ดาราที่ดังจนเป็นที่สนใจของคนทั้งประเทศได้ ถือเป็นโอกาสของแบรนด์ที่อยากใช้เป็นพรีเซ็นเตอร์ แต่ดังระดับนี้ แบรนด์อาจคาดหวังไกลมากไม่ได้ เพราะในเมื่อใครๆ ก็ใช้ ”ณเดชน์” แล้วจะทำอย่างไรให้แบรนด์คุณเป็นที่จดจำ
“ผศ.ดร.กฤตินี ณัฎฐวุฒิสิทธิ์” นักวิชาการด้านการตลาด และอาจารย์ประจำ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกว่าการมีพรีเซ็นเตอร์ของแบรนด์ เป้าหมายคือเมื่อนึกถึงพรีเซ็นเตอร์ก็นึกถึงแบรนด์ แต่พรีเซ็นเตอร์คนหนึ่งนำเสนอหลายแบรนด์ ก็ยากที่จะได้ผลนี้ ถ้าเทียบกับมีเซเลบริตี้ที่มีคาแร็กเตอร์ชัดเจน สอดคล้องกับบุคลิกแบรนด์ ที่ช่วยตอบโจทย์ในการเป็นผู้สื่อสารแบรนด์ได้ดีกว่า
แต่ถ้าวัตถุประสงค์แบรนด์ต้องการดึงความสนใจ (Attention) สร้างกระแส การได้พรีเซ็นเตอร์ระดับดังมาก ก็ถือว่าตอบโจทย์ แต่แบรนด์ก็ต้องทำงานเพิ่มเติมวางกลยุทธ์ในการสื่อแบรนด์มากขึ้น
กรณีนี้สิ่งที่แบรนด์ที่มี ”ณเดชน์” เป็นพรีเซ็นเตอร์ได้แน่นอนคือ การดึง ”ความสนใจ” แต่อย่าลืมว่าผู้ชมมีรีโมตในมือ หากทีวีซีไม่น่าสนใจ หรือวิธีการนำเสนอไม่สร้างสรรค์พอ คนก็จะเปลี่ยนไม่ดูโฆษณาแบรนด์นั้นทันที อย่างนี้แม้แต่การดึงความสนใจก็ยังไม่ได้
แบรนด์ที่จะทำสำเร็จได้ยังต้องสื่อสารระหว่างบุคลิกของพรีเซ็นเตอร์กับคุณสมบัติของสินค้าในแบบไปด้วยกันได้ เช่น “ณเดชน์” มีลักษณะสดใส มีพลัง ก็เหมาะกับการเป็นพรีเซ็นเตอร์เครื่องดื่มที่ให้ความสดชื่น แต่หากไปเป็นพรีเซ็นเตอร์แบรนด์หรู คนก็อาจยังไม่เชื่อ
สิ่งที่แบรนด์ต้องคำนึงถึงอย่างยิ่งคือโฆษณาแบบทีวีซีนั้น อย่าทำเป็นละคร แต่ต้องจับคาแร็กเตอร์ของพรีเซ็นเตอร์ให้สะท้อนคาแร็กเตอร์ของแบรนด์ให้ได้ เพราะไม่เช่นนั้น เม็ดเงินที่แบรนด์ทุ่มลงไปกับพรีเซ็นเตอร์ ก็จะสูญเปล่า