TISCO ESU มองเศรษฐกิจโลกไม่ถดถอย แต่เติบโตชะลอตัวลง แนะนำลงทุนในพันธบัตรสหรัฐฯ ดีกว่าลงทุนหุ้น

Etf
Photo : Shutterstock
TISCO ESU คาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปี 2024 จะเติบโตแบบชะลอตัวเมื่อเทียบกับปี 2023 เป็นผลจากนโยบายการเงินของธนาคารกลางที่เข้มงวดในรอบหลายทศวรรษ ขณะที่การลงทุนในปีหน้านั้นมองว่าตลาดพันธบัตรโลกจะกลับมาให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่าตลาดหุ้นอีกครั้ง

ธรรมรัตน์ กิตติสิริพัฒน์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) ได้กล่าวถึงมุมมองเศรษฐกิจโลกในปี 2024 ที่จะถึงนี้ โดยเขามองว่าปีหน้าถือเป็นอีกปีที่เหนื่อยเช่นกัน ในช่วงที่ผ่านมาโลกพบกับปัญหาเงินเฟ้อ ทำให้ธนาคารกลางปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นเร็ว ทำให้ตอนนี้หลายประเทศมีโอกาสที่เศรษฐกิจถดถอยไม่เท่ากัน

หัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจของ TISCO ESU ยังมองว่า ถ้าประเทศในโซนตะวันตกปัญหที่เจออยู่คือเงินเฟ้อซึ่งถือว่าหนักมาก แตกต่างกับในทวีปเอเชีย

ขณะเดียวกัน ธรรมรัตน์ ยังมองว่าประเด็นเรื่องเงินเฟ้อได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ปีหน้า (ปี 2024) เขามองว่าน่าจะเป็นเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่น่าจะปรับลดลง ซึ่งจะเห็นจากตัวเลขทางเศรษฐกิจของหลายประเทศว่าเงินเฟ้อได้ลดลง ทำให้ TISCO ESU มองว่าธนาคารหลายประเทศน่าจะทยอยปรับอัตราดอกเบี้ยลดลง แต่อาจไม่ได้ลดเยอะมาก และมองว่าจะไม่เห็นการปรับลดดอกเบี้ยที่เร็วมากนัก

(ซ้าย) ธรรมรัตน์ กิตติสิริพัฒน์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ / (ขวา) คมศร ประกอบผล หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้

ในประเด็นของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ธรรมรัตน์ ยังมองว่าตลาดแรงงานในแดนมะกันยังคงตึงตัว หรือแม้แต่อัตรการมีส่วนร่วมของแรงงานที่ลดลงที่ยังมีช่องว่างอีกมาก

ทางด้านของเศรษฐกิจฝั่งยุโรปเองในช่วงที่ผ่านมายังมีปัญหาเรื่องของพลังงาน ขณะที่ปัจจุบันยุโรปแทบไม่ได้พึ่งพาก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียแล้ว แต่ผลกระทบดังกล่าวส่งผลทำให้ภาคการผลิตของยุโรป โดยเฉพาะในเยอรมันหดตัวลง ทำให้ปัจจัยดังกล่าวย้อนกลับไปที่ตัวเลขของเงินเฟ้อในยุโรปที่ยังสูงอยู่ จากผลของราคาพลังงานรวมถึงการผลิตที่ทำได้น้อยลง

ขณะที่เศรษฐกิจญี่ปุ่น TISCO ESU มองว่านโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่นอาจมีการกลับทิศทาง ในขณะที่ประเทศอื่นอาจมีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงนั้น ญี่ปุ่นอาจใช้นโยบายดอกเบี้ยตึงตัวขึ้น ทำให้ TISCO ESU คาดการณ์ว่าอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรญี่ปุ่นอาจอยู่ที่ 2% ส่งผลให้ค่าเงินเยนกลับมาแข็งค่าขึ้น ซึ่งท้ายที่สุดตลาดอาจช็อกกับผลที่เกิดขึ้นได้ 

สำหรับเศรษฐกิจจีนนั้น ธรรมรัตน์ มองว่าอย่าหวังพึ่งพิงเศรษฐกิจจีนในปี 2024 เขาให้เหตุผลว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีนยังกลับมาไม่ดีด้วยซ้ำ ขณะเดียวกันปัญหาของภาคอสังหาริมทรัพย์ยังไม่ฟื้นตัว ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของชาวจีน

ถ้าหากสรุปภาพรวมของเศรษฐกิจโลกแล้ว หัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจของ TISCO ESU มองว่าเศรษฐกิจโลกในปี 2024 นั้นจะเติบโตชะลอตัวลง แต่ไม่ได้ถึงขั้นถดถอยแต่อย่างใด โดยหากอ้างอิงจากการคาดการณ์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่มองว่าเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มพัฒนาแล้ว จะชะลอตัวลงต่อเนื่อง แต่ยังสามารถขยายตัวได้

ในขณะที่เศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนา แม้จะมีแนวโน้มชะลอลงบ้าง แต่จะยังขยายตัวได้ในอัตราที่สูงกว่าหากเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่หัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจของ TISCO ESU ก็มองว่าเรื่องของความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกถดถอยก็เป็นเรื่องที่ประมาทไปไม่ได้

เศรษฐกิจไทยในปี 2024 นั้น TISCO ESU คาดว่าจะเติบโตได้ 3.5% – Chart จาก TISCO ESU

ทางด้านของประเทศไทยมองว่าการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี 2024 จะอยู่ที่ 3.5% จากปัจจัยสำคัญคือภาคการส่งออก และการใช้จ่ายของภาครัฐ ซึ่ง 2 ปัจจัยดังกล่าวเป็นตัวร้ายในเศรษฐกิจไทยในปี 2023 มองว่าหลายปัจจัยจะกลับมาประคองเศรษฐกิจไทย

ถ้าหากมองผลบวกของนโยบาย Digital Wallet นั้น TISCO ESU มองว่าอาจช่วยเพิ่ม GDP ไทยได้ราวๆ 0.8 จุด (Percentage Point) ขณะที่เงินเฟ้อของไทยคาดว่าปีหน้าจะอยู่ที่ 2.5% ขณะเดียวกันก็มองว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยจะต้องอยู่มากกว่าตัวเลขเงินเฟ้อ

ในส่วนของกลยุทธ์การลงทุนในปี 2024 คมศร ประกอบผล หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ มองว่าผลตอบแทนของพันธบัตรน่าจะกลับมาได้แล้ว หลังจากในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา ผลตอบแทนของพันธบัตรถือว่าแย่มากๆ ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะดอกเบี้ยต่ำและธนาคารกลางการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษเพื่อต่อสู้กับภาวะเงินฝืดและกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวจากภาวะวิกฤต

ทำให้ในปี 2024 นี้ TISCO ESU มองว่าตลาดพันธบัตรโลกจะกลับมาให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่าตลาดหุ้นอีกครั้ง และจะกลายเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุด โดยคาดว่ามีโอกาสสร้างผลตอบแทนอยู่ที่ประมาณ 8-15% นอกจากนี้การลงทุนในพันธบัตรโลกโดยเฉพาะพันธบัตรสหรัฐฯ ยังมีความเสี่ยงยังต่ำกว่าตลาดหุ้นอีกด้วย