‘กรุงเทพฯ’ ครองอันดับ 2 เมืองที่ ‘นักท่องเที่ยวอินเดีย’ นิยมมากที่สุดในปี 2022

ในอดีตที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวจีน ถือเป็นหัวใจสำคัญของการท่องเที่ยวในประเทศไทย แต่ในช่วงที่จีนยังปิดประเทศนั้น นักท่องเที่ยวอินเดีย ก็ขึ้นแท่นเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลัก และแม้ว่าเราจะเห็นนักท่องเที่ยวในอินเดียเข้าไทยจำนวนมหาศาล แต่ในความเป็นจริงแล้วคนอินเดียที่ท่องเที่ยวต่างประเทศมีเพียง 1% เท่านั้น

นักท่องเที่ยวอินเดียสร้างเม็ดเงินกว่า 2 หมื่นล้านบาท

อ้างอิงข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยพบว่า ในปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวชาวอินเดียเดินทางเข้าประเทศไทยราว 5-6 แสนคน สร้างเม็ดเงินเข้าประเทศกว่า 2 หมื่นล้านบาท และในปีนี้ มีการประเมินว่านักท่องเที่ยวอินเดียจะเข้าไทยกว่า 3 ล้านคน และมีการใช้จ่ายประมาณ 41,000 บาท/การมาท่องเที่ยว 1 ครั้ง ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่จะเปิด ฟรีวีซ่า อินเดียเที่ยวไทย 30 วันนาน 6 เดือน ตั้งแต่ 10 พ.ย. – 10 พ.ค. 2567 เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว

กรุงเทพฯ อันดับ 2 เมืองที่นักท่องเที่ยวอินเดียมามากที่สุด

จากข้อมูลจาก Booking.com และ McKinsey ระบุว่า นักเดินทางชาวอินเดียเดินทางเพื่อพักผ่อน 1.7 พันล้านครั้งในปี 2022 แต่นักเดินทางส่วนใหญ่ไม่เคยเดินทางออกนอกประเทศเลย แต่การเดินทางไป ต่างประเทศ มีเพียง 1% เท่านั้น โดยสถานที่ 10 แรกที่นักท่องเที่ยวอินเดียนิยมมากที่สุด ได้แก่

  • ดูไบ
  • กรุงเทพฯ
  • สิงคโปร์
  • ลอนดอน
  • ปารีส
  • นครโฮจิมินห์
  • อูบุด
  • ฮานอย
  • ภูเก็ต
  • กาฐมาณฑุ

ภายในปี 2030 มีกว่า 5 พันล้านทริป

นอกจากนี้ มีการประเมินว่าภายในปี 2030 นักเดินทางชาวอินเดียจะมีทริปพักผ่อนสูงถึง 5 พันล้านทริป แต่ 99% ของทริปเหล่านั้นจะอยู่ในประเทศเหมือนกับปี 2022 อย่างไรก็ตาม แม้ทริปเที่ยวต่างประเทศจะมีเพียง 1% แต่เท่ากับว่ามีปริมาณถึง 50 ล้านทริป เลยทีเดียว

อย่างที่รู้กันว่า อินเดียได้ขึ้นแท่นเป็นประเทศที่มี จำนวนประชากรมากที่สุดในโลก แต่ที่น่าสนใจกว่านั้นคือ ภายในปี 2030 อินเดียจะกลายเป็นประเทศที่มีการ ใช้จ่ายด้านการเดินทางมากเป็นอันดับ 4 ของโลก เนื่องจากจำนวนประชากรที่มีรายได้ปานกลางที่เพิ่มขึ้น ซึ่งรายได้ของครัวเรือนจะเพิ่มขึ้น 35,000 ดอลลาร์ต่อปี (ราว 1.2 ล้านบาท) ในเวลานั้น

นอกจากนี้ ประชากรยังอายุน้อย โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 27.6 ปี ซึ่งอายุน้อยกว่าประเทศเศรษฐกิจหลัก ๆ ส่วนใหญ่มากกว่า 10 ปี ยิ่งกว่านั้น การบริโภคสินค้าและบริการ รวมถึงการพักผ่อนและสันทนาการ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสองเท่าภายในปี 2030 เช่นกัน ซึ่งรายงานระบุว่าการใช้จ่ายด้านการเดินทางและการท่องเที่ยวจะสูงถึง 4.10 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นมากกว่า 170% จาก 1.50 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2019

Source