ธนาคารกลางญี่ปุ่นส่งสัญญาณยกเลิกนโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลาย ดอกเบี้ยต่ำ และคาดการณ์ว่าตัวเลขเงินเฟ้อสูงขึ้น 2% หลังจากนี้ สาเหตุสำคัญในการปรับนโยบายครั้งนี้คือส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐอเมริกากับญี่ปุ่นที่ห่างกันมากเกินไป จนส่งผลกระทบต่อค่าเงินเยนด้วย
ในการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่นในวันนี้ (31 ตุลาคม) ได้มีการส่งสัญญาณที่จะค่อยๆ ยกเลิกนโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลาย หลังจากที่ใช้นโยบายดังกล่าวมาเป็นระยะเวลานานนับสิบปี เพื่อที่จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศออกจากปัญหาเงินฝืด
นโยบายที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) เตรียมนำมาใช้หลังจากนี้คือจะปล่อยให้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นระยะ 10 ปีแต่เดิมมีอัตราผลตอบแทนที่ 0% จะปรับให้มีการเคลื่อนไหวสูงสุดที่ 1% แม้ว่าสภาวะภายนอกจะมีความไม่แน่นอนสูง BoJ จะเพิ่มความยืดหยุ่นในการควบคุมผลตอบแทนของอัตราดอกเบี้ย
BoJ ยังได้ปรับคาดการณ์ตัวเลขเงินเฟ้อมาอยู่ในระดับ 2% เนื่องจากต้นทุนด้านพลังงานที่มีราคาสูงขึ้น รวมถึงต้นทุนการนำเข้าสินค้าที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น และมองว่าหลังจากนี้ตัวเลขเงินเฟ้อจะปรับเข้ามาสู่ตัวเลขเป้าหมายที่วางไว้ได้
นอกจากนี้ BoJ ยังประกาศว่าจะยังมีการซื้อสินทรัพย์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ETF หุ้นญี่ปุ่น พันธบัตรรัฐบาล หรือกองทรัสต์ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ต่อไป แต่มีลดปริมาณการซื้อลง โดยให้เหตุผลว่าเพื่อสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจทำให้เกิดสภาวะการขึ้นอัตราค่าจ้างในช่วงหลังจากนี้ รวมถึงจะตรวจสอบพัฒนาการทางเศรษฐกิจเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว
สาเหตุสำคัญที่ทำให้ BoJ ต้องปรับเปลี่ยนนโยบายทางการเงินก็คือส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐอเมริกา ขณะที่ญี่ปุ่นยังใช้อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า 1% ทำให้ช่องว่างอัตราดอกเบี้ยที่กว้างมากกว่า 5% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นมา ปัจจัยดังกล่าวยังทำให้ค่าเงินเยนอ่อนค่าในช่วงที่ผ่านมาจนต้องมีการเข้าแทรกแซงหลายครั้ง
ในช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจญี่ปุ่นได้ประสบปัญหาเงินฝืดมาโดยตลอด จนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากประชาชนไม่จับจ่ายใช้สอย
ปัญหาเงินฝืดที่เกิดขึ้นทำให้ ชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นในช่วงเวลาดังกล่าว ได้ออกมาตรการฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย และมีการใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบ เพื่อกระตุ้นให้เศรษฐกิจฟื้นตัวจากปัญหาเงินฝืดเป็นระยะเวลานับ 10 ปี ก่อนที่นโยบายดังกล่าว BoJ เตรียมจะยกเลิกหลังจากนี้