กระแสฮอตจากภาพยนตร์พันล้านอย่าง Barbie ทำให้โลกหันมาสนใจกับเซกเมนต์ธุรกิจของเล่นมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่เพียงต้นสังกัดตุ๊กตาอมตะ Barbie อย่าง Mettel เท่านั้น แต่ Hasbro คู่แข่งที่กำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลพร้อมกับการเฉลิมฉลองวัย 100 ขวบปีก็ถูกจับตามองอย่างมากเช่นกัน
วันนี้สปอตไลท์ของโลกบางส่วนได้ส่องมาที่ Chris Cocks ซีอีโอ Hasbro ผู้ได้รับค่าเหนื่อยจากการนั่งเก้าอี้ประธานเจ้าหน้าที่บริหารในปีแรกมากกว่า 9.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นผู้ที่มองว่าความสำเร็จของ Barbie คือบทพิสูจน์ว่าสินค้าหมวดหมู่ “ของเล่น” มีความสำคัญต่อโลกธุรกิจเพียงใด และไม่ใช่แค่ Transformers, Furby และ Monopoly หรือสินค้าของเล่นฮอตฮิตในมือ Hasbro รายการอื่น ๆ แต่ Chris Cocks มองเห็นโมเมนตัมของทรัพย์สินทางปัญญาหรือ IP ของบริษัทที่จะมีทางต่อยอดธุรกิจได้อีกมาก เนื่องจากภาพยนตร์ “Transformers: Rise of the Beasts” และ “Spider-man: Across the Spider-Verse” จะช่วยกระตุ้นดีมานด์ได้อย่างชัดเจน
แม้จะยอมรับความจริงว่ายอดขายในธุรกิจของเล่นอาจจะลดลง โดยบริษัทคาดการณ์ว่าแนวโน้มความต้องการจะคงที่ในช่วงปลายปีนี้ แต่ Cocks ก็แสดงความยินดีกับ Mettel ผ่านการสัมภาษณ์ของ Yahoo Finance Live ซึ่งคาดว่าจะมีความต้องการของเล่นที่เกี่ยวข้องกับตุ๊กตา Barbie ในช่วงวันหยุดปลายปีอย่างมาก โดยยกย่องว่า Mettel ทำได้ดีมากกับผลงานภาพยนตร์ที่ออกมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งแคมเปญการตลาดเกี่ยวข้อง
มองเนื้อแท้ Hasbro จากมุม CEO
Chris Cocks ขึ้นเป็น CEO คนใหม่ของ Hasbro ตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2022 หลังจากดำรงตำแหน่งประธานบริษัทและ CEO ของบริษัท Wizards of the Coast และแผนกเกมดิจิทัล ถือเป็นการเข้ารับตำแหน่งแทน Rich Stoddart ซีอีโอชั่วคราวซึ่งนั่งตำแหน่งนี้ต่อจาก Brian Goldner ที่เสียชีวิตในเดือนตุลาคม 2021
Cocks นั้นเป็นส่วนหนึ่งของทีม Hasbro มาตั้งแต่ปี 2016 โดยทำงานให้กับแฟรนไชส์ชื่อดังอย่าง Dungeons & Dragons รวมถึง Magic: The Gathering และ Duel Masters ภายใต้การนำของ Cocks หน่วยธุรกิจ Wizards of the Coast ได้กลายเป็นหนึ่งในตัวขับเคลื่อนรายรับอันดับต้นของ Hasbro โดยรายได้นั้นเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวตั้งแต่ Cocks เข้ามารับตำแหน่ง นำไปสู่การสร้างรายได้ 1.2 พันล้านดอลลาร์ในปี 2021 จากที่เคยทำได้ 450 ล้านดอลลาร์ในช่วง 7 ปีก่อน
ความสามารถของ Cocks ได้รับการขัดเกลามาตั้งแต่ก่อนร่วมงานกับ Hasbro โดย Cocks เคยทำงานที่ไมโครซอฟท์ ในฐานะทีมชั้นนำที่คลุกคลีกับเกม MSN และ Xbox กับแฟรนไชส์อย่าง Halo และ Fable
Cocks มองว่า Hasbro มีแบรนด์ที่น่าทึ่งในมือ และเป็นบริษัทที่ถือเป็นนักเล่าเรื่องที่มีพรสวรรค์ รวมถึงมีทรัพย์สินทางปัญญาด้านความบันเทิงที่ไม่เหมือนใคร การก้าวเข้าสู่ตำแหน่ง CEO ในช่วงนี้สำหรับ Cocks จึงถือเป็นเวลาที่สำคัญ ในการต่อร่างจากรากฐานที่ Brian Goldner อดีต CEO เคยสร้างเอาไว้ โดยเฉพาะการขยายธุรกิจของ Hasbro ออกไปนอกเหนือจากสินค้าของเล่นและเกม สู่วงการโทรทัศน์ ภาพยนตร์ และเกมดิจิทัล
ในขณะที่ Brian Goldner เน้นการสานต่อความสัมพันธ์ด้านลิขสิทธิ์ที่แน่นแฟ้นกับแฟรนไชส์รายใหญ่อย่าง Disney ที่เป็นเจ้าของ Star Wars และ Marvel แต่ Cocks นั้นเด่นเรื่องการเข้าใจธรรมชาติของวิธีการเชื่อมต่อผู้บริโภคผ่านช่องทางต่าง ๆ รวมถึงการสร้างและดูแลแบรนด์เพื่อขับเคลื่อนแฟน ทั้งหมดนี้ Cocks ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ ทักษะ และประสบการณ์ในการปลดล็อกพิมพ์เขียวแบรนด์ Hasbro เพื่อการเติบโตอย่างก้าวกระโดด
บทสัมภาษณ์ที่ทำให้ Chris Cocks ได้รับความสนใจจากสาธารณชน คือการกล่าวถึงการเปลี่ยนผ่านของ Hasbro สู่เทคโนโลยีดิจิทัลและเกม บนเวทีงาน GamesBeat Summit 2023 โดย Cocks ย้ำถึงเป้าหมายที่ Hasbro จะมีบทเด่นในยุคดิจิทัล และมีแผนให้ Hasbro ใช้เงินซื้อบริษัทอนาคตไกลเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ ซึ่งจะเพิ่มมิติให้แบรนด์ของเล่นอย่างเกมเศรษฐี (Monopoly) และเกมอื่นๆสามารถสร้างความรู้สึกที่ลึกซึ้งกับชุมชนได้อีกครั้ง
Cocks ไม่เพียงมีวิสัยทัศน์ที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์การเล่นที่หลากหลาย แต่ยังโฟกัสกับความจริงที่ว่า Hasbro เป็นแบรนด์ทรัพย์สินทางปัญญาด้านความบันเทิงซึ่งครอบคลุมมากกว่าของเล่นและเกม โฟกัสของ Cocks จึงรวมตั้งแต่สินค้าอุปโภคบริโภค เสื้อผ้า ประสบการณ์ตามสถานที่ต่างๆ สวนสนุก และอื่นๆ
“Hasbro เป็นบริษัทที่ใช้ประโยชน์จากการเชื่อมต่อทางอารมณ์ ที่ผลิตภัณฑ์ได้สร้างขึ้นกับผู้บริโภค โดยเนื้อแท้แล้ว ผลิตภัณฑ์ของ Hasbro นำมาซึ่งความสุข สร้างชุมชน และเสนอโอกาสในการเข้าสังคม ซึ่งเป็นสิ่งที่ผลิตภัณฑ์ประเภทอื่นไม่มี”
ต่อยอดดิจิทัล
Cocks กล่าวถึงเกมมือถืออย่าง “Monopoly Go” ที่ประสบความสำเร็จโดยขึ้นสู่อันดับสูงสุดบน iOS และ Android และความนิยมของเกม Magic: The Gathering ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยมีผู้เล่นที่ใช้งานอยู่ถึง 10-15 ล้านคนว่า Hasbro วางแผนที่จะขยายแพลตฟอร์มของเกมไปยังรูปแบบสตรีมมิ่งและคอนโซล โดยมุ่งเน้นไปที่การขยายพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ด้วย
ในอีกด้าน Cocks ยอมรับว่ากำลังพิจารณาโมเดลธุรกิจจากทรัพย์สินทางปัญญาใหม่ๆ โดยยกตัวอย่างถึงการเปิดตัวฉากที่สร้างจากเกม D&D, Warhammer 40,000 และ The Lord of the Rings ซึ่งแผนการในอนาคต คือ Hasbro อาจจะเป็นพันธมิตรสำหรับรายการแอนิเมชั่น ภาพยนตร์ในอนาคต และคอนเทนต์อื่นเพื่อขยายการเข้าถึงแบรนด์ก็ได้
จุดสำคัญคือ Cocks วางแผนให้ Hasbro เข้าสู่ตลาดเกม AR และ VR เสมือนจริง โดยมีเป้าหมายสร้างประสบการณ์ AR ที่เรียบง่ายให้เกมกระดาน ทั้งหมดนี้ตั้งใจที่จะพัฒนาเทคโนโลยีที่เข้าถึงได้ง่ายสำหรับผู้ชมจำนวนมาก (แมส) ในขณะที่ยังคงรักษาผลกำไรเอาไว้
นอกจากการยกระดับประสบการณ์ Cocks ยังหวังจะพา Hasbro ไปเติบโตในส่วนการพัฒนาภายในองค์กร และสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริโภค ขณะเดียวกันก็โฟกัสที่การควบรวมกิจการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเซกเมนต์เกม บนเป้าหมายที่จะรักษาความแข็งแกร่งในด้าน IP และการพัฒนาเกม
หนึ่งในไอเดียที่น่าสนใจจาก Cocks คือคำกล่าวถึงลักษณะการพัฒนาของอุตสาหกรรมของเล่นและเกม ว่าของเล่นและเกมไม่ได้ถูกจำกัดไว้สำหรับเด็กอีกต่อไป ทำให้ Cocks วางกลยุทธ์ของ Hasbro ให้รองรับกลุ่มประชากรที่หลากหลาย นั่นคือการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดึงดูดใจกลุ่มอายุต่างๆ
ที่สุดแล้ว บทเรียนที่เราได้จากมุมมองการทำงานของ Cocks คือการมองเห็นความสำคัญของความสัมพันธ์ทางการค้า ห่วงโซ่อุปทาน การเงิน และทรัพยากรบุคคล ซึ่งจะเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับ 100 ปีอย่าง Hasbro ได้เต็มประสิทธิภาพ
วันนี้ ธุรกิจของ Hasbro มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 6 พันล้านดอลลาร์ และ Cocks ได้นำโครงสร้างการทำงานแบบไฮบริด มาใช้เพื่อขับเคลื่อนบริษัท ร่วมกับการปรับโครงสร้างใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดอุตสาหกรรมบันเทิง ทำให้ Hasbro สามารถใช้ประโยชน์จากการเป็นแบรนด์ที่โดดเด่นบนแพลตฟอร์มต่างๆ และมีส่วนร่วมกับผู้บริโภคในรูปแบบใหม่และสร้างสรรค์ด้วย
ที่มา : Venturebeat, The Verge, Yahoo, CNBC