ส่องแอปฯ TikTok Music เปิดตัวแล้วใน 5 ประเทศ มีฟีเจอร์อะไรเด็ดๆ บ้าง?

TikTok Music
TikTok Music แอปฯ น้องสาวที่ออกมาบุกธุรกิจมิวสิค สตรีมมิ่ง เปิดตัวแล้วใน 5 ประเทศ มาดูกันว่าฟีเจอร์เด็ดๆ ในแอปฯ นี้จะมีอะไรมาแข่งขันกับเจ้าตลาดดั้งเดิมบ้าง

TikTok กลายเป็นแอปพลิเคชันที่มีอิทธิพลต่ออุตสาหกรรมดนตรี เพราะฟีเจอร์การใช้เพลงประกอบ ‘ท่าเต้น’ ถ้าหากชาเลนจ์ฮิตติดกระแสขึ้นมาก็จะทำให้เพลงนั้นดังระเบิดไปด้วย จากอิทธิพลตรงนี้ทำให้ ByteDance บริษัทแม่เลือกเปิดแอปฯ มิวสิค สตรีมมิ่งอย่าง “TikTok Music” ขึ้นมาแข่งขัน

ขณะนี้แอปฯ TikTok Music มีให้บริการใน 5 ประเทศเท่านั้น ได้แก่ บราซิล, เม็กซิโก, ออสเตรเลีย, อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ และยังไม่มีข้อมูลว่าจะมีการเปิดบริการเพิ่มในประเทศใดอีกในเร็วๆ นี้

สำนักข่าว Business Insider มีการทดลองใช้งานแอปฯ TikTok Music เวอร์ชันเบตาของประเทศสิงคโปร์ พวกเขาพบว่าประสบการณ์การใช้งานจะคล้ายกับการเล่น TikTok มากๆ ทำให้คนที่ใช้ TikTok ประจำจะรู้สึกคุ้นเคยกับแอปฯ ใหม่ได้ง่าย

TikTok Music มีเฉพาะฟังก์ชันแบบจ่ายค่าสมาชิก ไม่มีฟังก์ชันใช้ฟรี (แบบมีโฆษณาคั่น) โดยมีโปรโมชันให้ทดลองใช้ฟรี 3 เดือน ในสิงคโปร์ขณะนี้คิดราคาแพ็กเกจบุคคลที่ 7.90 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อเดือน (ประมาณ 206 บาท)

พวกเขายังเก็บฟีเจอร์ที่น่าสนใจมาฝาก ดังนี้

 

1.หน้าฟีดส์ “For You” แนะนำเพลงที่น่าจะโดนใจมาให้

คล้ายกับหน้าฟีดส์ “For You” ใน TikTok คือจะมีการใช้อัลกอริธึมแนะนำเพลงที่เราน่าจะชอบมาให้ โดยสามารถเลือกแยกย่อยได้อีก 2 แบบคือ ฟีดส์แบบ “Fresh” กับแบบ “Familiar”

หน้าฟีดส์ “Fresh” จะเป็นการป้อนเพลงใหม่ๆ ที่เราอาจยังไม่เคยฟังมาให้ ส่วนฟีดส์ “Familiar” คือจะเน้นเฉพาะเพลงที่เราได้ฟังบ่อยๆ คุ้นเคย และน่าจะอยากฟังซ้ำ

TikTok Music
หน้าฟีดส์ For You สังเกตว่าแถบขวามือจะคล้ายกับ TikTok มาก มีปุ่มกดไลก์ แสดงความเห็น และแชร์ (Photo: TikTok Music)
2.มีระบบโซเชียลในแอปฯ ผู้ใช้ออกความเห็นพูดคุยกันเกี่ยวกับเพลงนั้นได้

ถือว่าเป็นระบบที่แตกต่างจากแอปฯ มิวสิค สตรีมมิ่งอื่นๆ คือ ให้ผู้ใช้คอมเมนต์เพลงโดยตรง แถมยังให้ความสำคัญมาก เพราะ ‘Top Comment’ ความเห็นที่มีคนกดไลก์มากที่สุดจะถูกนำมาแสดงให้เห็นชัดเจน

ความเห็นเหล่านี้ยังกดแปลเป็นภาษาแม่ของผู้ใช้ได้ด้วย ทำให้แอปฯ พร้อมจะเป็นแอปฯ ระดับสากล คนทั้งโลกสามารถคุยกันได้หมด

ตาเตียนา คิริซาโน นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมดนตรีและที่ปรึกษาจากบริษัทวิจัย MIDiA Research กล่าวว่า ฟีเจอร์ลักษณะนี้จะดึงดูดความสนใจผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ได้ดี ซึ่งจะทำให้ TikTok Music ได้เปรียบแอปฯ เจ้าตลาดดั้งเดิม เช่น Spotify, Apple Music ในการดึงผู้ใช้ใหม่ๆ

หน้าแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเพลง คอมเมนต์ที่ได้ไลก์สูงสุดจะแสดงให้เห็นชัดเจน (Photo: TikTok Music)
3.ระบบ Party Mode

เป็นระบบสำหรับงานปาร์ตี้ ทำให้เพลงสามารถเล่นที่วอลุ่มเสียงดังกว่าปกติขึ้นไปอีก และปรับไฟฉายของเครื่องให้ส่องแสงเป็นจังหวะเข้ากับเพลง

 

4.ฟังเพลย์ลิสต์จาก “TikTok Viral”

ไม่น่าแปลกใจที่แอปฯ จะต้องเชื่อมโยงกับ TikTok โดยนำเพลงที่กำลังเป็นไวรัลในแอปฯ มาจัดเป็นเพลย์ลิสต์ มีทั้งแบบไวรัลทั่วโลก และไวรัลในประเทศนั้น

TikTok Music
เพลงไวรัลจาก TikTok จะถูกนำมาจัดเพลย์ลิสต์ (Photo: TikTok Music)
5.“Similar Mix” ระบบจัดเพลงที่เหมือนกับเพลงนั้นมาให้

โหมดนี้จะต่างจากแอปฯ อื่นซึ่งมักจะสร้างเพลย์ลิสต์มาให้เลือกฟังเพลงตามอารมณ์ (Mood) หรือฟังตามประเภทเพลง (Genre) แต่ใน TikTok Music จะให้เรากดเลือกฟังเพลงสักเพลงหนึ่งก่อน จากนั้นให้แอปฯ สร้างเพลย์ลิสต์ “Similar Mix” เป็นเพลงที่คล้ายกับเพลงนั้นที่เราฟังอยู่ ซึ่งหมายถึงคล้ายทั้งประเภทแนวเพลงและคล้ายในแง่เนื้อหาของเพลงด้วย

 

ต้องดูว่า TikTok Music จะเดินเกมต่ออย่างไร เพราะแอปฯ มิวสิค สตรีมมิ่งระดับโลกอื่นๆ เดินหน้าไปมากแล้ว Spotify และ Apple Music มีบริการในตลาดมากกว่า 100 ประเทศ

ส่วน YouTube Music ซึ่งมาทีหลังและใช้โมเดลในลักษณะดึงผู้ใช้จากแอปฯ สุดฮิตอันเดิมเข้าสู่แอปฯ ใหม่ ปัจจุบันมีผู้ใช้ทั่วโลก 73 ล้านคน ตามข้อมูลจาก MIDiA

TikTok Music ระบุไว้เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาว่า แอปฯ จะมีอะไรใหม่ๆ ออกมาอีกแน่นอนในไม่กี่เดือนจากนี้ ก็ต้องรอติดตามต่อไปว่าแอปฯ จะกล้าบุกตลาดใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกาไหม เมื่อบริษัทแม่ ByteDance ยังมีคดีขัดแย้งกับรัฐบาลอเมริกันอยู่ ส่วนในไทยก็ต้องจับตามอง เมื่อ 5 ประเทศแรกที่เปิดตัวมีถึง 2 ประเทศที่อยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Source