ย้อนไปช่วงเดือนพฤจิกายน 2022 แบรนด์ฟาสต์แฟชั่นอันดับ 2 ของโลกอย่าง H&M ได้ทดลองขาย เสื้อผ้ามือสอง ในสหราชอาณาจักร ล่าสุด แบรนด์ก็ได้นำเสื้อผ้ามือสองมาขายในแฟลกชิปสโตร์ในลอนดอนเป็นครั้งแรก
เนื่องจากแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นต่อบริษัทฟาสต์แฟชั่นในเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้หลายบริษัทเริ่มส่งเสริมการ นํากลับสินค้ามาใช้ใหม่และการรีไซเคิลเสื้อผ้า โดยแบรนด์ H&M (เอช แอนด์ เอ็ม) ก็เป็นหนึ่งในแบรนด์ฟาสต์แฟชั่นที่เริ่มทดลองนำสินค้ามือสองมาขายแบบออนไลน์ โดยเริ่มใน สหราชอาณาจักร ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วเป็นที่แรก
ล่าสุด H&M ได้เตรียมนำ เสื้อผ้าและเครื่องประดับมือสอง มาขายที่ แฟลกชิปสโตร์ในลอนดอน โดยจะเริ่มวางขายตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคมนี้ อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่ได้เปิดเผยถึงราคาและแหล่งที่มาของเสื้อผ้ามือสองที่จะนำมาจำหน่าย
โดยหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ H&M เนื่องจากสหภาพยุโรปได้ออกกฎระเบียบใหม่เพื่อปราบปรามขยะจากสิ่งทอ โดยอียูเสนอให้ประเทศสมาชิกจะต้องแยกขยะสิ่งทอออกจากขยะประเภทอื่น ๆ ภายในเดือนมกราคม 2025 นอกจากนี้ ยังเสนอกฎให้บริษัทผู้ผลิตเสื้อผ้า จ่ายเงินช่วยรับภาระค่าใช้จ่ายสำหรับงานเกี่ยวกับ การคัดแยกเสื้อผ้าใช้เเล้ว เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ และการเอาวัตถุดิบไปรีไซเคิล
แม้ว่าเรื่องกฎระเบียบจะหนึ่งในปัจจัยที่บีบให้แบรนด์ฟาสต์แฟชั่นต้องหันมาขายเสื้อผ้ามือสอง แต่อีกปัจจัยก็คือ ตลาดเสื้อผ้ามือสองที่ใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีแพลตฟอร์มใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย อาทิ thredUP, Vinte, Depopmultiplying และแบรนด์ฟาสต์แฟชั่นหลายแบรนด์ก็เริ่มหันมาขาย เสื้อผ้ามือสองของตัวเอง เช่น Zara ได้เปิดตัวบริการมือสองออนไลน์ในฝรั่งเศส
ทั้งนี้ จากข้อมูลของ ThredUP เว็บไซต์ซื้อขายเสื้อผ้าและสินค้าแฟชั่นมือสองได้คาดการณ์ว่า ตลาดเสื้อผ้ามือสองทั่วโลกจะเติบโตขึ้น +127% ภายในปี 2026 โดยคาดว่ามูลค่าตลาดจะอยู่ที่ราว 2.18 แสนล้านดอลลาร์ หรือราว 7.63 ล้านล้านบาท ถือว่าโตเร็วกว่าตลาดเสื้อผ้าโดยรวมเฉลี่ยเป็น 3 เท่า