บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ยังมองหุ้นไทยมีอัพไซด์ มองเป้าสิ้นปี 1,650 จุด จากกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่ฟื้นตัว ขณะเดียวกันก็มองถึงตลาดหุ้นต่างประเทศอย่าง อินโดนีเซีย เวียดนาม ยังน่าสนใจในระยะยาว มีหลายอุตสาหกรรมที่เติบโตเหมือนหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมา
สุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ได้กล่าวถึงหุ้นไทยว่ามองแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ในไตรมาส 4 นี้ แม้ว่าครึ่งปีแรก ผลตอบแทนหุ้นไทยจะติดลบประมาณ 10% และผลตอบแทนนั้นยังสู้หุ้นต่างประเทศไม่ได้เลย
กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัยฯ ของ InnovestX มองว่า กรณีของหุ้นไทยสาเหตุสำคัญคือมีความไม่ชัดเจนเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล แต่ในช่วงที่ผ่านมาตลาดเริ่มฟื้นตัวแล้ว
ขณะเดียวกันทาง InnovestX มีมุมมองเศรษฐกิจโลกไตรมาส 4 ของปี 2023 ใน 3 ประเด็นได้แก่
- เศรษฐกิจที่จะชะลอตัวอย่างพร้อมเพรียง ภาคการผลิตทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศพัฒนาแล้ว หดตัวมาโดยตลอด ผลจากการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางต่างๆ ประกอบกับความต้องการสินค้าต่างๆ เริ่มหมดลงทำให้ภาคการผลิตมีปัญหา และในปัจจุบันภาคบริการเริ่มมีปัญหาแล้วเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากดอกเบี้ยสูง
- ดอกเบี้ยสูงยาวนานขึ้น (Higher for longer) ในช่วงที่ผ่านมาเงินเฟ้อในประเทศพัฒนาแล้วลดลงมาพอสมควรจากเงินเฟ้อภาคการผลิตเป็นหลัก อย่างไรก็ตามในระยะต่อไปเงินเฟ้อจะลดลงยากมากขึ้น เนื่องจากเป็นเงินเฟ้อในส่วนภาคบริการ นอกจากนั้นราคาน้ำมันที่เริ่มกลับมาเพิ่มขึ้นจากการลดกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC+ ก็มีส่วนทำให้เงินเฟ้อในระยะต่อไปกดลงได้ยากเช่นเดียวกัน
- เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังขยายตัวได้แตกต่างกับประเทศอื่น ถ้าหากเทียบเศรษฐกิจสหรัฐกับยุโรปและจีนที่จะชะลออย่างมีนัยสำคัญ
ในกรณีของเศรษฐกิจจีน สุกิจมองว่า เศรษฐกิจจีนระยะยาวเองเสี่ยงเข้าสู่สภาวะเงินฝืดมากขึ้นคล้ายกับกรณีของญี่ปุ่นช่วงทศวรรษ 1990 แม้ว่าจีนจะออกนโยบายต่างๆ มาแก้ปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มสภาพคล่อง การลดดอกเบี้ย ก็ตาม
ขณะที่เศรษฐกิจไทยปัจจุบันชะลอตัวลงมาก หลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาส 2 ออกมา แต่สุกิจมองว่าอนาคตมีความหวังจากความชัดเจนทางการเมืองและนโยบายกระตุ้นจากภาครัฐ ซึ่ง InnovestX คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2024 จะขยายตัวได้ดีกว่าปีนี้จากหลากหลายนโยบาย เป็นผลมาจากเสถียรภาพทางการเมืองที่เพิ่มขึ้น
กลยุธ์การลงทุนในหุ้นไทยหลังจากนี้ สุกิจมองเป้าดัชนีหุ้นไทยในปี 2023 ที่ 1650 จุด ขณะที่ปีหน้ามอง 1,750 จุด เขาให้เหตุผลจากจากการฟื้นตัวของผลประกอบการ ขณะที่แนวรับหุ้นไทยที่น่าจะสะสมหุ้นได้อยู่ในช่วง 1,500 ถึง 1,550 จุด
InnovestX แนะนำให้นักลงทุนโฟกัสไปหุ้นที่กำไรมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปหรือทำจุดต่ำสุดแล้ว และสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เน้นหุ้นวัฏจักรที่มีความสัมพันธ์กับการใช้จ่ายอุปโภคบริโภคภายในประเทศสูงซึ่งจะได้รับโมเมนตัมเชิงบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการฟื้นตัวของกำไร โดยหุ้นที่แนะนำ เช่น AOT BCH CRC KCE และ KTB
ทางด้านความเสี่ยงสำคัญที่อาจกระทบหุ้นไทยที่ InnovestX มองคือ ผลกระทบจากการเกิดเอลนีโญระดับรุนแรงจะสร้างความเสียหายต่อผลผลิต ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของเกษตรกร และเรื่องที่รัฐบาลเลือกที่จะกู้เงินเพิ่มขึ้นเพื่อสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อาจส่งผลต่อความเข้มแข็งทางการคลัง
ขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศอย่าง เวียดนาม และ อินโดนีเซีย ทาง InnovestX มองถึงเรื่องการเติบโตของชนชั้นกลางที่มีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้นในอีก 5-10 ปีข้างหน้า โดยอุตสาหกรรมที่จะได้รับผลประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของประชากรคนชั้นกลาง เช่น อาหารและเครื่องดื่ม ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ ธนาคาร หรือบริการทางการเงิน เช่น บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งหุ้นเหล่านี้เติบโตเหมือนกับหุ้นกลุ่มดังกล่าในประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมา