“Mitsubishi Motors” ตัดสินใจถอนโรงงานผลิตรถในประเทศ “จีน” หลังยอดขายปี 2022 ร่วงลงถึง 60% เนื่องจากชาวจีนหันไปนิยมรถอีวีแบรนด์จีนมากขึ้น หลังจากนี้คาดว่า “GAC” พาร์ทเนอร์ร่วมทุนสัญชาติจีนของโรงงานนี้ จะทำการแปลงโรงงานไปผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทแทน
Nikkei Asia รายงานกระแสข่าวโดยไม่ได้อ้างอิงแหล่งข่าวว่า ยอดขายของ Mitsubishi Motors ในจีนชะลอตัวลงมาพักใหญ่หลังจากชาวจีนหันไปนิยมรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์แบรนด์จีนมากขึ้น และไม่ได้มีเพียง Mitsubishi Motors เท่านั้นที่ประสบปัญหา แต่รถยนต์แบรนด์ญี่ปุ่นอื่นๆ ก็กำลังเผชิญปัญหาแบบเดียวกันในจีน
โรงงานของ Mitsubishi Motors ในจีนเป็นการร่วมทุนกับ Guangzhou Automobile Group (GAC) ลงทุนฝั่งละ 50% ตัวโรงงานตั้งอยู่ในมณฑลหูหนาน และมีข่าวการหยุดดำเนินการผลิตเพิ่มมาตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยโรงงานนี้เป็นโรงงานเดียวที่ Mitsubishi Motors มีในประเทศจีน
สำนักข่าว Nikkei Asia รายงานต่อไปว่า หลังฝั่งญี่ปุ่นถอนหุ้นออกไป คาดว่า GAC ที่ยังถือครองโรงงานแห่งนี้ จะเปลี่ยนโรงงานมาผลิตรถยนต์อีวีของบริษัท และจะพยายามรักษาการจ้างงานไว้ให้ได้มากที่สุด
สถานการณ์ของ Mitsubishi Motors แย่ลงอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ปี 2022 บริษัทมีการจำหน่ายรถยนต์ในจีนได้เพียง 38,550 คัน ต่ำลง 60% เมื่อเทียบกับปี 2021
ในช่วงปลายปีที่แล้ว บริษัทพยายามต่อสู้ในตลาดด้วยการส่งรถเอสยูวีรุ่น ‘Outlander’ ซึ่งเป็นรถยนต์ไฮบริดลงสนามแข่งขัน แต่ปรากฏว่าไม่ได้รับผลตอบรับที่ดี จนนำมาสู่การถอนโรงงานออกจากจีน
หลังจากนี้ คาดว่าบริษัทจะหันมาทุ่มทรัพยากรทั้งหมดกับตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียแทน เพราะภูมิภาคนี้ถือเป็นภูมิภาคทำเงินให้กับ Mitsubishi Motors ได้ถึง 1 ใน 3 ของยอดรวมบริษัท
จากข้อมูลของ สมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งประเทศจีน ยอดขายรถอีวีในจีนเมื่อปี 2022 ขายได้ถึง 5.36 ล้านคัน พุ่งทะยานขึ้น 80% จากปีก่อนหน้า และคิดเป็นสัดส่วน 20% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ทั้งหมดในจีนเมื่อปีก่อน ทั้งนี้ Mitsubishi Motors ไม่ได้ถือสิทธิบัตรการพัฒนารถอีวีในประเทศจีน เนื่องจากจะทับซ้อนตลาดกับ GAC
ปัจจุบันการแข่งขันในตลาดรถยนต์จีน แบรนด์ต่างชาติจะต้องแข่งกับแบรนด์ท้องถิ่น MarkLines บริษัทวิจัย ประเมินว่า ในจำนวนรถยนต์ที่ขายได้ในจีน 23.56 ล้านคันเมื่อปี 2022 มีถึง 50.7% ที่เป็นแบรนด์จีนเอง สัดส่วนนี้เพิ่มขึ้นเร็วมาก จากปี 2021 รถจีนยังมีสัดส่วนในตลาดที่ 45.5%
ส่วนรถยนต์แบรนด์ญี่ปุ่นก็กำลังถูกตีตลาด เมื่อปี 2022 รถญี่ปุ่นมีสัดส่วนในจีน 18.3% เทียบกับปี 2021 ที่เคยมีสัดส่วน 21.1%
มาโกโตะ อุชิดะ ประธานและซีอีโอของ Nissan Motor เคยพูดถึงสถานการณ์ในจีนไว้ว่า “เรามาถึงจุดที่ไม่สามารถทำกำไรได้ เพราะการแข่งขันลดราคาที่สาหัสในตลาด” เขากล่าว “เรากำลังพิจารณาตัวเลือกที่มี ซึ่งรวมถึงการพิจารณากลยุทธ์ในจีนกันใหม่ เช่น การเข้าร่วมทุนกับบริษัทอื่น”
Mitsubishi Motors เริ่มการส่งออกรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไปยังประเทศจีนตั้งแต่ทศวรรษ 1970s และเริ่มเข้าไปลงทุนในประเทศตั้งแต่ปี 2006 ส่วนการตั้งบริษัทร่วมทุน GAC Mitsubishi Motors เริ่มต้นในปี 2012 โรงงานแห่งนี้เคยผลิตและจำหน่ายรถยนต์ได้สูงสุด 140,000 คันเมื่อปี 2018
สำหรับประเทศไทย GAC ก็เริ่มเข้ามาทำตลาดครั้งแรกในเดือนกันยายนนี้เอง โดยส่งรถคอมแพ็คครอสโอเวอร์ AION Y Plus เข้ามาชิมลางในราคาเริ่มต้น 1,069,900 บาท และมีแผนจะมาตั้งฐานการผลิตรถยนต์ใน จ.ระยอง เพื่อใช้ส่งออกไปในภูมิภาคนี้ด้วย