Hasbro’ บริษัทของเล่นยักษ์ใหญ่เตรียม ‘ปลดพนักงาน’ เพิ่มอีก 900 ตำแหน่ง เหตุรายได้หด เพราะผู้บริโภคเน้นซื้อของจำเป็น

ช่วงโควิดระบาด ของเล่น อาจจะเป็นตลาดที่ได้รับอานิสงส์ในด้านบวก เพราะผู้บริโภคโดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่อยู่บ้านมากขึ้น ทำให้ผู้ปกครองต้องหาของเล่นชิ้นใหม่ ๆ ให้ลูก ๆ เล่นแก้เหงา แต่พอการระบาดคลี่คลาย สถานการณ์กลับมาสู่ภาวะปกติ ของเล่นก็กลายเป็นของฟุ่มเฟือยท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจ

ฮาสโบร (Hasbro) เปิดเผยว่า บริษัทจะปลดพนักงานประจำเพิ่มอีก 900 ตําแหน่งทั่วโลก หลังจากที่เคยประกาศไปช่วงเดือนมกราคมว่าจะลดพนักงานลง 15% หรือประมาณ 1,000 ตำแหน่ง เนื่องจากยอดขายที่อ่อนแอลง รวมแล้วบริษัทจะเลิกจ้างงานถึง 1,900 ตำแหน่ง หรือราว 29% ของพนักงานทั้งหมด 

โดยนับตั้งแต่ที่บริษัทเคยประกาศลดพนักงานในช่วงต้นปี ปัจจุบันบริษัทลดจำนวนพนักงานไปแล้วประมาณ 800 ตำแหน่ง จากจำนวนพนักงานทั้งหมดราว 6,490 คนทั่วโลก (ตัวเลข ณ สิ้นปี 2022) และจากข่าวการลดคนอีกระลอกของบริษัท ทำให้หุ้นของบริษัทลดลงประมาณ 6%

ทั้งนี้ ฮาสโบรคาดว่า การลดจำนวนพนักงานคาดว่าจะช่วยประหยัดต้นทุน run-rate ประจําปีขั้นต้นได้ประมาณ 350-400 ล้านดอลลาร์ ภายในสิ้นปี 2025 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากประมาณการก่อนหน้านี้ที่ 250-300 ล้านดอลลาร์

“กระแสลมแรงในตลาดมันรุนแรงและต่อเนื่องมากกว่าที่วางแผนไว้ ผู้บริโภคทั่วโลกพยายามดิ้นรนเพื่อรับมือกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงอย่างต่อเนื่อง ทําให้พวกเขาต้องลดการใช้จ่ายตามดุลยพินิจรวมถึงของเล่นและให้ความสําคัญกับการซื้อสิ่งจําเป็นมากขึ้น และแนวโน้มจะยังคงอยู่ถึงปี 2024” คริส ค็อกส์ ซีอีโอ ฮาสโบร กล่าว

ไม่ใช่แค่ฮาสโบร แต่บริษัทของเล่นคู่แข่งอย่าง Mattel ผู้ผลิต ตุ๊กตาบาร์บี้ ก็ออกมาเพื่อเตือนถึงช่วงเทศกาลวันหยุดที่อ่อนแอ และบ่งชี้ว่าผู้บริโภคกําลังประหยัด 

Source