ศูนย์ไตเทียมประสิทธิภาพสูง รพ.ธรรมศาสตร์ฯ อีกหนึ่งภารกิจที่ “กัลฟ์” หวังยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่คนไทย


“โรคไต” เป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ด้านสุขภาพของประเทศ โดยจากรายงานของ The United States Renal Data System (USRDS) พบว่า ไทย เป็น 1 ใน 5 ประเทศที่มีอัตราการเกิดโรคไตสูงที่สุด สอดคล้องกับข้อมูลจาก กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ที่ระบุว่า ปัจจุบันมีผู้ป่วยไตเรื้อรังมากถึง 11.6 ล้านคน และมีจำนวนมากกว่า 1 แสนคนที่ต้องล้างไตต่อเนื่อง นั่นจึงทำให้ “บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)” ได้สนับสนุนเงินกว่า 55 ล้านบาท ร่วมสร้าง ศูนย์ไตเทียมประสิทธิภาพสูง โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย

“ในช่วงเวลาสำคัญที่ผมเคยพาคุณพ่อเข้ารับการฟอกเลือดเพื่อรักษาโรคไต ถึงจะเป็นโรงพยาบาลเอกชน แต่ก็ยังรอคิวครึ่งค่อนวัน นั่นทำให้ผมตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวพอทราบว่า รพ.ธรรมศาสตร์จะมีการขยายศูนย์ไตเทียมด้วยเทคโนโลยีที่จะทำให้การฟอกเลือดรวดเร็วขึ้น พร้อมกับเก็บฐานข้อมูลไปให้นักศึกษาแพทย์ใช้ต่อยอดการเรียน จึงไม่ลังเลที่จะเข้ามาสนับสนุนอย่างเต็มที่”

สารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานกรรมการบริหารของกัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)

สารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานกรรมการบริหารของกัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กัลฟ์ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการสร้าง ศูนย์ไตเทียมประสิทธิภาพสูง โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งนั่นก็หวังเพื่อที่จะพัฒนาศูนย์ไตเทียมให้มีประสิทธิภาพ ช่วยให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่มีความทันสมัย

“เป้าหมายของกัลฟ์คือ มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยโดยเฉพาะเรื่องสุขภาพ ซึ่งเป็นเรื่องพื้นฐานของการใช้ชีวิตที่สำคัญมากๆ กัลฟ์ จึงอาสาเข้าไปร่วมในโครงการด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะสถานพยาบาลภาครัฐ เพราะอยากจะช่วยแบ่งเบาภาระและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุขให้แก่ประชาชน อย่างกรณี ศูนย์ไตเทียมประสิทธิภาพสูงแห่งนี้ก็เช่นกัน ซึ่งผมได้พูดคุยกับทางตัวแทนโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ พบว่า โรคไต เป็นปัญหาระดับชาติ ทั้งนี้การปลูกจิตสำนึกเพื่อป้องกันก็สำคัญ แต่วันนี้สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือการเพิ่มขีดความสามารถในการดูแลฟอกไตให้แก่ประชาชนให้เพียงพอ”

ทั้งนี้ ศูนย์ไตเทียมประสิทธิภาพสูง  รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ อยู่บนพื้นที่กว่า 900 ตารางเมตรของโรงพยาบาล มีเครื่องฟอกไตประสิทธิภาพสูงที่สุดในประเทศไทย มากที่สุดถึง 30 เครื่อง รองรับผู้ป่วยได้ 80-90 เคสต่อวัน สามารถให้บริการผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้ายที่รับการรักษาบำบัดทดแทนไตด้วยวิธีการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ครอบคลุมทั้งการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมแบบเรื้อรัง สำหรับผู้ป่วยนอก (OPD) ผู้ป่วยใน (IPD) รวมถึงหัตถการพิเศษสำหรับผู้ป่วยโรคไต เช่น การใส่สายสวนชนิด 2 ช่องทาง (Hemodialysis Catheter) เพื่อใช้ฟอกเลือดทั้งแบบชั่วคราว และแบบถาวร

นอกจากนี้ยังเพิ่มโอกาสของประชาชนในการเข้าถึงนวัตกรรมการฟอกไตประสิทธิภาพสูง (On-line Hemodiafiltration) ที่สามารถขจัดของเสียโมเลกุลใหญ่ ที่การฟอกไตปกติ (Conventional Hemodialysis) ไม่สามารถทำได้ ลดการติดเชื้อ และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยในระยะยาว พร้อมด้วยระบบ Smart IT System ที่จัดเก็บข้อมูลของผู้ป่วยแบบดิจิทัลเชื่อมต่อข้อมูลให้นักศึกษาแพทย์นำมาศึกษาและทำวิจัยได้ เพื่อต่อยอดภารกิจการดูแลผู้ป่วยโรคไตในประเทศไทยของโรงเรียนแพทย์ โดยช่วงที่ผ่านมาโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ได้ให้บริการฟอกไตแก่ผู้ป่วยที่โรคไตในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียงจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคไตวายแบบเรื้อรัง ซึ่งการสนับสนุนของกัลฟ์ในครั้งนี้จะช่วยทำให้โรงพยาบาลสามารถขยายศักยภาพการบริการรักษาพยาบาลผู้ป่วยเพิ่มขึ้น

“นโยบายด้านสาธารณสุขมีความสำคัญมากสำหรับการเดินหน้าของประเทศเพราะเป็นเรื่องของ Productivity อย่างไรก็ตาม เราเอกชนก็จะพยายามอย่างเต็มที่ในส่วนที่เราเสริมได้หรือแบ่งเบาได้ สิ่งที่ยังอยากทำต่อเนื่องก็คือ การชวนกันให้ดูแลสุขภาพ ป้องกันก่อนที่จะต้องมารักษาตัวในตอนท้าย เหมือนอย่างกรณีโรคไต ที่วัยคนทำงานอาจจะไม่ได้นึกถึง ซึ่งถ้าเพิ่มการตระหนักรู้ และดูแลตัวเอง Prevent ได้ก่อนเกิดโรค ก็จะทำให้เรามีพลังใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ และเป็น Productivity ที่จะช่วยให้ประเทศเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป”

อย่างไรก็ตามนอกจากศูนย์ไตเทียมประสิทธิภาพสูง โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ แล้ว ก่อนหน้านี้ กัลฟ์ ได้เดินหน้าโครงการยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย ภายใต้แนวคิด Powering The Future , Empower The People ในการสนับสนุนกิจกรรม ศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ แก้ไขความพิการบนใบหน้า และกระโหลกศีรษะ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ทั้งการบริจาคเงินเพื่อใช้ในกิจการของศูนย์ฯ  ได้แก่ ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าที่พัก มอบให้แก่ผู้ป่วย ค่าใช้จ่ายในการรักษาผู้ป่วย ค่าอาหารผู้ป่วย ฯลฯ มาตั้งแต่ปี 2559 ,  ร่วมเป็นอาสาสมัครในกิจกรรมคลินิคเคลื่อนที่ของทางศูนย์ฯ เดินทางไปรักษาผู้ป่วยตามจังหวัดต่างๆ และ สนับสนุนทุนการศึกษาให้แก่ผู้ป่วยของศูนย์ฯ โดยให้ทุนต่อเนื่องรวม 4 ปี (2563-2566) เป็นจำนวนเงินกว่า 5 ล้านบาท ตามโครงการทุนการศึกษาให้แก่ศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ “หนึ่งทุน หนึ่งฝัน ปั้นอนาคต”

รวมทั้งยังสนับสนุนงบประมาณในการจัดซื้อเครื่องมือผ่าตัดกระดูกสันหลังระบบไฟฟ้าความเร็วสูง ให้โรงพยาบาลตำรวจ  ,สมทบทุนสร้างโรงพยาบาลศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ จ.ยะลา , สนับสนุนจัดซื้อเครื่อง Surgical Simulator (หุ่นจำลองเพื่อการเรียนการสอนโรคหลอดเลือดสมอง) ให้โรงพยาบาลรามาธิบดี , สนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์อื่นๆ ให้กับโรงเรียนแพทย์ ได้แก่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ , โรงพยาบาลรามาธิบดี และ โรงพยาบาลตำรวจ , โครงการออกหน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่ร่วมกับคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬา , สนับสนุนโรงพยาบาลในต่างจังหวัด ได้แก่ โรงพยาบาลแก่งคอย จ.สระบุรี และ โรงพยาบาลปลวกแดง จ.ระยอง

 

และในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 กัลฟ์ก็ได้มีส่วนร่วมช่วยเหลือ ทั้งด้านการแพทย์ สมทบทุนจัดทำเป็น Hospitel รองรับผู้ป่วยโควิด-19 ให้แก่โรงพยาบาลรามาธิบดี , จัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับการรักษาผู้ป่วย COVID-19 และผู้ป่วยภาวะการหายใจล้มเหลว ให้แก่ โรงพยาบาลราชวิถี และ จัดทำกล่อง “GULF CARE” (กัลฟ์แคร์) บรรจุยาและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ด้วย

“เราให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดีของคนในสังคม ภายใต้กรอบ IMPACT หรือการสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับสังคมผ่านการใช้ศักยภาพขององค์กร เพื่อทำให้กิจกรรมทางธุรกิจของเราเข้าไปมีส่วนช่วยในการพัฒนาสังคมและยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับคนในสังคม”