ราคาข้าวทั่วโลกกำลังเผชิญความท้าทายตั้งแต่ที่ ‘อินเดีย’ ประกาศยกเลิกการส่งออก ‘ข้าวขาว’ เพื่อกันไว้ให้กับประชาชนอินเดียบริโภค ท่ามกลางปัญหาการเพิ่มขึ้นของราคาข้าวของตลาดภายในประเทศ ล่าสุด ‘จีน’ ที่ถือเป็นผู้ผลิตข้าวอันดับ 1 กำลังเผชิญกับ อุทกภัย ที่อาจทำให้ ราคาข้าวทั่วโลกยิ่งพุ่งสูงอีก
จีน กำลังเจอกับ ไต้ฝุ่น Doksuri ซึ่งถือเป็นหนึ่งในพายุที่เลวร้ายที่สุดที่พัดถล่มทางตอนเหนือของจีนในรอบหลายปี โดยเมืองหลวงปักกิ่งได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำฝนที่หนักที่สุดในรอบ 140 ปี นอกจากทางตอนเหนือแล้ว ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งเป็นพื้นที่ผลิตธัญพืชของจีน โดยเฉพาะใน 3 มณฑล ได้แก่ มองโกเลียใน จี๋หลิน และเฮยหลงเจียง ซึ่งคิดเป็น 23% ของผลผลิตข้าวของประเทศจีน ก็ได้รับผลกระทบเรื่องน้ำท่วมด้วย
ด้วยปัญหาด้านอุทกภัยดังกล่าว ทำให้มีผลผลิตข้าวของจีนมีแนวโน้มที่จะ เสียหาย ทำให้ผลผลิตมีอัตราลดลง ทำให้จีนอาจจะต้องหาทางนำเข้าเพิ่มขึ้น ซึ่งจะยิ่งสร้างแรงกดดันต่อราคาข้าวโลกที่สูงอยู่แล้ว
“สิ่งนี้จะทําให้ราคาธัญพืชในประเทศของจีนสูงขึ้นและมีแนวโน้มว่าจะผลักดันการนําเข้าที่สูงขึ้นในครึ่งปีหลังเพื่อชดเชยการสูญเสียผลผลิตที่อาจเกิดขึ้น เพราะจีนต้องนําเข้าข้าวมากขึ้นหากการเก็บเกี่ยวของตัวเองล้มเหลว” Fitch Ratings ระบุ
ปัจจุบัน ราคาข้าวทั่วโลกพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 12 ปี ตามดัชนีราคาข้าวทั้งหมดขององค์การอาหารและการเกษตร โดยตลาดกําลังประเมินราคาข้าวที่สูงขึ้นล่วงหน้า หลังจากที่ อินเดีย ประเทศผู้ส่งออกข้าวที่คิดเป็นสัดส่วนกว่า 40% ของโลก สั่งห้ามการส่งออกข้าวขาว เมื่อเดือนที่แล้ว และ ไทย เรียกร้องให้เกษตรกร ปลูกข้าวน้อยลง เพื่อประหยัดน้ำอันเป็นผลมาจากปริมาณน้ำฝนที่ต่ำ