ดูเหมือนความนิยมในรถอีวีจะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ดูได้จากอัตราการเติบโตที่ยังคงร้อนแรงทั่วโลก แม้แต่ตลาดอันดับ 1 อย่าง จีน ที่ถึงจะสิ้นสุดโครงการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาล ส่วนตลาดก็ยังสามารถเติบโตได้ ส่วนตลาดอเมริกาเหนือก็เติบโตถึง 78%
ตามรายงานจากบริษัท Canalys เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก (รวม BEV และ PHEV) เพิ่มขึ้น 49% เป็น 6.2 ล้านคัน ในช่วงครึ่งแรกของปี โดยรถอีวีคิดเป็น 16% ของตลาดรถยนต์ขนาดเล็กทั่วโลก ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 12.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า
โดยตลาด จีน ยังเป็นตลาด EV ที่ใหญ่ที่สุดด้วยจำนวน 3.4 ล้านคัน คิดเป็น 55% ของยอดขายอีวีโลก โดยอัตราการเติบโตในช่วงครึ่งแรกอยู่ที่ 43% และยอดขายในเดือน ตุลาคม ที่ผ่านมา ถือเป็นยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าที่ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ แม้จะสิ้นสุดการอุดหนุนจากรัฐบาลแล้วก็ตาม และในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี ถือเป็นช่วงที่ตลาดรถยนต์ของจีนจะขายดีที่สุด ตามข้อมูลของ Rho Motion
“สิ่งที่น่าสังเกตเกี่ยวกับตัวเลขในเดือนตุลาคมก็คือ ความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าในจีนยังคงสูงเป็นประวัติการณ์ แม้ว่าเงินอุดหนุนจะถูกตัดออก โดยในปีนี้จะเป็นปีธงสำหรับยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า” บริษัทวิจัยตลาดกล่าว
ส่วน ยุโรป ตลาดรถอีวีที่ใหญ่เป็นอันดับสอง มีส่วนแบ่ง 24% มียอดส่งมอบ 1.5 ล้านคัน ก็เติบโตขึ้นอย่างมากถึง 26% อย่างไรก็ตาม การยกเลิกเงินอุดหนุนในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ส่งผลต่อความต้องการในเยอรมนีอย่างเห็นได้ชัด
“เงินอุดหนุนเป็นปัจจัยสำคัญในตลาดเยอรมนี เนื่องจากการจดทะเบียนรถยนต์โดยสารเกือบ 2 ใน 3 เป็นเชิงพาณิชย์”
ทั้งนี้ ในเดือนกันยายน ตลาดอีวีทั่วโลกเติบโต 34% ส่วนจีนเติบโต 29% ส่วนยอดขายรถอีวีใน อเมริกาเหนือ เพิ่มขึ้น 78% ในปีนี้
“ตลาดอเมริกาเหนือยังคงมีความแข็งแกร่งในปี 2023 โดยที่ Tesla ยังคงครองส่วนแบ่งความต้องการสูงสุด อย่างไรก็ตาม ส่วนแบ่งการตลาดของ Tesla ลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ประมาณ 50% ในช่วงไตรมาสที่สาม แม้จะมีการลดราคาก็ตาม”