ชีวิตเกษียณในต่างประเทศที่มีมานานกว่า 30 ปี และมีการจัดอันดับประเทศที่เหมาะกับกับการใช้ชีวิตวัย “เกษียณ” อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดในปี 2023 ปรากฏว่าประเทศ “ไทย” ยังคงอยู่ในใจชาวต่างชาติ ติดอันดับลิสต์นี้ในอันดับที่ 9
ไทยถือเป็นประเทศแถบเอเชียหนึ่งเดียวในกลุ่ม 10 อันดับแรก ร่วมกับประเทศในทวีปยุโรปและอเมริกา โดยนิตยสารฉบับนี้มองจุดเด่นไทยในการใช้ชีวิตหลังเกษียณ คือ ค่าครองชีพต่ำ อุดมด้วยแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งไลฟ์สไตล์ ระบบสาธารณสุขดีและบุคลากรสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ รวมถึงสภาพอากาศมีแดดตลอดปี
การจัดอันดับของ International Living นั้นรวบรวมอินไซต์จากเครือข่ายแหล่งข่าวที่นิตยสารมี ซึ่งทางนิตยสารมองว่ามีน้ำหนักมากกว่าการเปิดให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้ามาโหวตหรือส่งข้อมูลใดๆ ก็ได้
10 อันดับแรกประเทศที่เหมาะกับกับการใช้ชีวิตวัย “เกษียณ” ประจำปี 2023 ได้แก่
อันดับ 10 โคลอมเบีย
จุดเด่นของโคลอมเบีย คือ การได้ใช้ชีวิตในภูมิอากาศที่ดีตลอดปีด้วยค่าครองชีพต่ำ และวัฒนธรรมคนท้องถิ่นเปิดกว้างต่อคนแปลกหน้า ยินดีต้อนรับผู้มาอยู่อาศัยใหม่ นอกจากนี้ โคลอมเบียยังมีระบบสาธารณสุขที่ดีระดับ Top 25 ของโลก ในราคาที่ต่ำกว่าในสหรัฐฯ 2-3 เท่า
ปัจจุบันโคลอมเบียมีวีซ่าระบบใหม่เอื้อต่อผู้พำนักต่างชาติมากขึ้น โดยชาวต่างชาติที่มีเงินบำนาญไม่ต่ำกว่าเดือนละ 700 เหรียญสหรัฐ สามารถขอวีซ่าเกษียณในโคลอมเบียได้ทันที รวมถึงมีการเปิดวีซ่าสำหรับกลุ่ม ดิจิทัล โนแมด ด้วยเช่นกัน
ค่าใช้จ่ายที่ต่ำในโคลอมเบียหมายถึงการมีรายได้ 1,000-2,000 เหรียญสหรัฐต่อเดือน ก็สามารถใช้ชีวิตอย่างสบายในไลฟ์สไตล์แบบชนชั้นกลางบนได้ โดยโคลอมเบียมีแหล่งไลฟ์สไตล์มากมาย เช่น สนามกอล์ฟ สนามเทนนิส เต้นรำแทงโก้ พิพิธภัณฑ์ แกลลอรีศิลปะ โรงละคร ฯลฯ
อันดับ 9 (ร่วม) ไทย
จุดเด่นของไทย คือ ภูมิอากาศร้อน แสงแดดสดใส แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรมงดงามตั้งแต่หมู่เกาะทางใต้ ไปจนถึงขุนเขาทางเหนือ เต็มไปด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ ร้านอาหาร-คาเฟ่หลายสัญชาติ งานเทศกาลต่างๆ ที่ทำให้ผู้มาอาศัยมีชีวิตชีวาเสมอ รวมถึงระบบสาธาณสุขดีเยี่ยมโดยบุคลากรที่พูดภาษาอังกฤษได้ โดยทั้งหมดนี้มาพร้อมกับค่าครองชีพที่ต่ำ
ประเทศไทยยังเป็นแหล่งเกษียณอายุมานานหลายทศวรรษ ทำให้ปัจจุบันมีชุมชน expat ที่แข็งแรง โดยเฉพาะชาวอเมริกัน อังกฤษ แคนาเดียน ฝรั่งเศส และสวิส
ในแง่ค่าครองชีพ expat ส่วนใหญ่ในไทยมองว่าหากมีรายได้ 2,500 เหรียญสหรัฐต่อเดือนก็สามารถใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพในไทยได้แล้ว
อันดับ 9 (ร่วม) อิตาลี
จุดเด่นของอิตาลี คือ ภูมิอากาศ ชายหาด อาหาร ไวน์ กีฬา ระบบสาธารณสุขอันดับ 2 ของโลก และไลฟ์สไตล์ที่แวดล้อมด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม
โครงสร้างพื้นฐานของอิตาลีก็รองรับการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นระบบขนส่งมวลชน อินเทอร์เน็ตเข้าถึงทั่วประเทศ ระบบไฟฟ้าเสถียร น้ำประปาดื่มได้
ด้านค่าครองชีพที่คนมักจะมองว่าแพง แต่จริงๆ แล้วสามารถใช้ชีวิตได้ในราคา 3,500 เหรียญสหรัฐต่อเดือน หากเลือกพักอาศัยในเมืองหรือในทำเลที่ไม่ใช่จุดท่องเที่ยวหลัก และปัจจุบันอิตาลีมีบางเมืองที่ต้องการหาผู้พักอาศัยด้วย โดยการจ่ายค่าที่พักให้บางส่วนเพื่อดึงคนเข้ามา
อันดับ 8 ฝรั่งเศส
ฝรั่งเศสมักจะถูกมองข้ามเมื่อพูดถึงประเทศสำหรับใช้ชีวิตวัยเกษียณ แต่ที่จริงแล้วฝรั่งเศสมีจุดเด่นที่ “คุณภาพชีวิต” ซึ่งฝังอยู่ในวัฒนธรรม มีภูมิความรู้ด้าน “อาหาร” ที่ได้รับยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกประเภทจับต้องไม่ได้ สิ่งแวดล้อมของฝรั่งเศสเอื้อให้คนวัยเกษียณได้ใช้ชีวิต “สโลว์ไลฟ์” อย่างที่ต้องการ
สำหรับค่าครองชีพที่หลายคนกังวล ที่จริงแล้วหากไม่ได้เลือกอาศัยในปารีสหรือเฟรนช์ริเวียร่า ค่าที่พักจะถูกกว่าในสหรัฐฯ ประมาณ 34%
อันดับ 7 กรีซ
ไม่ต้องสืบเลยว่าทำไมกรีซจึงอยู่ในลิสต์ ประเทศชายทะเลเมดิเตอเรเนียนนี้มีวิวทิวทัศน์แสนงาม ผู้คนมีใจรักการบริการ อาหารชั้นเลิศ เป็นแหล่งประวัติศาสตร์ และค่าครองชีพไม่สูงมากนัก
หนึ่งในวัฒนธรรมที่เอื้อต่อการเกษียณอายุ คือคนกรีกมีความเคารพและโอบอุ้มกลุ่มคนสูงวัยมาก ทำให้คนสูงวัยยังเป็นส่วนหนึ่งของสังคม และทำให้ระบบการแพทย์มีคุณภาพในราคาถูก บุคลากรการแพทย์ส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษได้ดี
ค่าครองชีพที่ว่าถูกนั้นประมาณการว่าถูกกว่าในสหรัฐฯ ราวครึ่งหนึ่ง และไลฟ์สไตล์ในกรีซยังทำให้การเข้าสังคมไม่จำเป็นต้องใช้เงินมากอีกด้วย
อันดับ 6 สเปน
อีกหนึ่งประเทศชายทะเลที่มีแดดตลอดปี เป็นประเทศยอดนิยมหลังเกษียณของคนในยุโรปด้วย ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ เยอรมัน หรือกลุ่มยุโรปเหนือ ชื่นชอบที่จะย้ายมาใช้ชีวิตในสเปนหลังเกษียณ
ค่าครองชีพที่จริงไม่ได้สูงมากนัก โดยสามารถใช้จ่ายที่ 2,000-2,500 เหรียญสหรัฐต่อเดือนได้ หากเลือกอาศัยในเมืองที่ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญหรือเมืองหลวง และราคาพืชผักผลไม้ยังถูกกว่าในสหรัฐฯ มากทำให้มีโภชนาการที่ดี นำไปสู่อายุที่ยืนยาว
นอกจากนี้ สเปนยังเป็นหนึ่งในประเทศที่เป็นมิตรกับ LGBTQ+ มากที่สุดในโลก ทำให้มีชุมชนคนวัยเกษียณที่เป็นเพศ LGBTQ+ อยู่ด้วย
อันดับ 5 คอสตาริกา
ปัจจุบัน 10% ของผู้อาศัยในคอสตาริกาเป็น expat ต่างชาติที่ถูกดึงดูดด้วยจุดเด่นหลายอย่าง เช่น ภูมิอากาศ ค่าครองชีพต่ำ มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตนอกบ้าน คนท้องถิ่นที่เป็นมิตร และล่าสุดยังให้สิทธิแต่งงานของเพศเดียวกัน ทำให้เป็นอีกหนึ่งประเทศที่เหมาะกับ LGBTQ+
คอสตาริกามีชื่อเล่นว่าเป็น “สวิตเซอร์แลนด์แห่งอเมริกากลาง” เพราะประเทศไม่มีกองทัพมาตั้งแต่ปี 1948 และใช้งบประมาณส่วนนี้ไปกับการศึกษาและระบบสาธารณสุข จนทำให้เป็นประเทศชั้นนำด้านการแพทย์ในแถบละตินอเมริกา
ค่าครองชีพในคอสตาริกาอยู่ที่ประมาณ 2,500-3,000 เหรียญสหรัฐ เพื่ออาศัยในบ้านหรือคอนโดฯ ขนาด 2 ห้องนอน และใช้ชีวิตได้สะดวกสบาย
อันดับ 4 เอกวาดอร์
ประเทศนี้กำลังมาแรงเพราะการท่องเที่ยวที่เติบโตขึ้น 30% ในช่วง 5 ปีหลัง ถือเป็นประเทศใหม่ที่คนยังไม่ค่อยรู้จัก แต่ expat กลับย้ายเข้าไปอยู่มากขึ้น เพราะพบว่าค่าครองชีพถูก แต่มีโครงสร้างพื้นฐานทั้งขนส่งมวลชนและอินเทอร์เน็ตพร้อม ในภูมิอากาศแสงแดดสดใสชายทะเลแปซิฟิก และผู้คนที่เป็นมิตรกับไลฟ์สไตล์สุดชิล
ค่าครองชีพในเอกวาดอร์อยู่ที่ประมาณ 1,500-1,800 เหรียญสหรัฐต่อเดือนเท่านั้น
อันดับ 3 ปานามา
ปานามามีเสน่ห์จากทะเลสีฟ้าคราม และกิจกรรมไลฟ์สไตล์ครบทั้งแหล่งเที่ยวกลางคืน ร้านอาหาร คาเฟ่ พิพิธภัณฑ์ โรงละคร ฯลฯ มาพร้อมกับค่าครองชีพและราคาอสังหาริมทรัพย์ยังไม่สูง พร้อมด้วยบริการทั้งซูเปอร์มาร์เก็ต อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และน้ำประปาดื่มได้
ปานามามีวีซ่าที่ส่งเสริมให้ expat มาเกษียณอายุที่นี่ โดยถ้าหากมีบำนาญมากกว่า 1,000 เหรียญสหรัฐต่อเดือนก็สามารถยื่นขอวีซ่าได้ทันที ทำให้มีชุมชนคนต่างชาติจากทั่วโลกมาอาศัย เช่น อเมริกัน แคนาเดียน เวเนซูเอลา อาร์เจนตินา จาไมกา ฝรั่งเศส กรีก เกาหลี จีน ฯลฯ
อันดับ 2 เม็กซิโก
เม็กซิโกเป็นประเทศที่มีภูมิประเทศหลากหลายมาก ตั้งแต่ชายหาด ทะเลทราย ป่าดิบชื้น จนถึงภูเขาสูงที่มีหิมะปกคลุม ประเทศนี้ถือเป็นแหล่งอาศัยของ expat อเมริกันและแคนาเดียนมากกว่า 2 ล้านคน
ด้วยความหลากหลายของประเทศทำให้มีไลฟ์สไตล์ตอบสนองคนทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นแหล่งเที่ยวกลางคืน ปีนเขา เต้นรำ คอนเสิร์ต ละครเวที ฯลฯ และคนท้องถิ่นยังมีความเป็นมิตร ทำให้ชาวต่างชาติสามารถเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนได้ไม่ยาก
ค่าครองชีพในเม็กซิโกอยู่ที่ 2,000-2,500 เหรียญสหรัฐต่อเดือน รวมค่าประกันสุขภาพแล้ว
อันดับ 1 โปรตุเกส
ประเทศที่เป็นมิตรกับการเกษียณอายุด้วยภูมิประเทศติดกับทะเลเมดิเตอเรเนียน เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม อาหาร รวมถึงผู้คนท้องถิ่นที่เป็นมิตร ส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษได้ดีโดยเฉพาะคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ ทำให้ประเทศนี้ยินดีต้อนรับชาวต่างชาติ
แหล่งเกษียณของโปรตุเกสนั้นมีให้เลือกทั้งเมืองชายทะเลใกล้ชิดกับแหล่งเกษตรกรรม หรือเมืองหลวงลิสบอนที่เต็มไปด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ ซึ่งทั้งหมดนี้ใช้ค่าครองชีพประมาณ 2,500-3,000 เหรียญสหรัฐต่อเดือน