“ยังไม่สามารถรับรองได้ 100% ว่าจะเกิดขึ้นอีกหรือไม่” คำแถลงข่าวล่าสุดจากจาก”ซีอีโอ” ดีแทค “จอน เอ็ดดี้ อับดุลาห์” ที่บอกว่ายังไม่สามารถรับรองได้ว่าดีแทค
สัญญาณจะล่มอีกหรือไม่ เพราะนี่คือธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี หลังจากล่มมา 3 ครั้งในช่วง 20 วันที่ผ่านมา
นี่อาจไม่ใช่ข้อความที่ถือว่าสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าได้ในการใช้บริการดีแทค แต่ถือว่า”จอน”ตรงไปตรงมาที่ไม่อยากสัญญากับลูกค้าหากไม่มั่นใจว่าทำได้ และก่อนเริ่มต้นแถลงข่าวเขาได้กล่าวว่า”ผมขอโทษด้วยจริงใจ”
ปัญหาสัญญาณล่มของดีแทคเกิดขึ้นครั้งแรก คือ
วันที่ 21 ธันวาคม 2554 เกิด 2 ครั้ง 11.30-13.30และ 17.30-19.00 น. ในพื้นที่กรุงเทพและสมุทรปราการ ซึ่งเป็นช่วงพีคของปีที่มีคนใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อติดต่อสื่อสารธุระ เคลียร์งาน นัดแนะปาร์ตี้กันช่วงเทศกาล มีลูกค้าได้ผลกระทบ 20 ล้านราย จนถูกลูกค้าในโซเชี่ยลมีเดียกระหน่ำอย่างที่ไม่เคยเกิดมาก่อน ทั้งในทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก ที่เรียกกันว่าแบรนด์ดีแทคสัญญาณกาก
ครั้งที่ 2 ระหว่างที่ทั้งผู้บริหารระดับซีอีโอ และซีทีโอ ยังพักร้อนข้ามปีอยู่ต่างประเทศ วันที่ 5 มกราคม 2555 เวลา 15.30 น.ดีแทคชี้แจงว่าชุมสายโมบาย สวิตชิ่ง เซ็นเตอร์ มีประสิทธิภาพลดลง ส่งผลต่อลูกค้าในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ แต่ความจริงที่ลูกค้าบางรายในกรุงเทพก็โทรไม่ได้เช่นกัน รวม 1.8 ล้านราย
ครั้งที่ 3 วันที่ 8 มกราคม 2555 เวลา 12.15 น.เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนอุปกรณ์ที่เพชรบุรี และลากสายเคเเบิลใยแก้วส่งสัญญาณมือถือ และใน 2 นาทีต่อไฟไหม้หญ้าลุกลามต้นตาลจนถึงสายเคเบิล จนทำให้บริการขัดข้องอีก และแก้ปัญหาได้ภายใน 2 ชั่วโมงต่อมา
ทั้ง 3 ครั้งนี้”จอน” สรุปว่าเป็น Bad luckและดีแทคพยายามแก้ปัญหาเพื่อสร้างคุณภาพและสร้างความเชื่อมั่นของลูกค้ากลับมา
พร้อมกันนี้ยังย้ำว่าการที่ดีแทคจ่ายเงินปันผลผู้ถือหุ้นมูลค่ารวมกว่า 3 หมื่นล้านบาทนั้น ไม่ได้เป็นเพราะดีแทคเก็บเงินเพื่อปันผลและไม่ลงทุนเครือข่าย โดยใน 3 ปีข้างหน้าจะลงทุน 4 หมื่นล้านบาท ทั้งระบบ 3 จี และการพัฒนาอุปกรณ์ในระบบเดิม แม้จะเหลืออายุสัมปทานประมาณ 7 ปีก็ตาม