‘Agoda’ เผย “ท่องเที่ยวไทย’ โตแซง 2019 แต่ ‘เวียดนาม’ กำลังเป็นคู่แข่งสำคัญ “แย่งนักท่องเที่ยว”

อย่างที่หลายคนรู้ว่าเศรษฐกิจประเทศไทยนั้น การท่องเที่ยว ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่สร้างการเติบโต โดย อโกด้า (Agoda) แพลตฟอร์มผู้ให้บริการจองห้องพักทางออนไลน์ ได้เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวไทยถือว่า ฟื้นตัวกว่าปี 2019 ไปแล้ว แต่ก็มี เวียดนาม ที่เป็นคู่แข่งที่น่ากลัว

ท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์

ออมรี มอร์เกนสเติร์น (Omri Morgenshtern) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อโกด้า เปิดเผยว่า จากข้อมูลของแพลตฟอร์มพบว่า การท่องเที่ยวของไทย ในช่วง 5 เดือนแรกในปี 2023 นั้น ฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ เมื่อเทียบกับปี 2019 โดยไทยถือเป็นปลายทาง อันดับ 2 รองจากญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม กรุงเทพมหานคร ยังคงเป็นเมืองปลายทางที่มีการเดินทางมามากที่สุด

โดยประเทศที่มาท่องเที่ยวไทยมากที่สุด คือ เกาหลีใต้ และ อินเดีย ส่วนการมาของนักท่องเที่ยว จีน คิดเป็นประมาณ 50% เมื่อเทียบกับปี 2019 โดยคาดว่านักท่องเที่ยวจีนจะกลับมา 100% ภายในสิ้นปีนี้ 

“ไทยถือว่าฟื้นตัวได้เร็วกว่าหลาย ๆ ประเทศ เพราะไม่มีข้อจำกัดในการเดินทาง รวมถึงจำนวนไฟลท์บินที่มีจำนวนมาก แสดงให้เห็นว่าไทยเปิดกว้างในด้านการท่องเที่ยวมาก”

ยังเทียบญี่ปุ่นยาก

ญี่ปุ่นยังถือเป็นหมุดหมายอันดับ 1 ของนานาประเทศทั่วโลกแบบ ทิ้งห่าง โดย ออมรี อธิบายว่า เนื่องจากญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่มีเอกลักษณ์และความแตกต่าง ที่สำคัญ ญี่ปุ่นมี เหตุผลให้ไปท่องเที่ยวมาก ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติ, สวนสนุก, แหล่งช้อปปิ้ง สามารถเที่ยวได้ทั้งเมืองหลักและเมืองรอง รวมถึงสามารถเดินทางไปในเชิงธุรกิจ ดังนั้น การที่ไทยจะแซงขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในระยะเวลาอันสั้นได้ยาก

สิ่งที่ไทยมี ทะเลสวย อากาศอบอุ่น และ เหมาะกับการมาปาร์ตี้สังสรรค์ แต่ไทยยังจำเป็นต้อง ลงทุนเพิ่ม เพื่อให้นักท่องเท่ียวมีเหตุผลที่จะเดินทางมา ไม่ใช่แค่พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเดิม เช่น การมีสวนสนุกใหญ่ ๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว

ในส่วนของ การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ หรือเชิงวัฒนธรรมนั้นต้องยอมรับว่า ม่ได้มีดีมานด์มากเท่าการท่องเที่ยวในสวนสนุก ที่ไม่เยอะเท่ากับสถานที่ท่องเที่ยวในสวนสนุก นอกจากนี้ คู่แข่งในภูมิภาคก็มีจำนวนมากที่มีแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ขณะที่ภาพลักษณ์ของไทยเองก็มีความทันสมัย ดังนั้น อาจไม่ได้น่าดึงดูดเท่ากับประเทศที่กำลังพัฒนา อาทิ เมียนมา อย่างไรก็ตาม ไทยเองก็ต้องทำการตลาดเพื่อดันเมืองรองนั้น ๆ ว่ามีอะไรดี ไม่ใช่แค่ว่าราคาถูก

ภาพจาก Shutterstock

เวียดนามมาแรงจ่อแซงไทย

เวียดนาม ถือเป็นประเทศที่ในภาคการท่องเที่ยวมีความคล้ายคลึงกับไทย แต่เมื่อเทียบกันแล้วยังถือว่าห่างกันพอสมควร อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาการท่องเที่ยวเวียดนามเติบโตก้าวกระโดด โดยในปัจจุบัน เวียดนามเป็นหมุดหมายอันดับ 2 ของนักท่องเที่ยวเกาหลี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ ใกล้ และไฟลท์บินก็เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 15 ไฟลท์

นอกจากนี้ เกาหลีก็เข้าไปลงทุนในเวียดนามมานาน ทำให้มีความคุ้นเคยมากกว่าไทย ดังนั้น ไทยเองก็ต้องลงทุนเพิ่มเติม เช่น เรื่องวีซ่าที่ทำให้ง่ายสะดวก และสายการบินก็ต้องเปิดเส้นทางการบินเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ออมรี มองว่า ไทยมีศักยภาพที่จะเป็น ฮับด้านเทคโนโลยี จึงอยากให้ไทยพัฒนาในส่วนนี้ เพื่อดึงดูดให้นักลงทุน นักธุรกิจทั่วโลกเดินทางมาพบปะ แชร์ไอเดีย และเจรจาด้านธุรกิจ ซึ่งถ้าทำได้ก็จะยิ่งดึงดูดการเดินทาง

“ความเห็นส่วนตัว ผมมอยากให้ไทยเป็นฮับของเทคโนโลยี ตอนนี้สิงคโปร์มีภาพด้านนี้มากกว่า เเต่ผมเชื่อว่าเรามีประสิทธิภาพที่จะเป็นฮับด้านเทคโนโลยีของภูมิภาคได้ เพราะปัจจุบันไทยถือเป็นศูนย์กลางของอโกด้า พนักงานส่วนใหญ่ก็อยู่ไทย ศูนย์กลางเทคโนโลยีก็อยู่ไทย และพนักงานเกือบครึ่งของเราที่เป็นชาวต่างชาติก็ชอบไทยมาก”

Photo : Shutterstock

อโกด้าฟื้นเกิน 100%

สำหรับยอดการใช้งานของอโกด้าในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาเติบโตกว่าปี 2019 แล้ว โดยยอดค้นหาเพิ่มขึ้น 60% ยอดค้นหาท่องเที่ยวภายในประเทศเพิ่มขึ้น 49% อย่างไรก็ตาม ยอดการค้นหาข้อมูลการเที่ยวต่างประเทศของคนไทยยังไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก เพราะต้องยอมรับว่ามีเรื่องของ ราคา เข้ามาเป็นปัจจัย อย่างค่าตั๋วเครื่องบินก็ถือว่าสูงขึ้น เนื่องจากจำนวนไฟลท์ไม่เพียงพอ

ดังนั้น เรื่องของ ราคา จะเป็น 1 ใน 3 ด้านที่อโกด้าเน้นมากในปัจจุบันและอนาคต โดยพยายามจะทำราคาให้ดีที่สุด มีฟีเจอร์อย่าง Price Freeze ช่วยให้ผู้จองสามารถล็อกราคาที่พักที่กำลังดู อีก 2 ด้านจะเป็นการพัฒนา เทคโนโลยี โดยล่าสุดเริ่มนำเทคโนโลยี Generative AI มาใช้ และสุดท้ายคือ Localization

“เรามองว่าการท่องเที่ยวตอนนี้มันไม่ได้เติบโตเพราะอั้นแล้วจะลดลง เราเชื่อว่าจะคงที่ไปเรื่อย ๆ เช่น ฝั่งยุโรปและอเมริกาที่เปิดการท่องเที่ยวก่อนหลาย ๆ ประเทศ แต่ก็ยังไม่ตกลงเท่าไหร่ในปัจจุบัน โดยเราอยากให้คนเข้าถึงการท่องเที่ยวมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เราเลยพยายามทำราคาให้ดีที่สุดเปลี่ยนแท็กไลน์เป็น ให้เห็นโลกในราคาที่ต่ำลง เพราะถ้ามาจองกับเราแล้วถูกลงอีก 1-2% แล้วทำให้คนเที่ยวได้ก็โอเคเเล้ว”