จีน ถือเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 2 และเป็นศูนย์กลางการผลิตที่สำคัญของ Apple โดยยอดขายภายในจีนคิดเป็นประมาณ 19% ของรายได้โดยรวมเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม iPhone 15 ที่เพิ่งเปิดตัวไปกลับทำยอดขายได้ไม่ดีเท่ากับรุ่น iPhone 14 หนึ่งในสาเหตุนั้นมาจากกระแส “ชาตินิยม”
ตามรายงานของ Counterpoint Research เปิดเผยว่า ยอดขายในช่วงสองสัปดาห์แรกหลังจากเปิดตัวของ iPhone 15 ในจีน ลดลง 4.5% เมื่อเทียบกับยอดขาย iPhone 14 โดยหากเทียบเป็นจำนวนแล้วก็แตะหลัก เกือบล้านเครื่อง
มีการคาดการณ์ว่า สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้ยอดขายของ iPhone 15 ลดลงมาจากปัญหา เศรษฐกิจจีนที่ตกต่ำ นอกจากนี้ Apple ต้องแข่งขันกับคู่แข่งภายในประเทศ เช่น หัวเว่ย (Huawei) ที่เพิ่งเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงอย่าง Mate 60 นอกจากนี้ กระแส ชาตินิยม ที่กำลังมาแรงในจีนก็จะยิ่งส่งเสริมให้ผู้บริโภคหันมาสนใจ Mate 60 มากขึ้น
“ผู้บริโภคชาวจีนเริ่มคิดว่าพวกเขาถูกรัฐบาลสหรัฐฯ กีดกัน นำไปสู่การคว่ำบาตรสินค้าจากสหรัฐฯ ซึ่งยิ่งส่งผลดีกับบริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนในประเทศ” Jeff Fieldhack ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ Counterpoint กล่าว
อย่างไรก็ตาม ยอดขายของหัวเว่ยจะยังไม่แซงหน้า Apple แต่คาดว่าความสนใจใน Mate 60 จะยังคงเข้มข้นต่อไป ขณะเดียวกัน จีนยังคงมีความสำคัญต่อ Apple มาก เนื่องจากเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดรองจากสหรัฐอเมริกา
“Apple ทำกำไรได้มากมายในช่วงเปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว และกลายเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนอันดับหนึ่งในจีน แม้สิ่งต่าง ๆ จะดูแข็งแกร่ง แต่ตอนนี้ด้วยความตึงเครียดทางการเมืองและการแข่งขัน นั่นเป็นปัจจัยที่น่ากังวล”
แม้ว่า iPhone 15 ในจีนจะมียอดขายลดลง แต่ยอดขายในสหรัฐฯ ก็ยังเติบโตกว่า 10% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งถือเป็นการเติบโตที่แข็งแกร่งสำหรับ Apple หากพิจารณาจากยอดขายที่ลดลงเป็นไตรมาสที่สามติดต่อกันจนถึงเดือนสิงหาคม ก่อนการเปิดตัว iPhone 15