Xiaomi รับไฟเขียวจากหน่วยงานของรัฐบาลจีนให้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้ คาดเริ่มผลิตได้ 1 แสนคันในปี 2024

Photo : Shutterstock
Xiaomi รับไฟเขียวจากหน่วยงานของรัฐบาลจีนให้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้แล้ว โดยคาดว่าในปี 2024 บริษัทจะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้มากถึง 1 แสนคัน อย่างไรก็ดีการเข้ามาในอุตสาหกรรม EV นี้ถือว่าเป็นความท้าทายของบริษัทไม่น้อย เนื่องจากคู่แข่งมีจำนวนมาก

สำนักข่าว Reuters รายงานข่าวว่า เสียวหมี่ (Xiaomi) ผู้ผลิตสินค้าไอทีจากประเทศจีน ได้รับไฟเขียวจากคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ (NDRC) ให้บริษัทสามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้แล้ว โดยผู้ผลิตสินค้าไอทีรายนี้ถือเป็น 1 ใน 4 บริษัทที่ได้รับไฟเขียวจากหน่วยงานดังกล่าวตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมา

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวนี้ตามมาหลังจากบริษัทได้ทดสอบรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทในสภาวะอากาศหนาวเย็นจัดแล้ว และตั้งเป้าที่จะวางขายรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้ภายในครึ่งปีแรกของปี 2024 และ Lei Jun ซึ่งเป็น CEO ของ Xiaomi ได้กล่าวว่าแผนการที่บริษัทจะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจะเป็นโครงการใหญ่อันสุดท้ายในอาชีพผู้ประกอบการของเขา

เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา Beijing Daily สื่อของรัฐบาลจีนได้รายงานว่าโรงงานในกรุงปักกิ่งของ Xiaomi จะสามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้ราวๆ 200,000 คันต่อปี แต่ในปี 2024 ที่บริษัทวางแผนว่าจะวางจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้นั้นจะผลิตได้ 100,000 คันให้ได้ก่อน

อย่างไรก็ดี Xiaomi จะต้องได้รับไฟเขียวจากกระทรวงอุตสาหกรรมและสารสนเทศ (MIIT) ซึ่งจะประเมินผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในแต่ละรุ่นสำหรับข้อกำหนดด้านเทคนิคและความปลอดภัย

สำหรับตลาดหลักของรถยนต์ไฟฟ้าจาก Xiaomi คือผู้ใช้งานทั่วไป โดยราคารถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทนั้นเริ่มต้นอยู่ที่ 100,000 หยวน ขณะที่รุ่นแพงสุดจะอยู่ที่ 300,000 หยวน ไม่เพียงเท่านี้บริษัทยังวางแผนที่จะเปลี่ยนสาขาที่ขายอุปกรณ์ไอทีหลายแห่งในประเทศจีนให้กลายเป็นโชว์รูมรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทแทนด้วย

การเข้ามาตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทส่วนหนึ่งมาจากยอดขายสินค้าไอทีของบริษัทลดลง โดยเฉพาะการรายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุดนั้น ยอดขายสินค้าของบริษัทลดลง 18.9% จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้บริษัทต้องเข้ามาในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้านี้ด้วย เนื่องจากขนาดตลาดที่ใหญ่กว่า และยังไม่มีผู้ชนะในตลาดที่แท้จริง

นอกจากนี้การเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของ Xiaomi ถือว่าอยู่ในช่วงเวลาที่ผู้ผลิตหลายรายจะต้องต่อสู้ทั้งในเรื่องของราคาระหว่างกัน นอกจากนี้ยังรวมถึงความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศที่ชะลอตัวลงจากสภาวะเศรษฐกิจ และยังรวมถึงต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นด้วย ซึ่งถือเป็นความท้าทายไม่น้อย