ให้ Barbie เปิดโลกการลงทุน

บทความโดย ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ CEO Jitta Wealth
ตั้งแต่ภาพยนตร์ Barbie เปิดตัวในเดือน ก.ค. ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ติดอันดับที่ 1 บนตาราง Box Office สหรัฐฯ ติดต่อกัน 4 สัปดาห์ จนถึงตอนนี้กวาดรายได้ทั่วโลกรวมแล้วกว่า 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้ในช่วงเปิดตัวสูงสุดในประวัติศาสตร์ของ Warner Bros. เป็นรองเพียงภาพยนตร์ Harry Potter and the Deathly Hallows: Part 2 ​ซึ่งก็คาดได้ว่าจะขึ้นแท่นอันดับ 1 ได้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

ว่ากันว่ากระแสที่ดังเปรี้ยงปร้างครั้งนี้ทำให้นักแสดงนำ และโปรดิวเซอร์อย่าง Margot Robbie จะได้รับเงินค่าจ้างบวกกับเงินโบนัสก้อนใหญ่ถึง 50 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1.7 พันล้านบาทขึ้นแท่นผู้กำกับหญิงที่มีรายได้สูงสุดในประวัติศาสตร์

รายได้ดีจนประธาน Fed อย่าง JeromePowell พูดว่า “Barbie (รวมไปถึง คอนเสิร์ตของ Taylor Swift) ส่งผลต่อเศรษฐกิจในวงกว้าง”

คาดไม่ถึงเลยใช่ไหมครับว่าอุตสาหกรรมของเล่นและธุรกิจบันเทิง จะมีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจได้ขนาดนี้

หรือนี่จะเป็น โอกาสลงทุน ได้ไหมนะ?

ผมไม่ได้พูดเล่นนะครับ อย่าลืมว่า ในสนามการลงทุนมีเรื่องให้คาดไม่ถึงอยู่เสมอครับ อะไรที่อยู่รอบๆ ตัวเราอาจจะเป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นที่ดีก็ได้…

เช่นเดียวกับภาพยนตร์ Barbie ที่นำเสนอเรื่องราวจากคำถามที่ว่า ถ้าบาร์บี้มาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง แล้วจะเป็นอย่างไร?

Photo : Shutterstock

ซึ่งกระแสในโซเชียลมีเดียแสดงให้เห็นแล้วว่า Barbie อาจจะไม่ใช่ภาพยนตร์สีชมพูโลกสวยแบบที่ใครหลายคนคิด

ในโลกของการลงทุนก็เช่นกัน ขอแค่คุณยึดในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง เลือกหุ้นคุณภาพดี ราคาที่เหมาะสม กระจายความเสี่ยงและรีวิวพอร์ตสม่ำเสมอ ก็เป็นหลักในการก้าวย่างที่ดีแล้วครับ

เอาล่ะครับ ผมจะพาไปส่องอีกว่า Barbie ในโลกการลงทุน เป็นอย่างไร? เผื่อว่าคุณอาจเจอโอกาสลงทุนในหุ้นดีๆ ก็ได้ครับ ​

คงหนีไม่พ้นที่จะต้องพูดถึงบริษัท Mattel ผู้ผลิตตุ๊กตา Barbie จะได้รับผลบวกจากกระแสที่ดีครั้งนี้อย่างไร

หากย้อนไป 64 ปีที่แล้ว หรือตั้งแต่ปี 2502 ที่บริษัท Mattel ผู้ผลิตตุ๊กตารายใหญ่ของโลก เปิดตัว  Barbie เป็นครั้งแรก ก็ทำให้ยอดขายตุ๊กตาทั้งหมดของบริษัท Mattel มากกว่าครึ่งมาจากยอดขาย ตุ๊กตา Barbie ดังนั้นการเปิดตัวของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญ ที่จะดันธุรกิจของ Mattel ก้าวไปอีกระดับก็เป็นได้ เพราะใครจะรู้ว่าเวลานี้ Mattel เอง กำลังมีแผนธุรกิจอะไรอยู่อีกรึเปล่า?

ความฮือฮาที่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

Reconteur ให้ข้อมูลที่น่าสนใจไว้ว่า จริงๆ Mattel ได้ทุ่มเงินกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการทำการตลาดให้กับแผนก Barbie ในปีนี้ และตามรายงานของ Media Radar นี่ยังถือเป็นก้าวสำคัญก้าวแรกในการเปลี่ยนผ่านธุรกิจจากบริษัทผู้ผลิตของเล่นสู่สนามจำหน่ายทรัพย์สินทางปัญญาอีกด้วย ซึ่งแผนธุรกิจนี้ถูกเซตขึ้นโดย Ynon Kreiz CEO ของ Mattel

เราอาจจะได้เห็นภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับของเล่นในตำนาน ของเล่นสร้างชื่อจาก Mattel ออกมาให้เห็นอีกมากมายในอนาคต

cof

แต่ Barbie จะเป็นมากกว่าของเล่น

ข้อมูลจาก Bloomberg ระบุว่า ความต้องการของเล่นเคยพุ่งสูงขึ้นในช่วงโรคระบาด Covid-19 แต่เมื่อการระบาดสงบลงอุตสาหกรรมนี้ก็เงียบเหงาลงตาม รวมไปถึงภาวะเงินเฟ้อ และเศรษฐกิจตกต่ำก็เข้ามาเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อสินค้าต่างๆ ด้วย

ฐานลูกค้าของตุ๊กตาบาร์บี้มีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 3-8 ปีครับ แต่ถ้าใครดูภาพยนตร์ไปเรียบร้อยแล้ว หรือถ้าดูแค่ Teaser ก็คงจะเห็นว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้กลับไม่ได้สร้างมาให้เด็กด้วยซ้ำ เพราะมันเป็นแผนดึงดูดให้ผู้ใหญ่ซื้อตุ๊กตาเหล่านี้ให้เด็ก หรือแม้กระทั่งหวนนึกย้อนไปถึงของเล่นในอดีตจนอาจจะอยากซื้อมาเล่นอีกรอบก็ได้ครับ

I’m a Barbie girl in investment world… โลกลงทุนที่ไม่มีสีชมพู

แผนธุรกิจของ Mattel เรียกว่าเป็น ‘อนาคต’ ที่น่าจับตามองมากเลยครับ ซึ่งถ้ามันเกิดขึ้นได้จริง ตอนนี้ก็อาจจะเป็นโอกาสในการลงทุนก็ได้ใช่ไหมครับ

แต่การจะลงทุน ต้องดูให้รอบด้านครับ

ดังนั้นก่อนจะไปถึงจุดนั้น ผมจะพาไปส่องดูกันก่อนดีกว่าครับว่า พื้นฐานของหุ้น Mattel ในเวลานี้เป็นอย่างไรบ้าง

หากคุณลองเข้าไปส่องข้อมูลใน Jitta.com คุณจะเห็นได้ว่าราคาปัจจุบันของหุ้นตัวนี้อยู่ต่ำกว่า Jitta Line ถึง 34.84% ครับ แต่ถ้าเลื่อนสายตาไปที่ Jitta Score หุ้นตัวนี้มีคะแนนที่ 4.24 คะแนนเท่านั้น

barbie

เจาะลึกงบการเงินด้วย Jitta

เราลองมาดูงบการเงินของ Mattel กันครับ โดยคุณสามารถอ่านได้ที่ Jitta เลย เพียงเลื่อนเมาส์ไปที่ Factsheet ก็จะเห็นตารางงบการเงินย้อนหลังที่อ่านง่ายและสบายตา ไม่ต้องไปนั่งทำเอาเองครับ ​

ตัวเลขที่น่าสนใจ

  •  รายได้ค่อนข้างคงที่ ไม่ได้มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ มีเพียงปี 2564 ที่รายได้โตกว่า 18.9%
  •  ด้านคุณภาพของกำไรดูได้จาก รายได้รวม บริษัทขาดทุน 3 ปีติดต่อกันในปี 2560-2562
  •  วงจรเงินสด ในปี 2565 ตัวเลขวงจรเงินสดกระโดดไปที่ 110 วัน จากระดับ 80-90 วันเมื่อเทียบกับงบการเงินในช่วง 3-5 ปีย้อนหลัง แสดงให้เห็นว่าบริษัทอาจจะสูญเสียอำนาจต่อรองกับลูกค้าหรือซัพพลายเออร์ รวมไปถึงอาจจะมีการสต๊อกสินค้าที่มากขึ้น

ยังมีตัวเลขอีกมากมายใน Factsheet ของ Jitta ที่รอให้คุณไปหาคำตอบเพิ่มเติมได้ที่นี่  jitta.com/stock/nasdaq:mat/factsheet

เรียนรู้อดีต ไม่ตัดสินอนาคต

แม้ว่าคะแนน Jitta Score ของ Mattel จะอยู่ต่ำกว่า 5 แต่การเปลี่ยนผ่านธุรกิจครั้งนี้ก็ถือเป็นความสำเร็จอย่างมากครับ นอกจากจะเป็หนังทำเงินมากที่สุดแห่งปี 2566 แล้ว ยังล้มแชมป์เก่าอย่าง The Batman และหายใจรดต้นคอภาพยนตร์  Harry Potter and the Deathly Hallows: Part 2 ล่าสุดกวาดรายได้จากเฉพาะในสหรัฐอเมริกาได้ 526.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และรายได้ Box Office จากพื้นที่ทั่วโลกอีก 657.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

หากคุณสนใจ หรือคิดว่านี่อาจจะเป็นโอกาสการลงทุนที่น่าติดตามต่อ คุณสามารถติดตามหุ้นบริษัท Mattel ผ่านการกด Follow ให้ทันทุกการเคลื่อนไหวได้เลยครับ ​

หุ้นดีๆ หรือ โอกาสลงทุน อยู่รอบตัวเรา ครั้งหน้าถ้าเจออะไรน่าลงทุน ก็ลองใช้ Jitta ดูได้แบบฟรีๆ เลยนะครับ ไม่แน่นะครับ คุณอาจเจออัญมณีสีชมพูที่ซ่อนอยู่ในตลาดการลงทุนก็ได้ครับ